โรคแพ้เหงื่อตัวเอง คือโรคภูมิแพ้ผิวหนังอักเสบ (Atopic Dermatitis) ชนิดหนึ่งซึ่งแสดงอาการออกมาในรูปแบบผื่นกัน โดยผื่นแพ้เหงื่อตัวเอง มักจะเกิดจากกิจกรรมในชีวิตประจำวันหลาย ๆ อย่าง เช่น การออกกำลังกาย เดินขึ้นบันได อยู่ในบ้าน หรือในสถานที่ที่ไม่มีเครื่องปรับอากาศ รวมไปถึงสภาพอากาศโดยทั่วไปที่ร้อนอบอ้าว ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้เราเหงื่อออก
ซึ่งผื่นแพ้เหงื่อตัวเอง คือลมพิษชนิดหนึ่งที่เกิดจากความร้อนเข้าไปกระตุ้นการทำงานของต่อมเหงื่อ เหงื่อจึงหลั่งออกมาร่วมกับการเกิดผื่น บางรายอาจแพ้เหงื่อตัวเองจากการที่ร่างกายสร้างแอนติบอดี้ หรือภูมิต้านทานต่อเหงื่อตัวเอง จึงทำให้เกิดเป็นผื่นลมพิษ อาการผื่นแพ้เหงื่อจึงเป็นอุปสรรคต่อการทำกิจกรรมใด ๆ ก็ตามที่ออกแรง ทั้งการออกกำลังกาย อยู่ท่ามกลางสภาพอากาศร้อน หรือแม้กระทั่งการอยู่ภายในบ้านที่สามารถทำให้เกิดเหงื่อได้ ในผู้ป่วยบางรายอาจมีลมพิษเรื้อรัง โรคหอบหืดหรือโรคจมูกอักเสบมาก่อน หรือร่วมด้วย
โดยอาการแพ้เหงื่อตัวเองนั้น คือโรคภูมิแพ้ผิวหนังอักเสบชนิดหนึ่ง (Atopic Dermatitis) อาจมีอาการคันบริเวณที่มีเหงื่อออก มักเกิดกับผู้ที่มีความไวต่อสิ่งเร้าสูง โดยเฉพาะในบริเวณผิวหนัง ทำให้แพ้เหงื่อตัวเองคันได้ง่าย โดยโรคแพ้เหงื่อตัวเองอาการที่แสดงออก เช่น
โดยอาการของผื่นคันบนผิวหนังที่เคยเป็นในบริเวณที่สัมผัสเหงื่อนั้น สามารถพบได้ทั่วไปในบริเวณที่มีเหงื่อออกจำนวนมาก เช่น ข้อพับต่าง ๆ ตามลำตัว หรือซอกคอ ซึ่งจะมีลักษณะเป็นผื่นคันและจะยุบหายไปเมื่อเวลาผ่านไปสักพัก แต่หากสัมผัสเหงื่ออีกครั้ง อาการแพ้เหงื่อตัวเองก็จะกลับมาอีก
โดยผื่นลมพิษที่เกิดจากการกระตุ้นจากเหงื่อนั้น เป็นอาการที่เกิดจากภาวะแพ้เหงื่อตัวเองโดยตรง ซึ่งสามารถเกิดได้จากการกระตุ้นการตอบสนองทางภูมิต้านทานที่ผิวหนังต่อการสัมผัสเหงื่อ มีจุดนูนแดง ตุ่มแพ้เหงื่อตัวเองขึ้นตามตัว โดยในแต่ละคนจะเกิดความรุนแรงแตกต่างกันออกไป เริ่มจากอาการไม่รุนแรง หายเองได้ในครึ่งชั่วโมง หรือในบางรายก็มีอาการ ปากบวม ตาบวม แน่นหน้าอก ควรเข้าพบแพทย์ในทันที
นอกจากนี้ถ้าสงสัยว่าแพ้เหงื่อตัวเองสิวขึ้นหรือไม่ ซึ่งแท้จริงแล้วตุ่มแพ้เหงื่อตัวเองที่มีลักษณะเป็นจุดนูนแดงขึ้นตามตัวนั้นเป็นผื่นจากการแพ้ไม่ใช่ผื่นจากผิวแต่อย่างใด จึงไม่เกี่ยวกันแต่อย่างใด
โดยสาเหตุหลักของอาการโรคแพ้เหงื่อตัวเองคือ ความร้อน ซึ่งเมื่อผู้ป่วยอยู่ในบริเวณที่มีความร้อนสูง หรือทำกิจกรรมที่ทำให้เกิดความร้อนในร่างกาย เช่น สวมใส่เสื้อผ้าที่คับแน่นหรือไม่ระบายอากาศ ออกกำลังกาย เป็นไข้ หรือรับประทานอาหารรสเผ็ดจัด เป็นต้น ต่อมเหงื่อจะสร้างเหงื่อเพื่อระบายความร้อน เมื่อผิวหนังมีปฏิกิริยากับเหงื่อและความร้อน ก็จะกระตุ้นให้เกิดลมพิษ อย่างไรก็ตาม อาการภูมิแพ้เหงื่อตัวเองอาจเกิดจากภาวะความเครียดได้ด้วย นอกจากนี้ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น หอบหืด ผื่นผิวหนังอักเสบ หรือมีอาการแพ้อื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นภูมิแพ้อาหาร ภูมิแพ้อากาศ ก็มีโอกาสเกิดผื่นแพ้เหงื่อตัวเองได้ง่ายขึ้น
โดยโรคแพ้เหงื่อตัวเองวิธีรักษานั้น มีหลายวิธี สามารถเริ่มได้โดยการพบแพทย์ เมื่อมีอาการคันแพ้เหงื่อตัวเอง ควรรีบปรึกษาแพทย์เฉพาะทางผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังเพื่อทำการตรวจเช็กอาการและรักษาโรค แพทย์อาจจ่ายยาแก้แพ้เหงื่อตัวเองมาให้ โดยแบ่งออกเป็น
โดยวิธีป้องกันการเกิดอาการแพ้เหงื่อตัวเอง จากโรคแพ้เหงื่อตัวเองนั้น ทำได้ดังนี้
เลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่ผสมสี น้ำหอม และสารเคมี เพื่อป้องกันการระคายเคืองของผิวที่แพ้เหงื่ออยู่แล้วไม่ให้เกิดอาการแพ้เพิ่มขึ้น หรือเลือกใช้สกินแคร์ผิวแพ้ง่ายโดยเฉพาะ เพื่อเสริมสมดุลผิวให้แข็งแรงขึ้นและสามารถต่อกรกับปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้เกิดอาการแพ้ โดยต้องไม่มีส่วนผสมที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว สามารถช่วยดูแลผิวที่มีปัญหาได้อย่างปลอดภัย
เพราะสาเหตุของผื่นแพ้เกิดจากความร้อน การหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่อยู่ภายใต้อุณหภูมิสูงเป็นอีกหนทางที่ช่วยลดโอกาสการเกิดผื่นแพ้จากเหงื่อได้ ซึ่งนอกจากการอาบน้ำอุ่นจัดแล้วควรเลี่ยงการอบซาวน่าด้วยเช่นเดียวกัน หลังจากอาบน้ำควรเช็ดผิวหนังให้แห้ง และทาโลชั่นชโลมผิวเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวแห้งคัน
การสวมใส่เสื้อผ้าหนา ๆ และไม่สามารถระบายความร้อนได้ จะก่อให้เกิดเหงื่ออันนำมาซึ่งอาการภูมิแพ้เหงื่อตัวเองในที่สุด ดังนั้น จึงควรสวมใส่เสื้อผ้าที่โปร่งสบาย ไม่รัดแน่นจนเกินไป เพื่อให้เกิดการระบายอากาศและความร้อนจากร่างกายได้ดี
ควรเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้เกิดเหงื่อออกได้ง่าย เช่น การทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือการออกกำลังกายท่ามกลางอากาศร้อนจัด แนะนำให้ปรับเปลี่ยนเป็นการออกกำลังกายในบริเวณที่อากาศไม่ร้อนมากเกินไปและมีอากาศถ่ายเทสะดวก นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงการไปยังสถานที่ที่มีสภาพแวดล้อมที่ไม่สะอาด หรือสถานที่ที่มีฝุ่นละอองเยอะ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดอาการแพ้เหงื่อตัวเองขึ้นมาได้ หรือหากหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ควรสวมอุปกรณ์ป้องกันผิวหนัง เช่น แว่นตากันแดด หน้ากากอนามัย เพื่อให้การระบายเหงื่อออกมาน้อยที่สุด และหากเริ่มเกิดผื่นแพ้เหงื่อตามผิวหนังควรหยุดทำกิจกรรมต่าง ๆ หรือหยุดออกกำลังกายทันที เป็นการป้องกันไม่ให้ผื่นเกิดความรุนแรงมากขึ้น
หากพบว่าตนเองมีภาวะเกิดผื่นแพ้เหงื่อได้ง่าย ก็ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่จะก่อให้เกิดเหงื่อ เช่น อาหารรสเผ็ดจัด อาหารหรือเครื่องดื่มร้อน ๆ เป็นต้น เพื่อช่วยลดความถี่ในการเกิดอาการผื่นแพ้เหงื่อ
ทั้งนี้หากอาการกำเริบ หรือมีแนวโน้มที่เพิ่มระดับความรุนแรง ควรพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อได้รับคำแนะนำด้านการรักษาที่เหมาะสม โดยแพทย์อาจสั่งยาแก้แพ้ ที่ช่วยออกฤทธิ์ในการขัดขวางสารฮีสตามีนซึ่งส่งผลให้เกิดอาการแพ้ ดังนั้น จึงควรที่จะดูแลตัวเองให้มากขึ้น เพื่อไม่ให้อาการผื่นแพ้เหงื่อรุนแรงจนกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน
โดยโรคแพ้เหงื่อตัวเองนั้นมีความอันตรายมากแค่ก็ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการที่เกิดขึ้น สำหรับผู้ที่มีอาการภูมิแพ้เหงื่อตัวเองไม่รุนแรงอาการต่าง ๆ ก็สามารถที่จะหายไปเองได้ภายในครึ่งชั่วโมง ไม่เกิน 1 ชั่วโมง ก็จะไม่อันตรายมากนัก แต่สำหรับผู้ที่มีอาการแพ้เหงื่อตัวเองขั้นรุนแรงก็อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
โดยอาการแพ้เหงื่อตัวเองขั้นรุนแรงมีดังนี้
ซึ่งเมื่อเกิดอาการแพ้เหงื่อตัวเองอย่างรุนแรงควรรีบพบแพทย์โดยด่วนที่สุด
โดยโรคแพ้เหงื่อตัวเองนั้นอาจจะทำให้เราสามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ หรือดำเนินชีวิตได้อย่างลำบากมากกว่าปกติ แต่เราก็สามารถที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับผิวที่เหมาะสม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการแพ้เหงื่อตัวเองได้ อีกทั้งยังสามารถบรรเทาหรือรักษาอาการแพ้ได้ด้วยยาประเภทต่าง ๆ
แต่ใด ๆ ก็ตามสิ่งที่สำคัญอีกหนึ่งอย่างสำหรับผู้ที่เป็นโรคแพ้เหงื่อตัวเองก็คือการหมั่นสังเกตอาการแพ้ของตัวเองให้ดี ถ้าหากมีอาการที่รุนแรงมากขึ้นให้รีบเข้าพบแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษาอาการภูมิแพ้เหงื่อตัวเองอย่างเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายใด ๆ ที่ไม่คาดคิด
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที