คุมกำเนิดแบบไหนดีที่สุด ยาคุมกำเนิดได้ผลดีไหม ยาคุมยี่ห้อไหนดี ? คำถามนี้เป็นคำถามที่แอดมินโดนถามเข้ามาบ่อยๆ ต้องเกริ่นก่อนว่าในปัจจุบันมีการคุมกำเนิดหลากหลายวิธี สำหรับคู่รักที่ยังไม่พร้อมจะมีลูกด้วยปัจจัยหลายๆ อย่างในตอนนี้ ซึ่งวิธีคุมกำเนิดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน คือ “การกินยาคุมกำเนิด”
ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจ หรือ เซอร์ไพรส์แต่อย่างใด เพราะยาคุมกำเนิดเป็นหนึ่งในวิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูง ทานง่าย หาซื้อง่าย และ มีให้เลือกหลายยี่ห้อ หลายเรทราคา ใครสะดวกแบบไหนก็เลือกใช้ตามที่สะดวกได้เลย โดยบทความนี้จะช่วยไขข้อสงสัยทุกอย่างเกี่ยวกับการกินยาเม็ดคุมกำเนิด ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย!
ยาคุมกำเนิดช่วยเรื่องอะไร ยาคุมกำเนิดมีฮอร์โมนอะไรบ้าง ? ยาคุมกำเนิด (Birth Control Pill) คือ เม็ดยาที่ประกอบไปด้วยฮอร์โมน 2 ชนิด ได้แก่ ฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) และ ฮอร์โมนโปรเจสติน (Progestin) โดยที่ฮอร์โมนทั้งสองชนิดนี้จะส่งผลต่ออวัยวะสืบพันธุ์ของผู้หญิง ซึ่งสามารถช่วยยับยั้งและป้องกันการตั้งครรภ์ได้ดี
ทั้งนี้ประสิทธิภาพของยาคุมกำเนิดจะขึ้นอยู่กับวิธีการกินยาด้วย หากกินยาผิดวิธี หรือ ลืมกินยาเม็ดคุมกำเนิดบ่อยๆ จะทำให้ประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดลดลง จึงเป็นเหตุผลที่หลายคนได้ยินว่าห้ามลืมกินยาคุมกำเนิด หรือ อย่ากินยาในแผงสลับเม็ดกัน
ฮอร์โมนเพศหญิงในเม็ดยาคุมกำเนิดจะออกฤทธิ์กับอวัยวะสืบพันธุ์ของผู้หญิง ทำให้ผนังมดลูกของผู้หญิงมีสภาพไม่เหมาะสมกับการฝังตัวอ่อน เนื่องจากผนังมดลูกบางมาก นอกจากนี้ยาเม็ดคุมกำเนิดยังทำให้ท่อนำไข่เคลื่อนไหวมากกว่าปกติ และ เกิดมูกหรือเมือกบริเวณปากมดลูก ซึ่งทุกอย่างล้วนแต่ทำให้อสุจิเข้าไปปฏิสนธิกับไข่ได้ยากกว่าปกติ เพื่อช่วยลดโอกาสในการตั้งครรภ์นั่นเอง
ยาคุมกำเนิดมีกี่ชนิด ? ในปัจจุบันนอกจากจะมีการคุมกำเนิดหลายวิธีแล้ว ยาคุมกำเนิดยังมีหลายแบบอีกด้วย ซึ่งสามารถแบ่งประเภทของยาเม็ดคุมกำเนิดออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่
ยังมีหลายคนที่สับสนระหว่างยาคุมกำเนิดและยาคุมฉุกเฉิน โดยที่ยาทั้งสองตัวนี้มีวัตถุประสงค์ในการใช้งานแตกต่างกัน และ ให้ผลลัพธ์ วิธีการกิน และอาการข้างเคียงแตกต่างกันด้วย
หากให้อธิบายเข้าใจได้ง่ายๆ ยาคุมกำเนิดเป็นยาคุมที่ต้องกินทุกวัน ในเวลาเดิม มีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดสูงและยังมีประโยชน์อื่นๆ เช่น รักษาสิว ปรับฮอร์โมน ช่วยให้ประจำเดือนมาปกติ โดยในกล่องจะมีเม็ดยาคุม 21 เม็ด หรือ 28 เม็ด แล้วแต่ประเภท
แต่ยาคุมฉุกเฉินมีข้อกำหนดว่าต้องใช้ในกรณีฉุกเฉิน คือ การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกันเท่านั้น และไม่แนะนำให้กินเกิน 2 ครั้งต่อเดือน โดยในกล่องจะมีเม็ดยาแค่เพียง 1 เม็ด หรือ 2 เม็ดเท่านั้น แล้วแต่ประเภทที่เลือก
ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม คือ ยาเม็ดคุมกำเนิดที่มีฮอร์โมน 2 ชนิด ได้แก่ ฮอร์โมนเอสโตรเจน และ โปรเจสติน อยู่ในเม็ดยา ซึ่งยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวมยังสามารถแบ่งแยกออกไปตามปริมาณฮอร์โมนในเม็ดอย่างได้อีกด้วย คือ
ทั้งนี้ยาคุมกำเนิดประเภทนี้เป็นยาคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดสูง 90% หากกินยาถูกวิธี ทำให้เป็นยาคุมกำเนิดที่ได้รับความนิยมมากที่สุด
ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดียว คือ ยาเม็ดคุมกำเนิดที่มีแค่เพียงฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนเท่านั้น โดยที่ยาคุมประเภทนี้ผลิตออกมาให้กับผู้ที่ไม่สามารถกินยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวมได้ เนื่องจากได้รับผลข้างเคียงที่ค่อนข้างรุนแรง หรือ แพ้ฮอร์โมนเอสโตรเจน นอกจากนี้คุณแม่ที่อยู่ในระหว่างให้นมบุตร หรือ แม่ลูกอ่อนยังสามารถทานยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยวได้ เพราะไม่ส่งผลต่อคุณภาพและปริมาณของน้ำนมอีกด้วย
บางคนอาจจะเกิดความสับสน และ ไม่มั่นใจ ว่าควรเลือกทานยาคุมกำเนิดแบบ 21 เม็ด หรือ ยาคุมกำเนิดแบบ 28 เม็ดดี ซึ่งข้อแตกต่างระหว่างยาคุมกำเนิดแบบ 21 เม็ด และ 28 เม็ด มีดังนี้
ยาคุมกำเนิดแบบ 21 เม็ด ในเม็ดยา “ทุกเม็ด” จะมีฮอร์โมนเพศผู้หญิงที่ช่วยป้องกันการตั้งครรภ์บรรจุอยู่ ซึ่งให้กินวันละ 1 เม็ดในช่วงเวลาเดิมของทุกวัน เพื่อให้ยามีประสิทธิภาพสูงที่สุด สามารถกินสลับเม็ดได้ ไม่มีปัญหา เมื่อกินครบ 21 วัน (กินยาจนหมดแผงแล้ว) ต้องเว้นการกินยาคุมกำเนิดไป 7 วัน แล้วจึงค่อยสามารถเริ่มกินแผงใหม่ได้
ยาเม็ดคุมกำเนิดแบบ 28 เม็ด ในแผงจะมียาที่บรรจุฮอร์โมนที่ช่วยคุมกำเนิดไว้ 21 เม็ด และอีก 7 เม็ดแป้งยาหลอก หรือ เม็ดแป้งที่บางยี่ห้ออาจจะผสมวิตามิน ยาคุมกำเนิดประเภทนี้จำเป็นต้องกินตามลูกศรบนแผงไม่สามารถกินยาสลับเม็ดได้ และเมื่อกินยาจนหมดแผงแล้วสามารถเริ่มกินแผงใหม่ได้ทันที ไม่ต้องเว้น 7 วัน
ทั้งนี้ยาคุมกำเนิดแบบ 21 เม็ด และ 28 เม็ด มีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดเท่ากัน แตกต่างกันแค่เพียงวิธีการกินยาเท่านั้น ทุกคนสามารถเลือกได้ตามความสะดวกและความชอบของแต่ละคนได้เลย
ยาคุมฉุกเฉินจะมีวิธีการกินที่แตกต่างจากยาคุมกำเนิดแบบอื่นๆ ในกรณีที่ทานยาคุมฉุกแบบ 2 เม็ด ให้กินยาคุมฉุกเฉินเม็ดแรกทันทีหรือเร็วที่สุดภายใน 72 ชั่วโมงแรก หลังจากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน และ กินเม็ดที่ 2 หลังจากกินเม็ดแรกไปแล้ว 12 ชั่วโมง ทั้งนี้ถ้าหากกินเม็ดแรกไม่ทัน 24 ชั่วโมงแรกสามารถกินยาคุมฉุกเฉินพร้อมกัน 2 เม็ดได้
แต่ถ้าหากเกินเลือกทานยาคุมฉุกเฉินแบบ 1 เม็ด ให้กินยาคุมฉุกเฉินเม็ดแรกทันทีหรือเร็วที่สุดภายใน 72 ชั่วโมงแรก หลังจากมีเพศสัมพันธ์?โดยไม่ได้ป้องกัน
ยังมีคนบางกลุ่มที่ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนทานยาเม็ดคุมกำเนิด ได้แก่
ยาคุมกำเนิดมีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดสูง ถ้าหากกินอย่างถูกวิธีและสม่ำเสมอ โดยจากการศึกษาพบว่ามีเพียง 0.3% ต่อปีเท่านั้นที่กินยาคุมกำเนิดอย่างถูกวิธีแล้วการคุมกำเนิดล้มเหลว นอกจากวิธีการกินยาคุมกำเนิดแล้วยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพของยาเม็ดคุมกำเนิดอีกด้วย
อย่างที่ได้พูดไปก่อนหน้าว่ายาคุมกำเนิดยังคงมีข้อจำกัดแล้วไม่เหมาะกับคนบางกลุ่ม เพราะอาจจะส่งผลข้างเคียงที่รุนแรงกว่าปกติหลังจากทานไปแล้ว
อาการผลข้างเคียงจากยาคุมกำเนิดเป็นอาการที่อาจจะเกิดแค่กับบางคนเท่านั้น ไม่ใช่ทุกคนที่ทานยาเม็ดคุมกำเนิดจะได้รับผลข้างเคียง โดยผลข้างเคียงที่สามารถพบได้บ่อยๆ ได้แก่
ยาคุมซูซี่ เป็นยาคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพป้องกันการตั้งครรภ์ได้สูง ช่วยรักษาสิวที่มีสาเหตุมาจากฮอร์โมนเพศชายในร่างกาย ช่วยความมันบน และขนดกได้ โดยมีให้เลือกทั้งแบบยาคุมกำเนิดซูซี่ 21 เม็ด และ 28 เม็ด ราคาน่ารัก และหาซื้อได้ง่ายตามร้านขายยาทั่วไป
ยาคุมเฮอร์ซเป็นยาคุมฮอร์โมนรวมชนิดฮอร์โมนต่ำ ที่มีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดสูงและให้ผลข้างเคียงน้อยกว่ายาคุมประเภทอื่นๆ หมดกังวลเรื่องปัญหาคลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ หรือ เลือดออกกะปริบกระปรอยไปได้เลย และยาคุม Herz ยังมีราคาสมเหตุสมผล จับต้องได้
ยาคุมมินนี่เป็นยาคุมชนิดฮอร์โมนต่ำเหมือนกัน ไม่ทำให้บวมน้ำและไม่กระตุ้นความอยากอาหาร สำหรับสาวๆ ที่กังวลเรื่องน้ำหนัก รูปร่าง ทรวดทรง องเอว บอกเลยว่าตอบโจทย์มาก ที่สำคัญราคาน่ารัก หาซื้อก็ง่าย และคุมกำเนิดได้ดีอีกด้วย
ยาคุมกำเนิดนับว่าเป็นวิธีการคุมกำเนิดที่ได้รับความนิยมมากกว่ายาคุมแบบฉีด หรือ ยาคุมแบบแผ่นแปะ เพราะยาเม็ดคุมกำเนิดมีประสิทธิภาพสูง และน่าสนใจ เพราะจับต้องได้ง่ายมีให้เลือกหลากหลายราคา ตั้งแต่หลักสิบไปจนถึงหลักร้อย และยังมีประโยชน์อื่นๆ เช่น ปรับสมดุลฮอร์โมน ช่วยลดสิว ลดหน้ามัน ขนดก ลดอาการปวดท้องประจำเดือน และอื่นๆ
ทั้งนี้ประสิทธิภาพของยาเม็ดคุมกำเนิดจะขึ้นอยู่กับวิธีการทานเป็นหลัก ดังนั้นแนะนำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ เภสัชกร หรือ ฉลากในกล่องอย่างเคร่งครัด
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที