วัตพล

ผู้เขียน : วัตพล

อัพเดท: 09 มิ.ย. 2022 12.46 น. บทความนี้มีผู้ชม: 4384 ครั้ง

แสงอาทิตย์ทำให้ผิวของเราดำคล้ำ นั่นเป็นสื่งที่คนทั่วไปเข้าใจ แต่อะไรข้างในแสงแดดที่ทำให้ผิวของเราคล้ำขึ้น นั่นคือ รังสีอัลตราไวโอเลต หรือเรียกอีกชื่อว่า รังสีเหนือม่วง มันเป็นรังสีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่เกิดจากการแผ่ของดวงอาทิตย์ ซึ่งตาของมนุษย์ไม่สามารถมองเห็นได้ และวันนี้เราจะมาหาคำตอบกันว่า ถึงคุณลักษณะของรังสีอัลตราไวโอเลต ประโยชน์ของมันมีอะไรบ้าง และมีผลเสียหรือไม่


วิตามินดีจากแสงแดด คุณประโยชน์ที่ธรรมชาติหยิบยื่นให้

ไม่มีใครชอบความร้อน โดยเฉพาะที่มาจากแสงแดด เพราะกลัวผิวคล้ำ เป็นฝ้าแดด เป็นต้น  ดังนั้นเราควรที่จะมาทำความรู้จักกับแสงแดดกัน  เพราะแสงแดดนั้น นอกจากจะช่วยในการมองเห็น ยังช่วยให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย และยังเป็นแหล่งที่มาในการสร้างวิตามินดีได้มาก และง่ายที่สุด ซึ่งวิตามินดีจะช่วยปรับระดับแร่ธาตุเช่น แคลเซียม และฟอสเฟต ซึ่งมีส่วนในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย 

แสงแดด (sunlight) คือ แสงทั้งหมดจากดวงอาทิตย์ที่สาดส่องถึงตัวเรา ซึ่งเป็นแสงประเภทคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (Electromagnetic radiation) เป็นแสงที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของแสงแดด โดยแบ่งประเภทตามความยาวของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าคือ แสงอัลตราไวโอเลต (Ultraviolet light)มีปริมาณ 5% ของแสงทั้งหมด, แสงที่ดวงตามองเห็น (Visible light) มีปริมาณ 45%, และแสงอินฟราเรด (Infrared) มีปริมาณ 50% ซึ่งเป็นพลังงานต่ำที่สุด ซึ่งถัดมาเราจะมาทำความเข้าใจกับวิตามินที่มีความเกี่ยวข้องกับแสงแดด อย่างวิตามินดี สำหรับวิตามินดีนั้น มีอยู่ 2 ชนิด คือ

1. วิตามินดี 2 พบได้เฉพาะในพืชเท่านั้น

2. แต่ถ้าได้รับวิตามินดี จากแสงแดด จะเป็น วิตามินดี 3  ซึ่งจะได้จากการสังเคราะห์ที่ผิวหนังเมื่อโดนแสงแดดอ่อนๆ เท่านั้น

วิตามินดีจากแสงแดด

วิตามินดี จากแสงแดด มีประโยชน์ต่อเรายังไงบ้าง

นอกเหนือจากการรับประทานอาหารให้ครบ  5 หมู่ การได้รับแสงแดดในปริมาณที่เหมาะสม จะช่วยเสริมสร้างวิตามินดีในร่างกาย และ“วิตามินดีจากแสงแดด”จะช่วยในเรื่องต่อไปนี้  

 

1. ช่วยให้ร่างกายตื่นตัว

การรับแสงแดดช่วงเช้าจะทำให้ได้รับสารเอนโดนฟิน ทำให้อารมณ์ดี แจ่มใส ส่งผลถึงสุขภาพจิตที่ดี

วิตามินดีจากแสงแดด ทำให้ร่างกายตื่นตัว

2. ช่วยควบคุมระดับแคลเซียมในร่างกาย

วิตามินดี ในแสงแดดตอนเช้า จะมีผลในการควบคุมระดับแคลเซียมในร่างกาย ซึ่งกระดูกและฟันของเราจำเป็นต้องได้รับแคลเซียมที่เหมาะสม เพื่อไปบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง ป้องกันโรคกระดูกพรุน ดังนั้นร่างกายจึงขาดวิตามินดี ไม่ได้เลยเป็นอันขาด

วิตามินดีจากแสงแดด ควบคุมระดับแคลเซียมในร่างกาย

3. ลดการเสี่ยงมะเร็ง

วิตามินดี ช่วยป้องกัน ลดการเสี่ยงมะเร็งได้ ทั้งมะเร็งผิวหนัง มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ และมะเร็งอื่นๆ ได้อีกมากมาย

 วิตามินดีจากแสงแดด ลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง

4. ช่วยสร้างภูมิต้านทาน

วิตามินดีจากแสงแดดจะช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทาน เพราะเม็ดเลือดแดงจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้มากขึ้น ทำให้การลำเลียงออกซิเจนทำงานดีขึ้น เมื่อได้รับออกซิเจนดีขึ้น เซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายก็ทำงานดีขึ้น

วิตามินดีจากแสงแดด ช่วยสร้างภูมิต้านทาน

5. ช่วยลดน้ำหนัก

ช่วยลดน้ำหนักได้ เพียงแค่ตื่นเช้าๆออกไปรับแสงแดด ก็ทำให้การกระตุ้นของระบบเผาผลาญดีขึ้น ถ่ายของเสียออกจากร่างกายได้ดีขึ้นด้วย

วิตามินดีจากแสงแดด ช่วยลดน้ำหนัก

6. ช่วยทำให้หลับสบายขึ้น

วิตามินดีจากแสงแดดจะช่วยทำให้หลับสบาย ง่ายขึ้น เพราะแสงแดดที่เราได้รับ ช่วยในการสร้างฮอร์โมน Melatonin เป็นฮอร์โมนที่ผลิตตอนเราหลับ ทำให้การหลับของคุณดีขึ้น

วิตามินดีจากแสงแดด ช่วยให้หลับสบาย

ปริมาณวิตามินดีที่หมาะสม และรับแสงแดดกี่โมงถึงจะดีที่สุด

ช่วงเวลาที่แสงแดดมีประโยชน์ต่อร่างกาย คือ แสงแดดตอนเช้า ในช่วงเวลา 06.00 – 08.00 น,

(ก่อน 9 โมงเช้า) และแสงแดดช่วงเย็น หลัง 16.00 น.

ปริมาณวิตามินดีที่หมาะสม

ปริมาณของวิตามินดีที่แนะนำว่า ควรจะได้รับต่อวัน คือ 600 IU (International units) สำหรับ

ผู้ใหญ่จนถึงวัย 70 ปี

รับแสงแดดกี่โมงถึงจะดีที่สุด

การรับแสงแดดทำได้โดยการสวมใส่เสื้อผ้าเผยผิวช่วงแขนและขา แสงแดดที่เหมาะสมต่อการสังเคราะห์

วิตามินดี ควรเป็นแสงแดดอ่อน ๆ ที่ไม่แสบร้อนจนทำร้ายผิวในระยะยาวได้  ระยะเวลาในการรับแสงแดด

ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล แต่โดยเฉลี่ยที่เหมาะสมอยู่ที่ประมาณ 10-15 นาทีต่อวัน  ส่วน

ช่วงเวลาที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เพราะแต่ละประเทศหรือแม้แต่พื้นที่ในประเทศเดียวกัน ก็มี

ความแตกต่างกันทางภูมิประเทศ ภูมิภาค สภาพอากาศ เป็นต้น

 

แต่สำหรับกระดูกที่กำลังจะเจริญเติบโตจะแข็งแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถ้าได้รับวิตามินดีที่เหมาะสม ดังนั้น

ช่วงเวลาก่อน 09.00 น. และหลัง 16.00 น. จะเป็นเวลาที่ดี

แต่ถ้าโดนแดดมากเกินไป อันตรายกว่าที่คิด!

หากร่างกายได้รับแสงแดดมากเกินไป และเป็นเวลานานเกินไป ในช่วงเวลา 9.00 – 15.00 น.

ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่แสงแดดมีความเข้มข้นของรังสียูวีมากเกินไป ก็จะส่งผลร้ายต่อผิวหนังได้

- ทำให้ผิวหนังไหม้

- รังสี UV จะเข้าทำลาย DNA จนอาจทำให้เกิดโรคมะเร็งผิวหนังได้

- ทำลายเซลล์เม็ดเลือดขาว กระทบถึงระบบภูมิคุ้มกันได้ภายใน 24 ชั่วโมง

- ทำให้ผิวหนังอักเสบติดเชื้อได้ง่าย โรคผิวหนัง และโรคระบบอื่น ๆ กำเริบ เช่น ลมพิษ เป็นต้น

ทำให้ผิวพรรณเหี่ยวนย่นก่อนวัยอันควร
- ทำให้กระจกตาอักเสบ เป็นโรคต้อกระจก ต้อเนื้อ
- ทำให้เป็น กระแดด และฝ้า
- ทำให้มีอาการฮีทสโตรก (ลมแดด)
 
แต่หากหลีกเลี่ยงแสงแดดจากการตากแดดไม่ได้ ก็จำเป็นต้องใช้ตัวช่วย เช่น ครีมกันแดด ที่มีคุณสมบัติ

ป้องกันทั้งรังสี UVA (ดูจากค่า PA) และ รังสี UVB (ดูจากค่า SPF)  เช่น

 
Photoderm Aquafluide หรือ
- Photoderm Cover Touch
 
ซึ่งครีมทั้ง 2 ชนิด เป็นครีมกันแดดจากประเทศฝรั่งเศส มีคุณสมบัติ SPF50+ และ PA++++

เป็นครีมกันแดดสูตรน้ำ เนื้อบางเบา ไม่มัน สามารถลดการเกิดจุดด่างดำ ปกป้องรังสี UVA, UVB

ได้อย่างล้ำลึกทั้งภายในและภายนอก คุมมัน  ใช้ง่าย ควรทาก่อนออกแดดอย่างน้อย 15 นาที

 ครีมกันแดด bioderma ป้องกัน uv จากแสงแดด

 

สรุป

ถึงแม้ว่าเราจะอยู่ในประเทศที่จัดอยู่ในแถบร้อนที่มีแสงแดดอยู่ทุกฤดูกาล แต่เพราะแสงแดดมีทั้งประโยชน์

และโทษต่อร่างกายของเรา  ดังนั้นทุกคนสมควรรู้จักการป้องกันแสงแดดอย่างถูกวิธี และรู้วิธีการใช้สารกัน

แดดที่ถูกต้อง เพื่อที่กระบวนการการเกิดผิวไหม้เสียจะลดน้อยลง ทั้งยังช่วยกระตุ้นให้ผิวหนังผลิตวิตามินดี

จากการได้รับแสงแดดภายในเวลาและปริมาณที่เหมาะสมด้วย

 

 


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที