ด้วยสภาพเศรษฐกิจและสภาพแวดล้อมดังเช่นในปัจจุบันนี้ เป็นการยากที่คนในวัยทำงานจะมีสุขภาพกายและสุขภาพใจที่แข็งแรงสมบูรณ์ดี การต้องแข่งขันกันทั้งทางการศึกษา และอาชีพการทำงานทำให้เกิดความเครียดมากขึ้นในการดำเนินชีวิตประจำวัน จึงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ว่าคนที่เป็นโรคไมเกรนมีแต่จะเพิ่มมากขึ้น
การปวดหัวไมเกรนก็นับเป็นความเจ็บป่วยทางร่างกายอีกประเภทหนึ่งที่พบกันได้บ่อยยิ่งขึ้นโดยเฉพาะในกลุ่มคนทำงาน ซึ่งต้องประสบกับความเครียดที่สะสมกันมาอย่างต่อเนื่อง เราควรมาทำความเข้าใจและหาทางป้องกันอาการปวดหัวไมเกรนพร้อม ๆ กัน
หากมีอาการปวดหัว เราต้องแน่ใจว่าก่อนอาการปวดหัวที่เป็นอยู่นั้น เป็นอาการที่เกิดจากโรคไมเกรนหรือเปล่า เพื่อจะได้หาแนวทางรักษาที่ถูกต้องเหมาะสมกับ เพื่อแก้ที่ต้นเหตุของอาการปวดนั้น
โรคไมเกรน Migraine คือ โรคปวดหัวเรื้อรัง ที่มักแสดงออกด้วยอาการปวดหัวข้างเดียว และอาจตามมาด้วยปวดหัวทั้งสองข้างในเวลาต่อมาได้ โดยมากคนที่จะเผชิญกับอาการโรคไมเกรนจะเป็นผู้ใหญ่ และเกิดกับผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย เพราะผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะมีอารมณ์เครียดสูงกว่าผู้ชาย
อย่างไรก็ตามอาการของโรคไมเกรนนั้นสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนทุกช่วงอายุ ตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ ทุกเพศทุกวัย แต่ค่อนข้างจะเกิดได้มากกับคนในวัยทำงาน เพราะคนกลุ่มนี้จะต้องเจอกับสิ่งกระตุ้นเร้า ทำให้เกิดความเครียดได้ตลอดเวลา
อาการปวดหัวไมเกรนเกิดจากความผิดปกติของระดับสารเคมีในสมอง ที่ไปกระตุ้นก้านสมองทำให้หลอดเลือดในเยื่อหุ้มสมองเกิดการบีบตัว และคลายตัวมากกว่าปกติ จนรู้สึกปวดหัวตุ๊บ ๆ พร้อมกับมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน แพ้แสง สรุปได้คร่าว ๆ ว่า ไมเกรนเกิดจากหลอดเลือดในสมองทำงานไม่ปกติ
ยังมีอีกทฤษฎีที่เชื่อว่าสาเหตุของอาการปวดหัวไมเกรนนั้นเกิดจากพันธุศาสตร์ ซึ่งสามารถถ่ายทอดกันได้ทางพันธุกรรม เพราะว่าอาการปวดหัวไมเกรนเป็นเรื่องของโครงสร้างของสมองในแต่ละบุคคล
ปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้สามารถกระตุ้นการเกิดโรคไมเกรน มีดังนี้
ลักษณะเด่น ๆ ของโรคไมเกรน พอจะจำแนกออกได้ดังนี้
อาการปวดหัวไมเกรน และอาการปวดหัวธรรมดา จะมีความแตกต่างกันอยู่ โดยมีรายละเอียดอยู่ด้วยกัน ดังนี้
จะเป็นอาการปวดแบบตื้อ ๆ ที่ไม่รุนแรง และไม่มีอาการข้างเคียงร่วมด้วย แต่ถ้าได้รับการ
พักผ่อนนอนหลับเป็นระยะเวลาหนึ่ง ก็จะดีขึ้นหรือหายไปได้เอง อาการดังกล่าวสามารถเกิดได้เมื่อร่างกายอ่อนแอ เป็นไข้ หรืออาจเป็นเพราะความผิดปกติของส่วนต่าง ๆ ในร่างกาย เช่น ไซนัส หรือ หลอดเลือดสมอง เป็นต้น
จะมีอาการปวดตุบ ๆ เป็น ระยะ ๆ แต่บางครั้งก็อาจปวดตื้อ ๆ ความรุนแรงของอาการปวดนั้นจะมีตั้งแต่ปานกลางจนถึงมาก โดยจะค่อย ๆ รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ แล้วก็จะบรรเทาลงจนหายปวดเอง ซึ่งจะมีอาการปวดหัวข้างใดข้างหนึ่ง บางรายนอกจากปวดหัว
เราสามารถจำแนกอาการปวดหัวไมเกรนออกตามลักษณะการแสดงอาการ ได้เป็น 4 ระยะ ด้วยกันคือ
มักเกิดขึ้นก่อนประมาณ 1-2 วันก่อนที่จะมีอาการปวดหัวไมเกรน เช่น ปวดตึงตามต้นคอ หรือ มีอารมณ์แปรปรวน บวมน้ำ ปัสสาวะบ่อย เป็นต้น
อาการไมเกรนเริ่มต้นประมาณ 20-40 นาที ก่อนหรือระหว่างปวดหัว อาจเกิดหรือไม่เกิดขึ้นก็ได้แล้วแต่คน ๆ ไป หากมีอาการโดยมากจะเป็นไมเกรนขึ้นตา เช่น มีการมองเห็นที่ผิดปกติ เห็นแสงระยิบระยับ หรือ เห็นแสงไฟสีขาวมีขอบหยึกหยัก หรือ เห็นภาพเบลอ ๆ บิด ๆ เบี้ยว ๆ และอ่อนแรง เป็นต้น
เป็นช่วงที่โรคไมเกรน จะมีอาการปวดที่รุนแรงที่สุด ซึ่งเป็นจุดเด่นของอาการปวดไมเกรน โดยอาการปวดหัวไมเกรน จะปวดแบบตุ๊บ ๆ อาจเป็นปวดหัวข้างเดียว จนกระทั่งไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ นอกจากปวดหัวไมเกรนแล้วอาจตามด้วยอาการข้างเคียงเช่น คลื่นไส้ อาเจียน แพ้ต่อสิ่งเร้า เช่น แสงจ้า เสียงดัง เป็นต้น อาการในระยะนี้จะกินเวลาประมาณ 4-24 ชั่วโมง
หลังจากอาการปวดไมเกรนที่รุนแรง หมดลงแล้ว อาการที่จะตามมา ก็คือ อาการอ่อนเพลีย วิงเวียน สับสน แถมยังไวต่อสิ่งเร้าดั่งอาการในช่วงที่สาม อาการระยะสี่นี้สามารถอยู่ได้นานเป็นวัน
เมื่อไหร่ก็ตามที่พบว่ามีอาการปวดหัวไมเกรนในระดับรุนแรง และอาการข้างเคียงอื่น ๆ แนะนำให้เข้าพบแพทย์เพื่อรับการรวินิจฉัยโดยด่วนเพื่อที่จะได้หาวิธีรักษาอาการปวดแต่เนิ่น ๆ
อาการไมเกรนรุนแรงนั้น จะทำให้ผู้ป่วยรู้สึกป่วยมากจนทำงานประจำไม่ได้ การเคลื่อนไหว แม้แต่การขึ้นลงบันไดก็ทำให้รู้สึกปวดอย่างมาก ซึ่งถ้าหากปล่อยทิ้งไว้ก็จะกลายเป็นไมเกรนเรื้อรังได้
แนวทางในการรักษาโรคไมเกรนนั้น ที่สำคัญสุดก็คือ การบรรเทาอาการปวดหัวด้วยการลดความถี่หรือไม่ให้เกิดขึ้นเลย โดยไม่จำเป็นต้องใช้ยา แต่ใช้วิธีรักษาไมเกรนเบื้องต้น ซึ่งอาจไม่ได้ผลกับรายที่มีอาการรุนแรง จึงจำเป็นต้องพึ่งพาแพทย์ที่อาจจะต้องจ่ายยาไมเกรนก็ได้ แต่หากสามารถหาวิธีป้องกันได้ย่อมดีกว่าต้องคอยตามบรรเทาอาการปวดเมื่อเกิดอาการ
วิธีการรักษาไมเกรนเบื้องต้นนั้น หากรู้สาเหตุและมีอาการปวดหัวที่ยังไม่ค่อยจะรุนแรง ก็ยังสามารถทำการดูแลรักษาเองได้ในเบื้องต้น ด้วยวิธีต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
เป็นวิธีการรักษาไมเกรนเบื้องต้น ที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง ด้วยการใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำเย็นประคบหน้าผาก หรือผ้าชุบน้ำอุ่นประคบบริเวณท้ายทอย จะช่วยทำให้หลอดเลือดหดตัว ที่ทำให้อาการไมเกรนลดความรุนแรงลง
วิธีนี้สามารถทำเองได้ด้วยการปรับพฤติกรรมของตัวเอง เช่น
ใช้วิธีกินสมุนไพรเพื่อลดไมเกรน เช่น ชงผงขิงกินเพื่อให้ผ่อนคลาย ลดเครียด บรรเทาอาการปวดหัวไมเกรนได้
สามารถใช้วิธีนวดกดจุดเพื่อช่วยบรรเทาอาการปวดหัวไมเกรนได้ ลดอาการตึงตรงกล้ามเนื้อคออีกด้วย โดย
กดจุดบริเวณเหนือสันมือ (มาทางข้อพับ) ประมาณ 3 นิ้ว ประมาณ 5 นาที หรือใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้กดระหว่างนิ้วหัวแม่มือกับนิ้วชี้ของอีกข้างหนึ่ง กดประมาณ 5 นาที
บางครั้งอาจต้องพึ่งพาแพทย์ให้คำวินิจฉัยในการลดอาการปวดไมเกรนที่รุนแรง เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพร่างกาย และสาเหตุของไมเกรน โดยไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ เช่น
กรณีที่มีอาการปวดไมเกรนรุนแรง แพทย์อาจใช้วิธีฉีดยาไมเกรนเข้าทางใต้ผิวหนังเพื่อลดความรุนแรงของอาการปวดไมเกรน เหมาะกับผู้ป่วยไมเกรนเรื้อรัง
เป็นที่เข้าใจกันว่า โรคไมเกรนตอบสนองต่อยารักษาไมเกรนได้ดี ดังนั้นแพทย์จึงได้แนะนำให้ใช้
ถ้าปวดไมเกรนแบบไม่รุนแรง : ให้กินยาพาราเซตามอลเพื่อบรรเทาปวด
ถ้าปวดไมเกรนแบบรุนแรงมาก : ให้เลือกใช้ยากลุ่ม NSAIDs เช่น naproxen, etoricoxib เป็นต้น หรือจะเลือกใช้กลุ่มยาเฉพาะโรคไมเกรน เช่น กลุ่มยาทริปแทน กลุ่มยาเออร์กอต แอลคาลอยด์ เป็นต้น
เป็นยาฉีดคลายกล้ามเนื้อเรียกว่า Botox ทำโดยแพทย์ทุก ๆ 12 สัปดาห์ เพื่อป้องกันการเกิดไมเกรน
เป็นวิธีรักษาแบบแพทย์แผนจีนที่มามาอย่างยาวนาน เป็นการฝังเข็มตามจุดต่าง ๆ ของร่างกายเพื่อให้เลือดไหลเวียนได้สะดวก และลดอาการปวดไมเกรนลง
อย่างไรก็ตาม คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยโรคไมเกรนย่อมโดนผลกระทบจากอาการปวดหัวไมเกรนมาก ๆ ถึงแม้จะไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสมองก็ตาม แต่ย่อมส่งผลเป็นระยะยาวทำให้การดำเนินชีวิตประจำวันไม่สะดวกสบาย ราบรื่นอย่างที่ควรจะเป็น ดังนั้นการเข้าพบแพทย์เพื่อหาแนวทางการรักษาให้ถูกต้อง ก็สามารถช่วยลดความถี่ในการเกิดไมเกรนได้ เช่น
ปัจจุบันสำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคไมเกรนสามารถเข้ารับการรักษาจากแพทย์เฉพาะทางได้แล้ว โดยมีศูนย์รักษาไมเกรนโดยเฉพาะที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากประเทศไทยและประเทศสหรัฐอเมริกา มามากกว่า 10 ปีแล้ว
ศูนย์รักษาไมเกรนนี้ควรเป็นที่รู้จักและได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า พร้อมสถานพยาบาลก็สะอาด ถูกสุขอนามัย เดินทางไปมาได้สะดวก มีแพทย์เฉพาะทางด้านสมองที่มีความเชี่ยวชาญด้านไมเกรนไว้คอยให้คำแนะนำ คำปรึกษา พร้อมดูแลตั้งแต่เริ่มรักษาจนจบกระบวนการ ในราคาที่จับจ่ายได้
ศูนย์ที่ทางเราพร้อมแนะนำก็คือ BTX Migrane Center ที่สามารถติดต่อขอทราบรายละเอียดได้ที่ # 090-970-0447
โรคไมเกรนสามารถที่จะบรรเทาอาการและป้องกันการปวดหัวไมเกรนได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้ยา หากอาการนั้นยังไม่รุนแรงมากนัก แต่ก็ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของแพทย์ เพราะคนไข้แต่ละรายก็แตกต่างกันไป ซึ่งส่งผลต่อวิธีการรักษา ประเภทยารักษา ขนาดยาที่ต้องได้รับ แต่หากยายังไม่สัมฤทธิผล แพทย์ก็ยังสามารถหาวิธีรักษาแบบอื่น ๆ ได้ที่เหมาะสมกับแต่ละสาเหตุ
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที