ไมเกรนนั้นเกิดจากความผิดปกติชั่วคราวของระดับสารเคมีในสมอง อาการปวดไมเกรนไม่จำเป็นต้องมีอาการรุนแรง ทั้งนี้ขึ้นกับอยู่กับร่างกายและจิตใจของแต่ละคนที่มีความสามารถกับความเจ็บปวดได้แตกต่างกันไป
แต่แม้ว่าจะมีอาการไม่รุนแรง หากอาการดังกล่าวเกิดขึ้นถี่ หรือมีระยะเวลายาวนาน หรือเกิดอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น คลื่นไส้ อาเจียน เป็นต้น ก็ควรเข้าพบแพทย์ เพื่อรับการตรวจโรคและรับรักษาอย่างถูกต้องจะดีที่สุด และบทความนี้เรามีวิธีนวดแก้ปวดไมเกรนมาฝากให้ทุกคนได้นำไปปรับใช้กัน
โรคไมเกรน คือ โรคที่เกิดจากการบีบตัว และคลายตัวของหลอดเลือดแดงในสมองมากกว่าปกติ ทำให้เกิด
อาการปวดศีรษะขึ้นอย่างรุนแรงและรวดเร็ว พร้อมกับมีอาการคลื่นไส้อาเจียน ในบางรายอาจมีอาการตาพร่ามัวหรือเห็นแสงระยิบระยับร่วมด้วย
คนเป็นโรคไมเกรนจะมีลักษณะต่าง ๆ ดังนี้
ไมเกรนนั้นเกิดจากความผิดปกติชั่วคราวของระดับสารเคมีในสมอง อาการปวดไมเกรนไม่จำเป็นต้องมีอาการรุนแรง ทั้งนี้ขึ้นกับอยู่กับร่างกายและจิตใจของแต่ละคนที่มีความสามารถกับความเจ็บปวดได้แตกต่างกันไป
แต่แม้ว่าจะมีอาการไม่รุนแรง แต่หากอาการดังกล่าวเกิดขึ้นถี่ หรือมีระยะเวลายาวนาน หรือเกิดอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น คลื่นไส้ อาเจียน เป็นต้น ก็ควรเข้าพบแพทย์ เพื่อรับการตรวจโรคและรับรักษาอย่างถูกต้องจะดีที่สุด
การนวดเป็นวิธีที่ช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะไมเกรนได้ดีและง่ายที่สุด วิธีการนวดให้นวดบริเวณขมับ ต้นคอ และช่วงไหล่ โดยนวดไปเรื่อย ๆ ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลายลง เส้นเลือดก็จะคลายตึง ไม่หดเกร็ง ทำให้อาการปวดศีรษะไมเกรนทุเลาลง
และถ้าจะให้ได้ผลดีมากขึ้น อาจหาพวกน้ำมันหอมระเหย เช่น น้ำมันเขียว น้ำมันการบูร หรือน้ำมันลาเวนเดอร์ เป็นต้น มาใส่ในขณะที่นวดด้วยจะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายได้เพิ่มขึ้น
อาการปวดไมเกรนในปัจจุบันยังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ดังนั้นการรักษาจึงเน้นไปที่การบรรเทาอาการและป้องกันการปวดศีรษะแทน และวิธีการนวดแก้ปวดไมเกรนจึงเป็นหนึ่งในหลายวิธีที่ใช้บรรเทาอาการปวดไมเกรนได้ดี
การนวดกดจุดจะช่วยบรรเทาอาการปวดหัว เวียนหัวได้ ช่วยกระตุ้นให้เลือดไปเลี้ยงสมองมากขึ้น ลดอาการตึง เกร็งของกล้ามเนื้อคอบ่า ระหว่างนวดกดจุดนั้น ยังช่วยบำบัดอาการทางจิตใจได้ ช่วยให้คลายเครียด
การนวดที่ได้ผลดีนั้น เมื่อกดไปแล้วต้องรู้สึกตึง ๆ หน่วง ๆ บริเวณตำแหน่งที่กด เพราะความรู้สึกเหล่านี้จะช่วยกระตุ้นระบบประสาท ให้เลือดไหลเวียนได้ดียิ่งขึน ทำให้ออกซิเจนและสารอาหารสามารถเลี้ยงร่างกายได้ทั่วถึง
การนวดกดจุดนั้นเป็นการนวดบรรเทาอาการปวดตามร่างกายรูปแบบหนึ่ง โดยช่วยคลายความตึงของกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ พร้อมกับช่วยให้จิตใจและร่างกายของผู้เข้ารับการนวดได้ผ่อนคลายและสงบลง นอกจากนี้ การนวดกดจุดอาจช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดและปรับสมดุลภายในร่างกาย ทำให้มีความเชื่อว่าการนวดกดจุดอาจช่วยบรรเทาโรคบางชนิดได้
1.ออกแรงนวดกดจุดอย่างพอดี
เวลากดจุด ต้องใช้แรงให้เหมาะสม คือกดลงไปตรง ๆ ลึก ๆ เพื่อกระตุ้นจุดต่าง ๆ เวลากดจุดอาจรู้สึกระบมหรือเจ็บบ้าง แต่ต้องไม่เกินทน ให้นึกถึงความรู้สึกเวลาไปนวดแล้วเจ็บแต่ก็สบายตัวในเวลาเดียวกัน
2.เลือกอุปกรณ์นวดแก้จุดให้เหมาะสม
อุปกรณ์ที่เหมาะสมในการนวดแก้จุด คือ “นิ้วมือ” และนิ้วกลางจะเหมาะสมที่สุดเพราะยาวและแข็งแรงกว่านิ้วอื่น ๆ หรือจะใช้นิ้วโป้งแทนก็ได้ แต่บางจุดที่เล็กและเข้าถึงยากอาจต้องใช้ปลายเล็บแทน นอกจากนิ้วมือแล้ว อาจต้องมีการใช้ข้อนิ้ว ข้อศอก เข่า ขา หรือ เท้า ต้องใช้ตามความเหมาะสม และก็อาจมีการใช้อุปกรณ์เสริม เช่น ของมน ๆ ไม่มีคม เช่น ยางลบ หรือดินสอ เป็นต้น
3.เพิ่มความผ่อนคลายด้วยน้ำมันหอมระเหย
ในระหว่างที่มีการนวด อาจมีการใช้น้ำมันหอมระเหยประกอบ เพื่อเพิ่มความผ่อนคลาย เช่น น้ำมันเขียว น้ำมันการบูร หรือ น้ำมันลาเวนเดอร์ เป็นต้น
อาการปวดหัวไมเกรนจะเจ็บปวดทรมานที่สุด แค่หายใจอย่างเดียวก็แทบไม่ไหวแล้ว ดังนั้นเราจึงขอแนะนำวิธีการนวดกดจุดด้วยตัวเองดู หรือจะไปหาผู้เชี่ยวชาญก็ได้ เพราะการนวดกดจุดจะช่วยบรรเทาอาการปวดหัวไมเกรนให้ได้
นวดกดจุดด้วยนิ้วโป้ง ค่อย ๆ กดลงไปลึก ๆ ค้างไว้ 4-5 วินาที ถ้าหาส่วนที่กลวง ๆ เป็นโพรงข้างต้นคอแถวท้ายทอยเจอแล้ว จะนวดด้วยนิ้วชี้หรือนิ้วกลาง หรือข้อนิ้วก็ได้ ผ่อนคลาย หายใจเข้า-ออกลึก ๆ ระหว่างนวดกดจุด สามารถนวดกดจุดนี้ได้นานถึง 3 นาทีเลย
ให้ใช้ปลายนิ้วชี้ 2 ข้างกดทั้ง 2 จุดพร้อมกันเป็นเวลา 1 นาที หรือจะกระตุ้นทีละข้างก็ตามความชอบ แค่ทำให้ครบ 1 นาทีทั้ง 2 ข้างก็พอ
ใช้นิ้วชี้ทั้งสองข้าง กดลงไปในจุดหัวคิ้วทั้งสอง พร้อม ๆ กัน กดค้างไว้นานประมาณ 10 วินาที ปล่อยมือออกแล้วกดลงไปซ้ำอีกครั้ง ทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งรู้สึกว่ามีอาการดีขึ้น
ใช้ปลายนิ้ว กดคลึงเบา ๆ วนเป็นวงกลมบริเวณขมับทั้ง 2 ข้าง จากนั้นให้เปลี่ยนไปใช้นิ้วโป้ง กดบริเวณขมับแล้วดันขึ้นด้านบนเล็กน้อย ขยับนิ้วโป้งจากตรงบริเวณขมับ ให้เลื่อนไปอยู่ตรงบริเวณเหนือใบหู ดันขึ้นด้านบนแล้วนับช้า ๆ 1-5 จากนั้นคล้ายนิ้วออก
ใช้นิ้วชี้และนิ้วกลาง กดลงไปในจุดที่ท้ายทอยทั้งสองข้างพร้อม ๆ กัน กดค้างไว้ประมาณ 10 วินาที ก็ปล่อยออก แล้วจึงทำซ้ำอีกจนกว่าจะรู้สึกว่าอาการดีขึ้น
ใช้หัวแม่มือทั้งสองข้างกดลงบนร่องสำหรับลดความดันหลังหู (พร้อม ๆ กับกำนิ้วทั้งสี่ที่เหลือ) แล้วใช้ข้อด้านข้างของนิ้วชี้ที่กำกับไว้กดบนใบหูด้านหน้า ใช้นิ้วหัวแม่มือกดและถูนวดเบา ๆ ประมาณ 2-3 นาที (อาจทำซ้ำ 2-3 ครั้งติดต่อกันก็ได้ จนกว่าอาการจะดีขึ้น)
เริ่มจากการใช้นิ้วขี้และนิ้วโป้งของมืออีกข้าง กดบีบลงที่จุดตรงกลางระหว่างนิ้วชี้กับนิ้วโป้ง กดลงไปแรง ๆ แต่ไม่ต้องให้ถึงกับรู้สึกเจ็บ ค้างไว้ประมาณ 10 วินาที แล้วจึงปล่อยออก ใช้นิ้วโป้งที่กดจุดนั้น กดหมุนเป็นวงกลมในบริเวณเดิม หมุนตามเข็มนาฬิกา 10 วินาที แล้วหมุนทวนเข็มนาฬิกาอีก 10 วินาที แล้วเริ่มทำให้ใหม่ข้างต้นที่มืออีกข้างหนึ่ง
กลุ่มคนที่ไม่สมควรใช้วิธีนวดแก้ปวดไมเกรน เพราะอาจเกิดข้อผิดพลาดที่ส่งผลให้เกิดอันตรายได้ คือ
สำหรับทางเลือกอื่นในการรักษาโรคไมเกรน ควรที่จะเป็นแนวทางการรักษาที่ได้รับจากแพทย์เท่านั้น
การกินยาแก้ปวดไมเกรนควรต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ เพราะมีผลข้างเคียงต่อร่างกายในระดับที่ต้องคอยดูแลในทันทีที่เกิดขึ้น
การใช้วิธีฉีดยาแก้ไมเกรนนั้นเป็นการรักษาที่ได้ผลดี โดยการฉีดยาชาเข้าที่เส้นประสาทบริเวณท้ายทอยแทบจะไม่มีผลข้างเคียง ยกเว้นอาการชาตามหนังศีรษะ เป็นการรักษาทางเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่อาจจะทนรับผลข้างเคียงของยาป้องกันไมเกรนตัวอื่น ๆ ไม่ได้
การฝังเข็มตามจุดต่าง ๆ บนร่างกายในผู้ที่ปวดศีรษะไมเกรน จะทำให้เลือดลมไหลเวียนสะดวก ลดอาการเลือดคั่ง ซึ่งจุดที่ฝังเข็มจะแตกต่างกันตามสภาวะของร่างกายของผู้ป่วยนั้น ๆ ต่างจากการแพทย์แผนตะวันตกที่จะใช้ตัวยาเดียวกันรักษา ซึ่งพบว่าบางคนสามารถหายขาดได้ ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาการดีขึ้น บางคนรักษาด้วยการฝังเข็ม 1-2 ครั้งอาการดีขึ้น
ส่วนใหญ่ใช้เวลา 8-10 ครั้ง มากน้อยแล้วแต่อาการและพื้นฐานร่างกายของผู้ป่วย องค์การอนามัยโลกให้การรับรองว่าการรักษาด้วยการฝังเข็มดีเทียบเท่า หรือมากกว่าการใช้ยา ปลอดภัย และไม่ต้องเสี่ยงต่อผลข้างเคียงจากยาอีกด้วย
เป็นอีกวิธีในการรักษาปวดไมเกรน การฉีดโบท็อกไมเกรน คือ การฉีดสาร Botulinum toxin ชนิด A หรือโบท็อก เพื่อบรรเทาอาการปวดไมเกรนจากความเครียด มีอาการปวดไมเกรนอย่างน้อย 14 วันต่อเดือนขึ้นไปหมอจะฉีดโบท็อกไมเกรนที่บริเวณใบหน้าระหว่างคิ้ว หน้าผาก ท้ายทอย ต้นคอ และบ่า เพื่อช่วยลดอาการปวดศีรษะ ตัวยาโบท็อกไมเกรนจะออกฤทธิ์หลังฉีดประมาณ 3-4 วัน และออกฤทธิ์สูงสุดในสัปดาห์ที่ 2 โดยมีผลลัพธ์อยู่ประมาณ 3-4 เดือนก่อนจะค่อย ๆ หมดฤทธิ์ลง
สำหรับผู้ที่ปวดไมเกรนขั้นรุนแรง และถูกจัดให้เข้าข่ายบุคคลที่ไม่สามารถรับการนวดแก้ปวดไมเกรนได้เราแนะนำให้เข้าพบแพทย์แทนเพื่อรับการตรวจเช็ค เพื่อหาวิธีป้องกันและรักษาไมเกรนได้ถูกวิธี
ปวดหัวไมเกรนเป็นหนึ่งในอาการปวดศีรษะเรื้อรังที่สร้างความทุกข์ทรมานให้กับผู้ป่วยไม่น้อย และการรักษาที่ดี คือ ป้องกันไม่ให้อาการปวดศีรษะไมเกรนกำเริบ ซึ่งสามารถรักษาได้ด้วยยาไมเกรน แต่เราขอแนะนำให้ใช้ “วิธีนวดแก้ปวดไมเกรน” ที่สามารถช่วยบรรเทาอาการไมเกรนได้โดยไม่ต้องพึ่งยา หากว่าอาการปวดไมเกรนอยู่ในระดับรุนแรง แนะนำว่าควรเข้าพบแพทย์เพื่อขอคำปรึกษา เพราะมีอีกหลายวิธีที่ใช้รักษาโรคไมเกรนได้
ขอบคุณเนื้อหาจาก https://www.migrainethailand.com/
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที