ประกันโรคร้ายแรง (Critical illness Health Insurance) คือ ประกันที่จะให้ความคุ้มครองกรณีที่ตรวจพบว่าผู้เอาประกันเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรงตามที่ระบุไว้ในนิยามของกรมธรรม์ ด้วยความที่คนเราไม่สามารถล่วงรู้เลยได้ว่าในอนาคตจะมีโอกาสเป็นโรคใดบ้างหรือจะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้นได้บ้าง การทำประกันนี้ไว้จะสามารถจ่ายเป็นเงินก้อนให้ในกรณีที่ตรวจพบเพื่อให้ผู้เอาประกันสามารถนำเงินไปใช้จ่ายในการรักษาตัวหรือค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างการรักษาตัวได้
การซื้อประกันโรคร้ายแรงสามารถช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในรักษาค่าพยาบาลหากป่วยหรือได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุหรือโรคภัยต่าง ๆ การทำประกันจึงเปรียบเสมือนแผนป้องกันชั้นดี เป็นการคุ้มครองความเสี่ยงของสุขภาพร่างกายที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต นอกจากนี้เบี้ยประกันยังสามารถนำมาใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย โดยโรคร้ายแรงมักจะเป็นกลุ่มโรคที่ก่อให้เกิดความเจ็บป่วยที่รุนแรง อันตรายต่อชีวิตที่สามารถส่งผลให้การใช้ชีวิตของผู้ป่วยไม่ปกติในแบบที่เคยเป็น
ซึ่งโรคร้ายแรงมักจะมีค่าใช้จ่ายในการรักษาที่สูง เพราะต้องอาศัยเทคโนโลยี ยาและแพทย์เฉพาะทางในการรักษา การทำประกันโรคร้ายแรงเจอจ่ายจบไว้จึงไม่ใช่เพียงเตรียมความพร้อมในเรื่องของค่ารักษาเท่านั้น แต่ยังถือว่าเป็นการวางแผนทางการเงินให้ไม่กระทบต่ออนาคตอีกด้วย ก่อนตัดสินใจเลือกประกันโรคร้ายแรงที่ไหนดี ควรสำรวจสวัสดิการของตัวเองก่อน ในบางครั้งพบว่าหลายคนมีสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลของทางบริษัทที่ตัวเองทำงานอยู่ รวมถึงสิทธิประกันสังคมหรือแม้แต่ซื้อประกันสุขภาพเพิ่มเอาไว้ จึงควรดูว่าสวัสดิการเหล่านี้ได้ครอบคลุมไปถึงในส่วนของความคุ้มครองโรคร้ายแรงด้วยหรือไม่ ครอบคลุมวงเงินในการรักษามากน้อยเพียงใด และระยะเวลาในการคุ้มครองเป็นอย่างไร
เนื่องจากการรักษาโรคร้ายแรงเป็นการรักษาต่อเนื่องบางครั้งใช้ระยะเวลายาวนานในการรักษา เช่น อาจมองว่าสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลของบริษัทที่ทำงาน มีวงเงินสูงซึ่งเป็นสวัสดิการที่ดีให้กับพนักงาน แต่สิทธินี้จะหมดไปหากพ้นสภาพความเป็นพนักงาน หากใช้สิทธิในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บธรรมดาก็ถือได้ว่าครอบคลุม แต่หากรักษาโรคร้ายแรงและต้องหยุดงานเป็นระยะเวลายาวนาน จะมั่นใจได้หรือไม่ว่าบริษัทยังคงให้สถานภาพเป็นพนักงานอยู่ตลอดไปจนกว่าการรักษาจะสิ้นสุด ดังนั้น หากคุณยังมีสุขภาพที่ดี การทำประกันโรคร้ายแรงเปรียบเทียบไว้ก็เป็นการบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างหนึ่ง เพราะเราไม่สามารถล่วงรู้เลยได้ว่าในอนาคตจะมีโอกาสเป็นโรคใดบ้าง หรือจะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้นหรือไม่
ประกันโรคร้ายแรงแบบเจอจ่ายจบ เป็นตัวเลือกในการช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายเมื่อตรวจพบเจอโรคร้ายแรง โดยบางกรมธรรม์คุ้มครองทุกระยะของการตรวจพบ บางกรมธรรม์คุ้มครองเมื่อตรวจพบระยะลุกลาม ซึ่งจะจ่ายตามความคุ้มครอง จึงควรพิจารณาเรื่องระยะของความคุ้มครองของโรคก่อนตัดสินใจด้วย และเมื่อมีการจ่ายผลประโยชน์ตามความคุ้มครอง ดังนี้
จากสถิติการเสียชีวิตที่จัดทำโดยสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (NESDB) พบว่าในช่วงปี พ.ศ. 2537-2560 อัตราการเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งและเนื้องอกทุกชนิดของคนไทยเป็นสาเหตุอันดับ 1 โดยในปี พ.ศ. 2537 โรคมะเร็งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตของคนไทย 48.9 คน ต่อประชากร 100,000 คน และเพิ่มขึ้นเป็น 120.5 คน หรือเกือบ 3 เท่าตัว ในปี พ.ศ. 2560 เช่นเดียวกับกลุ่มโรคร้ายแรงอื่น ๆ ที่อัตราการเสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ
ในปัจจุบันของคนเราในยุคสมัยนี้มักจะใช้ร่างกายเปลืองอย่างมาก โดยเฉพาะในวัยทำงาน เนื่องด้วยภาระต่าง ๆ ที่คนเราต้องรับผิดชอบ ทำให้ต้องทำงานหนักกันมากขึ้น ส่งผลให้ร่างกายรับไม่ไหวจนถึงขั้นเป็นโรคร้ายแรงจนในที่สุด ดังนั้น เรื่องของสุขภาพเป็นสิ่งที่คนเราไม่ควรละเลย แม้ว่าร่างกายภายนอกจะดูปกติแข็งแรงดี แต่ภายในอาจกลับตรงกันข้าม การทำประกันโรคร้ายแรงเจอจ่ายจบในที่นี้ สามารถช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายรักษาได้และยังไม่กระทบต่อกับทางการเงินในอนาคตอีกด้วย
การทำประกันโรคร้ายแรงจะมีระยะเวลาในการเริ่มนับระยะรอคอยตั้งแต่วันที่ทำสัญญา-ชำระเบี้ยประกัน และหากกรณีมีปัญหาสุขภาพ มีโรคประจำตัว ต้องขอประวัติการรักษาหรือขอตรวจสุขภาพก่อนทำสัญญา เมื่อพิจารณาเรียบร้อยแล้ว ทางบริษัทจะยื่นข้อเสนอใหม่ให้ลูกค้า เช่น รับทำประกัน แต่ยกเว้นความคุ้มครองสุขภาพที่เป็นมาก่อนทำประกันหรือขอเพิ่มเบี้ยประกัน โดยจะเริ่มนับระยะรอคอยตั้งแต่วันที่ลูกค้ารับเงื่อนไขบริษัท เป็นต้น
โดยปกติแล้วการประกันโรคร้าย เราสามารถยึดตามที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้ให้คำนิยามโรคร้ายแรงเอาไว้ 50 โรค เช่น โรคสมองเสื่อมชนิดอัลไซเมอร์ (Alzheimer’s disease) โรคโลหิตจางจากไขกระดูกไม่สร้างเม็ดโลหิต (Aplastic Anemia) โรคมะเร็งระยะลุกลาม (Invasive Cancer) สำหรับประกันโรคร้ายแรงจะให้ความครอบคลุมทั้งโรคระยะเริ่มต้น (Early Stage) และระยะรุนแรง (Last Stage) โดยโรคร้ายแรงที่ประกันครอบคลุมมักแบ่งได้เป็นกลุ่มใหญ่ ๆ 5 กลุ่มด้วยกัน ดังนี้
การทำประกันโรคร้ายแรงมีหลายรูปแบบให้เลือกใช้บริการและบริหารจัดการความเสี่ยงในส่วนนี้ มีทั้งแบบที่เบี้ยถูกแต่ให้ความคุ้มครองสูง แบบที่มีเงินสะสมในตัว แบบที่ชำระเบี้ยระยะสั้นแต่ให้ความคุ้มครองได้ระยะยาว เป็นต้น ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับงบประมาณและวิธีการวางแผนของลูกค้าแต่ละท่านแต่ละครอบครัว
เบี้ยประกันโรคร้ายแรงสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ ซึ่งช่วยแบ่งเบาภาระทางการเงินของคุณได้อีกทางหนึ่ง และด้วยค่าใช้จ่ายในการรักษาที่มีแนวโน้มสูงขึ้นในอนาคต สวัสดิการสุขภาพหรือประกันของบริษัทที่คุณมีอยู่ บางครั้งอาจไม่ครอบคลุมหรือไม่เพียงพอ การทำประกันสุขภาพจึงทำให้คุณหมดกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายสูงกว่าที่ได้วางแผนไว้ รวมถึงผู้ให้บริการประกันภัยหลายแห่งมีบริการจ่ายตรงให้กับโรงพยาบาล คุณจึงไม่จำเป็นต้องสำรองจ่ายเงินสดไปก่อน
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที