ผู้สูงอายุหลายๆคนมักจะมีอาการ ปวดเข่าบ้าง เข่าบวมบ้างหรืออาจะมีเสียงดังในเข่านั่นบ่งบอกถึงอาการข้อเข่าเสื่อมนั่นเอง ข้อเข่าเสื่อม คือ ภาวะที่กระดูกอ่อนผิวข้อเข่า เกิดการสึกหลอ เสื่อมลงอย่างช้าๆตามกาลเวลามักมีอาการเสื่อมตามอายุขัย ส่วนใหญ่มักเกิดกับผู้สูงอายุเพศหญิง มากกว่าเพศชาย
เนื่องจากผู้หญิงนั้นมักมีการนั่งพับเพียบบ้าง นั่งขัดสมาธิบ้างหรือการถอนสายบัวเพราะเป็นท่าที่ทำให้ข้อเข่านั้นถูกกดพับยิ่งถ้าทำท่าดังกล่าวนานๆบ่อยๆจะทำให้การหมุนเวียนของเลือดไปเลี้ยงข้อเข่าได้ไม่ดี และเมื่อสูงอายุแล้วไม่ได้ชื่นชอบการออกกำลังกายแล้วทำงานหนัก ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคข้อเข่าเสื่อมได้ด้วยเช่นกัน วิธีป้องกันหรือรักษาเบื้องต้น คือ ควรหลีกเลี่ยงการยกของหนัก การนั่งสมาธิเป็นเวลานานๆ
ข้อเข้าเสื่อมอาการปวดที่ข้อเข่ามักเกิดที่บริเวณหลังหัวเข่า ข้อเข่าเสื่อมเกิดจากการใช้งานส่วนข้อเข่ามาเป็นเวลานาน มักจะพบเห็นได้มากในกลุ่มของผู้สูงอายุ เมื่อกระดูสึกหลอไปหมดแล้วส่วนของกระดูกข้อเข่าจะมาชนกัน ก่อให้เกิดอาการเจ็บปวดอย่างรุนแรง และมีปัจจัยอื่นๆที่ทำให้ข้อเข่าเสื่อมได้ เช่น โรคข้ออักเสบหรือติดเชื้อในข้อเข่านั่นเอง
ข้อเข่าเสื่อมอาการนี้มีหลายปัจจัยที่ทำให้ข้อเข่าเสื่อมได้ เช่น
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับเสียงที่หัวเข่าได้ที่ "หัวเข่ามีเสียง"
ตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป เนื่องจากเมื่อมีอายุมากขึ้นแล้วโรคข้อเข่าเสื่อมในผู้สูงอายุก็มักจะพบเห็นกันเป็นประจำเพราะว่าอายุที่มากขึ้นก็ทำให้ความสามารถในการซ่อมแซมตัวเองของกระดูกอ่อนลดลงนั่นเอง
ในระยะแรกขอโรคข้อเข่าเสื่อมนั้นกระดูกอ่อนของผิวข้อจะยังสึกหลอไม่มาก จะเกิดอาการเจ็บข้อเข่าได้เฉพาะช่วงเวลาที่ทำกิจกรรมที่ต้องใช้ข้อเข่าเยอะๆหรืออาจจะมีอาการในขณะ เดินขึ้นหรือเดินลงบันได นั่งยองๆ นั่งพับเพียบหรือเดินทางไกล ในระยะนี้อาการจะไม่ร้ายแรงมาก ปวดไม่นานก็หายหรือปวดเป็นช่วงๆตามกิจกรรมที่ทำไปและสามารถดีขึ้นเองได้ในช่วงเวลาไม่นาน
ในช่วงระยะกลางนี้ความสึกหลอของกระดูกอ่อนของผิวจะเพิ่มมากขึ้น มีการอักเสบต่อเนื่องในข้อเข่าจะมีอาการปวดเข่าบ่อยขึ้นหรือมีเสียงดังกรอบแกรบในข้อเข่า อาการเจ็บหรือปวดจะมีในช่วงการเดิน ลุกขึ้นยืนหรือยืนเฉยๆได้ ส่วนการทำกิจกรรมที่ใช้ข้อเข่ามากก็จะมีอาการเจ็บปวดมากขึ้น ในระยะนี้อาการปวดหรืออักเสบจะไม่หายเองหรือไม่หายสนิท
ในระยะรุนแรงนี้กระดูกอ่อนที่สึกหลอลงไปอาจบางจนไม่เหลือแล้ว อาจจะส่งผลให้ ขาโก่ง ข้อเข่าผิดรูป งอเหยียดได้ไม่สุด เดินตัวเอียง อาการเจ็บปวดในระยะรุนแรงนี้ทำให้ทุกการทำกิจกรรมไม่ว่าจะเป็นการเดิน ยืน หรือขยับเข่าก็จะมีอาการเจ็บปวดทุกครั้งแต่อาจจะไม่มีอาการเจ็บปวดเลยได้เช่นกันหากข้อเข่าติดแข็งมาก เคลื่อนไหวได้น้อย
1.การตรวจวินิจฉัยข้อเข่า
2.การประเมินความรุนแรง
3.การรักษาข้อเข่าเสื่อมที่เหมาะสม
การออกกำลังกายนอกจากช่วยเพิ่มความแข็งแรงของร่างกายแล้วยังช่วยรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมได้ด้วย โดยช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อส่วนเข่าได้ และกล้ามเนื้อส่วนเข่าก็จะช่วยรับน้ำหนักทำให้เข่าของเราไม่ต้องรับน้ำหนักจนมากเกินไป
ข้อเข่าเสื่อมรักษาด้วยการใช้ยาแบบรับประทาน โดยยาที่มักนิยมใช้กัน คือ พาราเซตามอล หรือ อะเซตามิโนเฟน เนื่องจากจะไม่ทำให้เกิดอาการติดยาเป็นยาสามัญประจำบ้านที่หาซื้อได้ง่ายตามร้านขายยาทั่วไป มีคุณสมบัติช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวด ปวดข้อเข่า ปวดกล้ามเนื้อได้
การรักษาข้อเข่าเสื่อมด้วยยาทา จะมีด้วยกันสองรูปแบบ ครีมเจล หรือ สเปรย์ แบบครีมเจลจะใช้ทาบริเวณผิวหนังด้านนอกข้อเข่าทาเมื่อรู้สึกปวด จะช่วยบรรเทาได้ทันที ส่วนแบบสเปรย์นั้นมีคุณสมบัติเหมือนแบบทาแต่จะไม่ช่วยลดอาการอักเสบหรือรักษาข้อเข่าเสื่อมได้
การ Ultrasound therapy จะช่วยลดอาการปวด อาการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อ รักษาอาการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อ และข้อต่อในชั้นลึก ช่วยในการเร่งกระบวนการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ โดยจะเพิ่มการไหลเวียนเลือด เพิ่มความยืดหยุ่นให้กับเนื้อเยื่อ
การใช้ High Power Laser therapy ช่วยให้เกิดการกระตุ้นปลายประสาท ลดอาการปวด อาการอักเสบ โดยตัวเลเซอร์จะมีผลความร้อน ช่วยทำให้หลอดเลือดขยายตัวได้ มีผลในการนำเลือดและออกซิเจนมาเลี้ยงเซลล์มากขึ้น ช่วยเร่งกำจัดของเสีย ลดการอักเสบ
ตัวเลเซอร์มีจุดเด่นในการปรับพลังงานของเซลล์ (ATP) จากการกระตุ้นการขนส่งออกซิเจน ไมโตรคอนเดรีย ภายในเซลล์ให้เร็วขึ้น ผลจาก ATP ที่มากขึ้นช่วยให้เซลล์ซ่อมแซมฟื้นฟูได้รวดเร็วมากขึ้น
การรักษาแบบชีวภาพ ช่วยป้องกันโรคโดยการนำเอาพลาสมาหรือของเหลวในร่างกายมนุษย์มาใช้ในการรักษาโรคทางกระดูก เช่น ข้อเข่าเสื่อม โดยเป็นทางเลือกใหม่ในการรักษาข้อเข่าเสื่อมได้ มีส่วนช่วยกระตุ้นการซ่อมแซมของเซลล์และเนื้อเยื่อที่ฟื้นตัวตามธรรมชาติได้ยาก ทำให้สามารถฟื้นคืนสภาพได้ดีขึ้น
การผ่าตัดด้วยวิธีส่องกล้อง โดยส่วนใหญ่จะใช้วิธีนี้กับผู้ป่วยที่ กระดูกแตก เอ็นข้อขาด เป็นต้น วิธีนี้คือการใช้กล้องขนาดเล็กสอดเข้าไปและเชื่อมต่อสัญญาณกับจอภาพมีส่วนช่วยให้เห็นข้อเข่าได้ชัดเจน
การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่นิยมเพราะช่วยลดอาการปวด เพิ่มความสามารถในการเคลื่อนไหวได้ ช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตให้ผู้มีอาการข้อเข่าเสื่อม
ข้อเข่าเสื่อมรักษาได้ไม่ต้องผ่าตัด โดยการรักษาด้วยตนเองได้เบื้องต้น เช่น การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การลดน้ำหนัก ไม่ขึ้นลงบันไดโดยไม่จำเป็น หลีกเลี่ยงการยืนหรือการนั่งเป็นเวลานานๆ โดยวิธีเหล่านี้ก็จะเป็นวิธีเบื้องต้นที่ช่วยรักษาหรือลดอาการปวดจากข้อเข่าเสื่อมได้ด้วยตนเอง
ข้อเข่าเสื่อมควรบำรุงด้วยอาหาร เช่น
1.ปลา เพราะปลาเป็นหนึ่งในอาการที่มีแคลเซียมจำนวนมากมีส่วนช่วยบำรุงกระดูกให้แข็งแรง
2.นม เพราะแคลเซียมในนมนั้นช่วยในการดูดซึม แถมการดื่มนมเป็นประจำก็ช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุนได้
โยเกิร์ต ช่วยให้กระดูกแข็งแรง ป้องกันโรคกระดูกเสื่อมได้ เพราะนอกจากมีแคลเซียมแล้ว ยังมีวิตามินดี แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส ซึ่งล้วนแต่เป็นแร่ธาตุที่มีส่วนสำคัญที่ทำให้กระดูกมีความแข็งแรง
3.กล้วย ช่วยป้องกันการเกิดโรคกระดูกเสื่อม ข้อเข่าเสื่อมได้ เพราะกล้วยมีวิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี เหล็ก โปแตสเซียม และ แมกนีเซียม ซึ่งจะช่วยควบคุมการเจริญเติบโต ของโครงสร้างกระดูกได้นั่นเอง
4.ถั่วอัลมอนด์ มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง อีกทั้งยังช่วย เพิ่มมวลของกระดูกด้วย ซึ่งถั่วอัลมอนด์เหมาะกับผู้ป่วย โรคกระดูกพรุน
สรุปแล้วอย่างที่หลายคนสงสัยว่าข้อเข่าเสื่อมรักษาหายไหม ในปัจจุบันข้อเข่าเสื่อมยังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่สามารถบรรเทาอาการลงได้ โดยมีจุดมุ่งหมายของการรักษาคือการบรรเทาอาการปวดและทำให้ข้อเข่ากลับมาใช้งานปกติให้ได้มากที่สุดนั่นเอง
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที