ฟิลเลอร์ (Filler) ถือว่าเป็นอีกทางเลือกที่ตอบโจทย์ในเรื่องความสวยความงามบนใบหน้า เพราะในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ทุกคนต่างก็อยากสร้างบุคลิกภาพและความมั่นใจให้กับตัวเอง ซึ่งตอนนี้การฉีดฟิลเลอร์ คือ หนึ่งในวิธีการรักษาริ้วรอย ร่องลึกต่าง ๆ บนใบหน้าที่จะสามารถช่วยคืนความอ่อนเยาว์และปรับรูปหน้าให้ดูดีขึ้นได้ แต่ก่อนที่จะฉีดฟิลเลอร์ทุกคนมาดูกันว่าฟิลเลอร์คืออะไร ฟิลเลอร์มีกี่ประเภท แล้วควรเลือกฟิลเลอร์อย่างไรให้เหมาะกับตัวเอง เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีและมีความปลอดภัยที่สุด
ฟิลเลอร์ คือ สารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid (HA) ผลิตขึ้นมาเพื่อช่วยลดริ้วรอยและแก้ปัญหาผิวบริเวณต่าง ๆ บนใบหน้าด้วยวิธีการฉีดฟิลเลอร์ให้ผิวหน้ากลับมาเปล่งปลั่งสุขภาพดี ซึ่งฟิลเลอร์ผลิตขึ้นมาเพื่อเลียนแบบสารที่มีอยู่ในร่างกายตามธรรมชาติ โดยใช้ทดแทนส่วนสำคัญของโครงสร้างผิว คอลลาเจน และไฮยาลูรอน ที่ร่างกายของคนเราสูญเสียไปเมื่ออายุมากขึ้น โดยฟิลเลอร์ที่รับรองมาตรฐานจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เท่านั้นที่มีความปลอดภัยสูง
ไฮยาลูรอน (Hyaluronic Acid หรือ HA) คือ สารชนิดหนึ่งที่ร่างกายสามารถสร้างขึ้นได้เองตามธรรมชาติ มีคุณสมบัติอุ้มน้ำได้ดีมาก แต่เมื่อเราอายุมากขึ้นร่างกายของเราจะผลิตสารไฮยาลูรอนได้น้อยลงเรื่อย ๆ สังเกตได้จากเราจะเริ่มมีปัญหาผิวและริ้วรอยชัดเจนมากยิ่งขึ้น ปัจจุบันฟิลเลอร์หลายยี่ห้อไม่ว่าจะเป็น Juvedderm, Restylane ต่างก็นิยมใช้ Hyaluronic Acid เป็นสารสังเคราะห์ เพื่อช่วยให้ผิวเรามีความชุ่มชื้น ยืดหยุ่น ดูอ่อนกว่าเยาว์ ซึ่งอยู่ในร่างกายนานถึง 6-12 เดือน
กรดโพลี แอล แลคติก (Poly L lactic acid หรือ PLLA) คือ สารอุ้มน้ำที่มีความเข้ากันได้กับเนื้อเยื่อในร่างกายและสามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ PLLA เป็นฟิลเลอร์ที่ได้ผลนานที่สุดในประเภทของฟิลเลอร์ที่ร่างกายสามารถดูดซึมได้ ให้ผลลัพธ์ยาวนานถึง 2-4 ปี
แคลเซียม ไฮดรอกซีอะพาไทท์ (Calcium Hydroxyapatite หรือ CaHA) คือ แร่ธาตุชนิดหนึ่งซึ่งพบได้ในกระดูกและฟันของมนุษย์ มักเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า แคลเซียมฟิลเลอร์ โดยฟิลเลอร์ชนิดนี้สามารถฉีดเพื่อแก้ไขปัญหาบนใบหน้าได้เป็นอย่างดี ยังสามารถเติมเต็มหน้าอกและสะโพกได้อีกด้วย ให้ผลลัพธ์ยาวนานถึง 2 ปี
โพลีเมธิลเมธาไครเลต บีทส์ (Polymethylmethacrylate beats หรือ PMMA microspheres) คือ สารที่ช่วยเติมเต็มเซลล์ผิวหนังให้กระชับ เต่งตึง ดูมีชีวิตชีวาอีกครั้ง มักช่วยลบเลือนริ้วรอยลดได้ แต่ไม่สามารถย่อยสลายในร่างกายตามธรรมชาติได้
โพลีอัลคิลลิไมด์ (Polyalkylimide) คือ สารกึ่งถาวร มีลักษณะเป็นเจล หลังฉีดจะกระตุ้นให้ผิวค่อย ๆ สร้างคอลลาเจนขึ้นภายใน 1 เดือน
ได้รับการการันตีคุณภาพมายาวนาน ผลิตจากประเทศอเมริกา มีเนื้ออ่อน ละเอียด ฉีดแล้วจึงได้วอลลุ่มสวย ไม่แข็ง ไม่เป็นก้อน สามารถเติมบริเวณใต้ตา ปาก โหนกแก้ม ร่องแก้ม ขมับ และหน้าผาก ได้ดีทีเดียว เมื่อฉีดไปแล้วจะจะอยู่ประมาณ 1-2 ปี
เป็นฟิลเลอร์ที่ผลิตจากประเทศสวีเดนที่คนนิยมใช้เยอะมากไม่แพ้ Juvederm เลย มีเนื้อค่อนข้างอ่อน ไม่เป็นก้อน ช่วยเติมน้ำให้ผิวชุ่มฉ่ำขึ้น สามารถเติมบริเวณได้หลายจุด ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของแต่ละตัวด้วย เมื่อฉีดไปแล้วอยู่ประมาณ 1 ปีกว่าเลย
ผลิตจากประเทศเกาหลี เป็นฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยมเช่นกัน เนื่องจากสามารถฉีดได้หลายตำแหน่งบนใบหน้า เหมาะสำหรับเติมเต็มบริเวณส่วนลึก ขมับ ร่องแก้ม คาง และหน้าผาก อยู่นานประมาณ 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับรุ่นที่เราเลือกใช้
ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะราคาไม่แพงจับต้องได้ ผลิตจากสวิตเซอร์แลนด์ ด้วยเทคโนโลยี CPM Technology ซึ่งเป็นนวัตกรรมการผลิตพิเศษมีแค่ยี่ห้อนี้เท่านั้น ทำให้ได้เนื้อเจลที่มีความเรียบเนียนไปกับผิวหน้าได้ดี สามารถแก้ไขปัญหาได้ทุกสภาพผิว อยู่ได้นานเกือบ 2 ปี
ฟิลเลอร์แบรนด์น้องใหม่ล่าสุด จากประเทศเกาหลีที่พึ่งเริ่มทำการตลาดในประเทศไทย มีหลายรุ่นถือว่าสามารถเลือกให้เหมาะกับปัญหาผิวหน้าได้เลย ซึ่งแต่ละรุ่นก็มีเนื้อฟิลเลอร์แข็ง อ่อน เบา แตกต่างกันไป เพื่อให้เหมาะกับการฉีดแต่ละตำแหน่งบนใบหน้าได้เหมาะสมที่สุด
ฟิลเลอร์จากแคนนาดา มีเทคโนโลยีการผลิต Thixofix technology ได้รับ อย.ไทย มาระยะหนึ่งแล้ว แต่อาจจะยังมาไม่ครบทุกรุ่น ให้ความคงตัวสูง เหมาะกับการปั้นขึ้นรูปให้ใบหน้า เช่น คาง เป็นต้น อยู่ได้นานประมาณ 1 ปี
แบรนด์น้องใหม่ที่คุณภาพพรีเมียมจากประเทศเกาหลี เทียบเท่าแบรนด์ในยุโรป เพิ่งนำเข้ามาในประเทศไทยไม่นาน โดยตัวที่นำร่องเข้ามาก่อนจะเป็นกล่องสีม่วง มีโมเลกุลใหญ่ เหมาะกับเติมเต็มในชั้นลึก เช่น ขมับ ร่องแก้ม คาง เป็นต้น
ฟิลเลอร์ที่มาจากฝรั่งเศส นิยมในประเทศไทยมายาวนาน เนื้อค่อนข้างแข็ง สามารถปั้นได้ทรงสวย และฉีดได้หลายจุดบนใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นคาง ขมับ โหนกแก้ม และหน้าผาก ซึ่งฉีดได้ค่อนข้างเนียน อยู่ได้นานประมาณ 1 ปีกว่า
หากใครกำลังจะฉีด filler ก่อนอื่นควรต้องศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดและคำนึงถึงความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเลือกแพทย์ ยา หรือสถานที่ ควรมีมาตรฐาน มีใบประกอบหรือประกาศนียบัตรเกี่ยวกับความงามที่ได้รับรองมาแล้ว เพื่อผลลัพธ์ที่สวยงามและปลอดภัยของทุกคน
ก่อนตัดสินใจว่าจะฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ควรปรึกษาแพทย์ให้ช่วยประเมินปัญหาผิวหน้าเราก่อน เพราะฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อจะช่วยแก้ปัญหาได้แตกต่างกัน เพื่อที่จะได้เลือกฟิลเลอร์ยี่ห้อที่เหมาะสมกับปัญหาผิวหน้าแต่ละคนมากที่สุด
ข้อควรปฏิบัติในการเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ มีดังนี้
ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ ดังนี้
ผลข้างเคียงมักพบ ซึ่งอาจจะมีอาการข้างเคียงเล็กน้อย ดังนี้
การใช้ฟิลเลอร์ที่มีประสิทธิภาพและมาตรฐานแน่นอนว่าต้องเป็น filler ราคาค่อนข้างสูง ซึ่งปริมาณที่ใช้ฉีดแต่ละครั้งขึ้นอยู่กับปัญหาและสภาพผิว โดยบางคนอาจจะเริ่มจากการเติมเพียง 1-2 CC ในครั้งแรก เนื่องจากการเติมฟิลเลอร์ในบางจุด แต่ถ้าต้องการให้เห็นผลการเปลี่ยนแปลงชัดเจนนั้น ต้องใช้ฟิลเลอร์หลาย CC ตั้งแต่ 3-5 CC ขึ้นไป
ฉีดสลายฟิลเลอร์เป็นการฉีดสารเพื่อสลายฟิลเลอร์ ในกรณีที่ฉีดฟิลเลอร์มาแล้วเกิดผลลัพธ์ที่ไม่พึ่งประสงค์ วิธีคือการใช้เอ็นไซม์ไฮยาลูโรนิเดส (Hyarulonidase :HYA) ในการสลายฟิลเลอร์ ซึ่งเอ็นไซม์นี้จะช่วยย่อยสลายฟิลเลอร์กลุ่มไฮยารูลอนิกแอซิด สามารถสลายได้เฉพาะฟิลเลอร์แท้ที่ทำมาจากกรดไฮยาลูรอนิกเท่านั้น
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที
