ม้วนกระดาษทรงกระบอกขนาดเล็กที่มียาเส้นหรือยาสูบอยู่ภายในที่เรามักเรียกกันว่า ?บุหรี่? นั้นเป็นสิ่งที่ใช้ในการเสพสารนิโคตินซึ่งเป็นสารเสพติดชนิดหนึ่ง และถึงแม้หลาย ๆ คนจะรู้อยู่แล้วว่าบุหรี่นั้นอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ แต่ก็ไม่สามารถที่จะเลิกได้เสียที
ซึ่งนอกจากบุหรี่จะส่งผลเสียต่อสุขภาพได้แล้ว ยังส่งผลต่อภาพลักษณ์ภายนอกของผู้สูบอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นฟันเหลือง เล็บเหลือง นิ้วเหลือง ใบหน้าเหี่ยวย่น หรือแม้แต่การมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ติดตัว
โดยเหตุผลส่วนใหญ่ในการสูบบุหรี่ก็ล้วนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าสูบเพื่อความผ่อนคลาย อีกทั้งในปัจจุบันนี้ยังไม่ได้มีเพียงแค่บุหรี่มวนเท่านั้นที่สามารถใช้ในการเสพสารนิโคตินได้ แต่ด้วยความที่เทคโนโลยีมีการพัฒนาก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว จึงได้มีการผลิต?บุหรี่ไฟฟ้า?ออกมาเพื่อเป็นตัวเลือกให้แก่ผู้ที่ต้องการอีกด้วย
และในบทความนี้ เพื่อที่จะให้ทุกคนได้ทำความรู้จักกับบุหรี่มากยิ่งขึ้น เราจึงได้รวบรวมข้อมูลที่น่ารู้เกี่ยวกับบุหรี่มาฝาก ไม่ว่าจะเป็นประวัติความเป็นมาของบุหรี่ ที่บางคนอาจไม่เคยรู้ว่ามันได้มีจุดกำเนิดมาร่วมหลายร้อยปีแล้ว?
รวมไปถึงข้อมูลส่วนประกอบในบุหรี่ และผลกระทบต่าง ๆ ที่สามารถเกิดขึ้นได้จากการสูบบุหรี่ หรือแม้แต่ข้ออสงสัยที่หลาย ๆ คนให้ความสนใจกัน นั่นก็คือความอันตรายระหว่างบุหรี่มวนกับบุหรี่ไฟฟ้านั่นเอง
ถึงแม้หลาย ๆ คนจะรู้อยู่แล้วว่าบุหรี่นั้นมีการใช้ภายในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน แต่อาจยังไม่รู้ว่าต้นกำเนิดของบุหรี่นั้นไม่ได้เกิดขึ้นที่ประเทศไทย ซึ่งแท้จริงแล้วนั้นบุหรี่ได้ถือกำเนิดขึ้นมาจากชาวอินเดียนแดง ที่เป็นชนเผ่าพื้นเมืองในทวีปอเมริกา
โดยชนเผ่าอินเดียนแดงได้มีการเพาะปลูกยาสูบขึ้นเพื่อใช้สูบในการประกอบพิธีกรรมของเผ่า และใช้นำมาเป็นยารักษา ซึ่งต้นกำเนิดของบุหรี่นี้ได้ถูกค้นพบโดย ?คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส? ภายในปี พ.ศ.2035?และหลังจากนั้นต่อมาก็ได้มีการเพาะปลูกยาสูบในประเทศบราซิลเมื่อปี พ.ศ.2091 เพื่อนำยาสูบที่ได้จากการเพาะปลูกมาใช้เป็นสินค้าส่งออก ด้วยเหตุนี้เองยาสูบจึงได้มีการแพร่หลายไปยังประเทศสเปนและประเทศโปรตุเกส
และหลังจากนั้นต่อมาก็ได้มีการเพาะปลูกยาสูบในประเทศบราซิลเมื่อปี พ.ศ.2091 เพื่อนำยาสูบที่ได้จากการเพาะปลูกมาใช้เป็นสินค้าส่งออก ด้วยเหตุนี้เองยาสูบจึงได้มีการแพร่หลายไปยังประเทศสเปนและประเทศโปรตุเกส
และหลังจากที่ยาสูบได้มีการแพร่เข้าสู่ประเทศโปรตุเกส ทางเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสที่ประจำอยู่ในประเทศโปรตุเกสก็ได้ทำการส่งเมล็ดยาสูบกลับไปยังราชสำนักฝรั่งเศสเมื่อปี พ.ศ.2103 ซึ่งหลังจากนั้นเพียงไม่นาน ในปี พ.ศ.2107 ก็ได้มีการนำเข้ายาสูบสู่ประเทศอังกฤษ
โดยในปี พ.ศ.2155 ก็ได้มีชาวอังกฤษเพาะปลูกยาสูบในเชิงพาณิชย์จนประสบความสำเร็จ และในปี พ.ศ.2162 ก็ได้เริ่มทำการส่งออกผลผลิตยาสูบสู่ประเทศในอาณานิคม ซึ่งหลังจากระยะเวลาผ่านไปเพียง 200 ปี ก็ทำให้การทำไร่ยาสูบในเชิงพาณิชย์มีการแพร่หลายไปทั่วโลก
และในส่วนของประเทศไทยนั้นยาสูบได้มีการเริ่มใช้กันในสมัยอยุธยา ซึ่งยาสูบส่วนใหญ่ที่ใช้จะมาจาก 2 ส่วนหลัก ๆ ด้วยกัน นั่นก็คือยาสูบที่มาจากการเพาะปลูกเองภายในประเทศ และอีกส่วนก็คือยาสูบที่มาจากเมืองมะนิลาในประเทศจีน
หลังจากนั้นภายในปี พ.ศ.2460 ก็ได้มีบริษัทผลิตบุหรี่ของชาวอังกฤษก่อตั้งขึ้นภายในประเทศไทย โดยต่อมาก็ได้มีการนำเข้าเครื่องจักรจากประเทศเยอรมนีในรัชสมัยพระสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อที่จะใช้ในการผลิตบุหรี่ออกมาจัดจำหน่าย
จนกระทั่งปี พ.ศ.2482 รัฐบาลไทยก็ได้ทำการซื้อกิจการจากห้างหุ้นส่วนบูรพายาสูบจำกัดมาจัดตั้งเป็นโรงงานยาสูบ และได้ดำเนินการกิจการต่อภายใต้การควบคุมของกรมสรรพสามิต หลังจากนั้นต่อมาก็ได้ทำการรวบซื้อกิจการยาสูบของบริษัทต่าง ๆ มาอยู่ในชื่อ ?โรงงานยาสูบกระทรวงการคลัง? มาจนถึงปัจจุบันนี้
ส่วนประกอบหลัก ๆ ของบุหรี่มวนจะมีอยู่ด้วยกัน 3 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่เป็นกระดาษห่อ ส่วนที่เป็นก้นกรองบุหรี่ และส่วนที่เป็นสารสำหรับสูบ ซึ่งส่วนประกอบแต่ละส่วนมีลักษณะหน้าตาอย่างไร และมีหน้าที่แตกต่างกันแค่ไหน เรามาดูกันเลย
สำหรับส่วนที่เป็นกระดาษห่อของบุหรี่นั้นจะมีลักษณะเป็นห่อกระดาษม้วนอยู่บริเวณรอบ ๆ ก้นกรองบุหรี่และใบยาสูบ ซึ่งกระดาษห่อบุหรี่จะมีความยาวอยู่ที่ 120 มิลลิเมตร และมีเส้นผ่าศูนย์กลางอยู่ที่ 10 มิลลิเมตร
สำหรับส่วนที่เป็นก้นกรองบุหรี่นั้นจะมีลักษณะเป็นใยสังเคราะห์ ซึ่งจะมีส่วนประกอบหลักเป็นเซลลูโลสอะซีเตท โดยส่วนที่เป็นก้นกรองบุหรี่จะมีหน้าที่กรองควันบุหรี่และน้ำมันดิน(ทาร์) รวมถึงมีหน้าที่ช่วยดูดซับความชื้น
สำหรับส่วนที่เป็นสารสำหรับสูบของบุหรี่มวนนั้นจะเป็นใบยาสูบที่ได้ผ่านกระบวนการทางเคมีมาแล้ว อีกทั้งนอกจากส่วนประกอบที่เป็นใบยาสูบ ยังมีได้มีการเพิ่มสารประกอบต่าง ๆ ลงไปในส่วนนี้อีกด้วย
สำหรับใครที่กำลังกังวลว่าบุหรี่ไฟฟ้าอันตรายไหม เพราะมีความคิดที่จะหันไปใช้บุหรี่ไฟฟ้าแทนบุหรี่มวน ทางเราก็ขอบอกเลยว่าการเลือกใช้บุหรี่ไฟฟ้าแทนบุหรี่มวนนั้นจะช่วยเพียงแค่ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่าง ๆ จากกระบวนการเผาไหม้หรือพิษจากสารบางอย่างในบุหรี่มวนเท่านั้น เช่น โรคมะเร็งปอด หรือโรคระบบทางเดินหายใจ เป็นต้น
แต่ก็อย่าได้ลืมไปว่าทั้งบุหรี่มวนและบุหรี่ไฟฟ้าก็ล้วนมีสารนิโคตินซึ่งเป็นสารเสพติดชนิดหนึ่งเช่นเดียวกัน ซึ่งสารนิโคตินนี้จะส่งผลเสียต่อสุขภาพทั้งในด้านระบบเลือด หรือแม้แต่ส่งผลต่อหัวใจ
แต่ถ้าหากจะนำมาเปรียบเทียบกันตรง ๆ แล้ว บุหรี่ไฟฟ้าก็ถือว่ามีอันตรายต่อสุขภาพน้อยกว่าบุหรี่มวนอยู่มากเลยทีเดียว ซึ่งการหันมาเลือกใช้บุหรี่ไฟฟ้าก็อาจเป็นความคิดที่ดีกว่าก็ได้สำหรับผู้ที่เสพติดสารนิโคตินหรือผู้ที่ยังไม่สามารถเลิกบุหรี่ได้
บุหรี่นั้นมีสารที่เป็นอันตรายต่อร่างกายอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นอันตรายจากสารนิโคตินเองหรืออันตรายจากสารอื่น ๆ ที่ประกอบอยู่ในบุหรี่ เช่น น้ำมันดิน(ทาร์) เป็นต้น อีกทั้งอันตรายจากการสูบบุหรี่ยังไม่ได้ส่งผลต่อสุขภาพของผู้สูบเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น แต่ยังส่งผลไปถึงผู้คนรอบข้างอีกด้วย
โดยบุหรี่สามารถส่งผลให้เกิดโรคหรือภาวะต่าง ๆ ได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นโรคมะเร็งปอด โรคถุงลมโป่งพอง โรคปอดอักเสบ โรคเบาหวาน โรคกระดูกพรุน โรคกระเพาะอาหาร โรคความดันโลหิตสูง โรคสมองเสื่อม โรคหัวใจ หรือแม้แต่โรคเกี่ยวกับหลอดเลือดก็ตาม
นอกจากนี้แล้วยังได้มีข้อมูลอ้างอิงจากองค์การอนามัยโลกว่าอัตราการเสียชีวิตของประชากรโลกที่เกิดขึ้นจากการสูบบุหรี่มีมากถึง 5,000,000 คนต่อปี และในส่วนของแหล่งอ้างอิงจากคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ยังได้กล่าวว่าอัตราการเสียชีวิตของประชากรไทยที่เกิดขึ้นจากการสูบบุหรี่ยังมีอยู่ถึง 70,000 คนต่อปีเลยทีเดียว
ถึงแม้ว่าการสูบบุหรี่หรือการเสพสารนิโคตินอาจจะช่วยให้ใครหลายคนผ่อนคลายจากการใช้ชีวิตประจำวันมากขึ้น แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสิ่งที่จะส่งผลเสียต่อร่างกายในอนาคตอันใกล้ก็มีไม่น้อยเลยเช่นกัน ไม่ว่าจะส่งผลต่อร่างกายของตัวคุณเอง คนรอบข้าง หรือแม้แต่คนที่คุณรัก
?
และถึงแม้ว่าจะหันมาสูบบุหรี่ไฟฟ้าเพื่อลดความเสี่ยงจากโรคบางอย่างที่เกิดขึ้นเฉพาะการสูบบุหรี่มวน แต่ไม่ว่าอย่างไรบุหรี่ก็คือบุหรี่ ล้วนส่งผลต่อสุขภาพอย่างแน่นอน อยู่ที่ว่ามากน้อยต่างกันแค่ไหน เพราะไม่ว่าคุณจะสูบบุหรี่มวนหรือบุหรี่ไฟฟ้าก็ตาม อย่างไรก็คงหลีกเลี่ยงสารนิโคตินไม่พ้น
?
ดังนั้นแล้วเพื่อที่จะมีสุขภาพที่ดีต่อตัวเอง คนในครอบครัว และคนที่คุณรัก การเลิกบุหรี่ก็อาจเป็นความคิดที่ดีกว่ามาก ถึงแม้ว่ามันจะสามารถทำได้ค่อนข้างยาก แต่เชื่อว่าคุณก็สามารถทำได้อย่างแน่นอน
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที
