ในช่วงเศรษฐกิจซบเซาแบบนี้ แถมยังเจอโรคระบาดอีก เรียกได้ว่าทุกคนอยู่ในสภาพย่ำแย่แบบหลายเท่า จึงทำให้ผู้ประกอบการขาดสภาพคล่องทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้ขาดรายได้และบางรายต้องจำใจปิดกิจการในที่สุด เพื่อไม่ให้การขาดทุนมันลุกลามเหมือนไฟไหม้ทุ่ง การรีบตัดขาดทุนก็เป็นเหมือนยาที่ช่วยบรรเทาอาการปวดในระยะชั่วคราว แต่หากอยากจะกลับมายืนในจุดเดิมได้ ก็ต้องมีเงินทุนเพิ่ม เพื่อนำมาลงทุนและสร้างรายได้ต่อไป
ด้วยเหตุนี้ บัตรกดเงินสดจึงเป็นอีกทางเลือกในการกู้ยืม มีสภาพคล่องสูงเนื่องจากสามารถกดออกมาเป็นเงินสดได้ และเป็นการกู้ยืมในระบบ ซึ่งถูกกฎหมาย ปลอดภัย และที่สำคัญดอกเบี้ยต่ำกว่ากู้หนี้นอกระบบ ในวันนี้เรามาทำความรู้จักกันว่าบัตรกดเงินสดคืออะไร และเหมาะกับใครบ้าง และเราจะเลือกบัตรกดเงินสดกับสถาบันการเงินที่ไหนดี ที่คุ้มค่า และให้วงเงินสูง
บัตรกดเงินสดคือสินเชื่อการให้กู้ยืมที่ออกโดยสถาบันการเงินต่างๆ เช่น ธนาคาร เป็นต้น โดยบัตรกดเงินสดนั้นสามารถกดเงินสดออกมาได้ เพียงแค่ไปกดเงินที่ตู้ ATM ที่รองรับบัตรก็ได้เงินมาใช้ได้ในทันที โดยการคิดดอกเบี้ยจะขึ้นอยู่กับแต่ละธนาคาร แต่ละสถาบันการเงินที่ออกบัตรให้กับเรา
โดยทั่วไปแล้ว บัตรกดเงินสดพร้อมให้บริการในทุกธนาคาร ในวันนี้เราขอนำข้อมูลบัตรกดเงินสดจาก 10 ธนาคาร เพื่อเป็นตัวอย่างและเราก็สามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปศึกษาเพิ่มเติมและเปรียบเทียบดอกเบี้ยกับสถาบันการเงินอื่นๆ ได้อีกด้วย
สมัครบัตรกดเงินสด First Choice
ข้อดีของบัตรกดเงินสด กรุงศรี เฟิร์สช้อยส์
ข้อดี
ข้อเสีย
รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถดูได้ที่เว็บไซต์กรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ได้โดยตรง
บัตรกดเงินสด ttb flash
ข้อดี
ข้อเสีย
รายละเอียดเพิ่มเติม สามารถดูข้อมูลได้ที่เว็บไซต์ของ ttb ได้โดยตรง
บัตรกดเงินสด ซิตี้ เรดดี้เครดิต
บัตรกดเงินสดกสิกรไทย K Express Cash
ข้อดี
ข้อเสีย
บัตรกดเงินสด Aeon
ข้อดี
ข้อเสีย
บัตรกดเงินสดยูเมะพลัส
ข้อดี
ข้อเสีย
บัตรกดเงินสดเคทีซี พราวด์
ข้อดี
ข้อเสีย
People Card ธนาคารออมสิน
ข้อดี
ข้อเสีย
บัตรสินเชื่อบุคคลธนชาต แฟลชพลัส
ข้อดี
ข้อเสีย
บัตรสินเชื่อยูโอบี ไอ แคช
*MRR หมายถึง Minimum Retail Rate หรือ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขั้นต่ำที่ธนาคารเรียกเก็บจากลูกค้ารายย่อยชั้นดี
ข้อดี
ข้อเสีย
อ่านมาถึงตรงนี้แล้วหลายคนคงสงสัยว่า ทำไมบัตรกดเงินสดสมัยนี้ดีจัง รูดผ่อนสินค้าได้เหมือนบัตรเครดิตเลย แล้วแบบนี้ บัตรกดเงินสดต่างกับบัตรเครดิตยังไงบ้างนะ มาดูรายละเอียดกัน
เริ่มที่บัตรเครดิตก่อน บัตรเครดิตเป็นบัตรใช้จ่ายสินค้าแทนเงินสดที่ทางธนาคารอนุมัติวงเงินตามเงื่อนไขของธนาคาร โดยข้อดีของบัตรเครดิตคือสามารถซื้อสินค้าหรือผ่อนสินค้าได้ ตามเงื่อนไขของทางธนาคารและร้านค้าที่ใช้บริการ
บัตรเครดิตมีข้อดีก็คือ เมื่อรูดไปแล้ว สามารถจ่ายคืนได้เต็มจำนวนตามเวลาที่ธนาคารกำหนด ก็จะไม่เสียดอกเบี้ยสักบาทเดียว เสมือนเป็นการนำเงินในอนาคตมาใช้วันนี้ก่อนแล้วค่อยคืนวันหลัง แต่ถ้าค้างชำระเกินกำหนดก็อาจจะโดนดอกเบี้ยจุกๆ ประมาณ 20% ต่อปีเลยทีเดียว ในด้านของบัตรกดเงินสดนั้น ช่วยให้เรากดเงินสดออกมาได้โดยที่ไม่ต้องมีอะไรมาค้ำประกัน เพิ่มสภาพคล่องให้กับเราในระยะสั้น จึงทำให้ดอกเบี้ยสูงมากกว่า 20% ต่อปี
การชำระหนี้บัตรกดเงินสด สามารถทำได้หลายแบบ ได้แก่ การจ่ายแบบรายเดือน การจ่ายขั้นต่ำ การคิดดอกเบี้ยจะเป็นการลดต้นลดดอก แนะนำว่าหากใครกดเงินสดมาใช้แล้ว เวลาชำระหนี้คืนก็ควรชำระทีละเยอะๆ เพื่อที่จะได้หมดหนี้ไวและไม่ต้องจ่ายดอกนานซึ่งแพงมากและที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต หรือ บัตรกดเงินสด ผู้ใช้งานควรมีวินัยทางการเงินสูงมาก มิเช่นนั้นหนี้อาจจะพอกพูนจนคุณไม่สามารถแก้ไขอะไรได้
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที