ปัญหาหน้าเป็นฝ้า กระ และกระลึกกลายเป็นหนึ่งในปัญหาผิวที่คอยกวนใจใครหลายคนกันอยู่ไม่น้อย เพราะเมื่อเกิดขึ้นบนใบหน้าแล้ว ก็ยากที่จะรักษาให้หายขาด เพราะสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ มีรอยปื้นๆ บนใบหน้า และมีจุดสีเข้มปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน ทำให้หลายคนต้องสูญเสียความมั่นใจจากปัญหาผิวนี้ไปอย่างน่าเสียดาย
หลายคนที่กำลังประสบกับปัญหาผิวนี้ ต่างพยายามหาวิธีรักษาฝ้า กระ และตัวช่วยต่างๆ ที่จะช่วยให้ผิวหน้ากลับมาขาวใส ไร้ฝ้ากันอย่างสุดความสามารถ แต่ทว่าเพราะความเข้าใจผิดบางอย่างเกี่ยวกับฝ้า กระ และการดูแลผิวแบบผิดวิธี นอกจากจะไม่ช่วยให้ปัญหาฝ้า กระดีขึ้นแล้ว ยังเป็นการซ้ำเติมผิวให้เกิดฝ้า กระให้ฝังลึกมากยิ่งขึ้น
"ฝ้า" จึงเป็นเรื่องที่เซ้นซิทีฟมาก ๆ ในปัญหาผิวหน้าทั้งหมด วันนี้เราจะมาดูกันตั้งแต่ฝ้าคืออะไร? ฝ้ามีกี่ชนิด? ฝ้าเกิดจากอะไร? และวิธีการป้องกันและรักษาฝ้า
ฝ้า (Melasma) คือ ปื้นสีน้ำตาลอ่อนถึงเข้ม หรือดำ กลายเป็นฝ้ากระจุดด่างดํา เกิดจากการที่เซลล์เม็ดสีใต้ชั้นผิวหนัง หรือเม็ดสีเมลานินทำงานมากขึ้นผิดปกติ จึงสร้างเม็ดสีออกมามากกว่าเดิม โดยมักจะขึ้นเป็นวงเล็ก ๆ สีน้ำตาลก่อน แล้วถ้าไม่หาทางหยุดฝ้า หรือป้องกัน ก็จะค่อย ๆ ขยายเป็นปื้นและฝังลึกลง
ไปในเซลล์ผิว โดยเฉพาะบริเวณโหนกแก้ม ซึ่งฝ้ามักเกิดกับผู้หญิงวัยกลางคนอายุประมาณ 30-40 ปีขึ้นไป ซึ่งผู้หญิงมีโอกาสเป็นฝ้ามากกว่าผู้ชายถึง 9 เท่า
โดยใบหน้าที่เม็ดสีถูกลำเลียงสู่ผิวชั้นบนสุดหรือชั้นหนังกำพร้ามีลักษณะเข้มและขอบชัด เรียกว่า ฝ้าตื้น ส่วนเม็ดสีที่อยู่ใต้ต่อชั้นหนังกำพร้าลงมา และมีบางส่วนที่ตกค้างอยู่ในชั้นหนังแท้ มักจะมีสีอ่อนกว่าอาจเป็นสีม่วงอมน้ำเงิน ขอบเขตไม่ชัด เรียกว่า ฝ้าลึก โดยคนส่วนมากมักมีฝ้าทั้ง 2 ชนิดปนกัน
โดยสิ่งที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดเลยคือ ฝ้า จะมีลักษณะเป็นปื้นและมีขนาดใหญ่กว่าขอบเขตไม่ชัดเจน ขณะที่ กระ จะเป็นจุดกลม ๆ เล็ก ๆ มีขอบชัดเจน โดย ฝ้า กระ จุดด่างดำ ต่างก็มีลักษณะเป็นของตัวเอง เช่น
ฝ้า มีลักษณะเป็นปื้น ๆ แผ่น ๆ เม็ดสีติดกันเป็นรอยคล้ำสีน้ำตาลอ่อน มักเกิดเป็นฝ้าตรงโหนกแก้ม คาง หน้าผาก หรือฝ้าขึ้นหน้า เป็นต้น
กระ เป็นจุด ๆ สีน้ำตาลเข้ม ขนาดเล็ก กระจายตัวทั่วบริเวณผิวโดยแยกชนิดของกระเป็น กระตื้น กระลึก และกระแดด
จุดด่างดำ เกิดจากการสร้างเม็ดสีเมลานินในชั้นผิวหนังมากขึ้นกว่าปกติ ทำให้สีผิวบริเวณนั้นมีสีเข้มขึ้นกว่าผิวบริเวณรอบ ๆ ซึ่งจุดด่างดำเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย พบได้ง่าย และพบได้กับสีผิวทุกระดับ
สาเหตุของฝ้า เกิดจากหลายปัจจัยที่อาจเพิ่มการสร้างเม็ดสีมากผิดปกติ เช่น
โดยหากถามว่าฝ้ามีกี่ชนิดนั้น โดยฝ้ามีหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทของฝ้านั้น เช่น ฝ้าแดด ฝ้าเลือด ฝ้าตื้น ฝ้าลึก ฝ้าแบบผสม ล้วนมีลักษณะเฉพาะ และวิธีรักษาที่แตกต่างกันออกไป ได้แก่
โดยหากถามว่าฝ้าแดดเป็นแบบไหน ซึ่งฝ้าแดดเกิดจากรังสียูวีเอและยูวีบีจากแสงแดด หลอดไฟ แสงสีฟ้าจากคอมพิวเตอร์ และสมาร์ทโฟน
ฝ้าเลือด หรือฝ้าแดงเกิดจากความผิดปกติของเลือดลมและฮอร์โมน เกิดเป็นลักษณะผิวแดงง่ายเมื่อโดนความร้อนหรือแสงแดด
ฝ้าลึก เกิดจากเซลล์สร้างเม็ดสีใต้ผิวหนังทำงานมากขึ้นกว่าปกติ จึงสร้างเม็ดสีออกมามากกว่าเดิม โดยเม็ดสีที่อยู่ใต้ต่อชั้นหนังกำพร้าลงมา และมีบางส่วนที่ตกค้างอยู่ในชั้นหนังแท้ มักจะมีสีอ่อนกว่าอาจเป็นสีม่วงอมน้ำเงิน ขอบเขตไม่ชัด
ฝ้าแบบผสม เกิดทั้งในระดับชั้นหนังกำพร้าและหนังแท้รวมกัน โดยตรงกลางมักมีสีเข้มแสดงถึงฝ้าในชั้นหนังแท้ ส่วนขอบมักมีสีจางกว่าแสดงถึงฝ้าในหนังกำพร้า ฝ้าชนิดนี้ยังเป็นฝ้าที่พบได้มากที่สุดอีกด้วย
โดยบริเวณที่เกิดฝ้านั้น มักจะเกิดที่
การดูแลรักษาฝ้าทำได้หลายวิธี ดังนี้
การเลเซอร์ฝ้าเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน เพราะมีความแม่นยำและรักษาฝ้าทั้งฝ้าเลือด ฝ้าฮอร์โมน รักษาได้ตรงจุด ซึ่งการรักษาด้วยเลเซอร์นั้นเป็นการรักษาโดยการยิงคลื่นแสงลงไปถึงชั้นผิวด้านใน จนกระทั่งเซลล์ผิวเดิมผลัดออก ในขณะที่การลอกหน้าหรือลอกฝ้านั้นคือการผลัดเซลล์ผิวด้วยตัวยาที่มีความเข้มข้น
แต่การรักษาฝ้านี้ก็เป็นเพียงการรักษาฝ้าเร่งด่วนเท่านั้น ไม่ใช่การรักษาหลัก เพราะผลของการรักษาจะทำให้ฝ้าจางลงเพียงชั่วคราวเท่านั้นและฝ้าสามารถกลับมาใหม่ได้ตลอดเวลา หรืออาจไม่ได้ผลในบางรายด้วยซ้ำ
โดยการลอกผิวเพื่อรักษาฝ้า (Peeling Agent) เพื่อกำจัดเม็ดสีที่มีอยู่ออกไป เป็นการรักษาที่ต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพราะอาจก่อให้เกิดแผลเป็นถาวรได้จากการลอกชั้นผิวที่ลึกเกินไป หลังทำต้องหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดอย่างเคร่งครัดและทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ ไม่อย่างนั้นฝ้าจะกลับมาเป็นซ้ำและเข้มขึ้นมากกว่าเดิมจากผิวที่บางลงจากการลอกหรือกรอผิว มีทั้งการลอกผิวด้วยสารเคมี (Chemical Peeling) และการกรอผิวด้วยเกร็ดอัญมณี (Microdermabrasion)
โดยการใช้ยาทารักษาฝ้า เป็นวิธีการรักษามาตรฐานที่ได้ผลดีและปลอดภัย ใช้ได้ผลดีกับฝ้าตื้นมากกว่าฝ้าลึก แต่เห็นผลได้ช้ากว่าวิธีอื่น ๆ และยาบางตัวอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงรุนแรงได้ถ้าใช้ไม่ถูกวิธี
โดยการเลือกใช้ครีมบำรุงที่มีสารช่วยรักษาฝ้า เช่น เซรั่มรักษาฝ้า ก็เป็นวิธีการรักษามาตรฐานที่ได้ผลดีและปลอดภัยเช่นกัน แต่มีความเสี่ยง เพราะหากครีมบำรุงแอบใส่ยาอันตรายความเข้มข้นสูงเพื่อให้ได้ผลเร็ว อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงรุนแรงได้
โดยวิธีป้องกันการเกิดฝ้า เช่น
โดยว่านหางจระเข้สามารถใช้รักษาเพื่อไม่ให้ฝ้าลุกลามได้ ลดฝ้าให้จางลง ทำให้ผิวกระจ่างใสขึ้น เมื่อผิวเริ่มมีฝ้าเกิดขึ้นครั้งแรก ให้ใช้เนื้อว่านหางจระเข้ผสมครีมกันแดดทาบริเวณที่ฝ้าเกิด วิธีนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้ฝ้ากระจายตัวออกไป
โดยมะขามเปียกสามารถใช้รักษาได้ เพราะมะขามเปียกมีฤทธิ์เป็นกรดช่วยในการผลัดเซลล์ผิว ลด ฝ้า กระ จุดด่างดำ ธรรมชาติ ซึ่งสามารถผสมกับน้ำผึ้ง ขมิ่นชัน นมสด โยเกิร์ต เป็นต้น เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นด้วย แต่อย่างที่ทราบดีว่าความเป็นกรดของมะขามเปียกอาจทำให้ผู้มีผิวบอบบางอาจจะเกิดระคายเคืองได้
โดยการใช้ปูนแดงรักษาฝ้านั้นอาจไม่ตรงจุด เพราะปูนแดงมีสรรพคุณในการลดอาการอักเสบ ปวด แผลหนอง ดังนั้นหากใช้วิธีอื่นในการรักษาฝ้าอาจจะตรงจุดมากกว่า
โดยในหัวหอมจะมีน้ำมันหอมระเหย ซึ่งประกอบด้วยสารไดอัลลิน ไตรซัลไฟต์ ที่มีส่วนช่วยในการยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย ลดสิว และยังมีส่วนช่วยลดรอยฝ้า กระ ได้อย่างดี แต่ทั้งนี้ในบางคนก็อาจจะทำให้ผู้ใช้บางคนเกิดการระคายเคืองได้ คงจะดีมากกว่าถ้าเรารับการดูแลรักษาจากแพทย์โดยตรงดีกว่าการใช้หอมแดงรักษาฝ้าด้วยตนเอง
โดยปัญหาผิวเป็นฝ้า คือหนึ่งในปัญหาผิวที่น่าหนักใจและพบได้ทั่วไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งในบุคคลกลุ่มที่มีอายุมากกว่า 30 ปี มักพบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย และการรักษาฝ้าสามารถทำได้โดยใช้ระยะเวลาที่ค่อนข้างนานและการดูแลรักษาที่สม่ำเสมอ
ซึ่งสิ่งที่สำคัญกว่าการรักษาฝ้าคือการดูแลและปกป้องผิว เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาเรื่องฝ้าและจุดด่างดำ สามารถทำได้โดยใช้ครีมกันแดดประกอบกับการหลีกเลี่ยงแสงแดด ป้องกันผิวจากรังสียูวี เพื่อชะลอการเกิดปัญหาฝ้า
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที