วัตพล

ผู้เขียน : วัตพล

อัพเดท: 18 มี.ค. 2024 02.03 น. บทความนี้มีผู้ชม: 672415 ครั้ง

ผิวแห้งคัน ปัญหาคันยุบยิบที่รักษาให้หายได้


เคลียทุกคำถาม! สิวขึ้นคางเกิดจากอะไร พร้อมวิธีรักษาที่ถูกต้อง

สิวขึ้นคาง

ใครที่กำลังพบปัญหาสิวขึ้นคางเป็นสิวที่คางต้องอ่านบทความนี้! ปัญหาสิวนอกจากจะทำให้เสียความมั่นใจแล้ว สิวขึ้นคางยังทำให้ผู้ที่เป็นสิวรู้สึกเจ็บเวลาขยับปาก หรือ ระหว่างใส่แมสอีกด้วย และในปัจจุบันที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสทำให้ทุกคนยังคงต้องใส่แมสเพื่อป้องกันตนเอง ทำให้เป็นเรื่องยากที่จะหลีกเลี่ยงการใส่แมส ทำให้การที่สิวขึ้นคางเป็นปัญหาที่คอยกวนใจของใครหลายคน 

บทความนี้จะพาทุกคนไปค้นหาคำตอบ ว่าสิวขึ้นคางเกิดจากอะไร แพ้แมสแล้วสิวขึ้นคางเรื่องจริงหรือหลอก พร้อมแนะนำวิธีรักษาและป้องกันสิวที่คางที่ถูกต้อง ถ้าพร้อมแล้วไปหาคำตอบพร้อมกันเลย! 


สิวขึ้นคาง คืออะไร

สิวขึ้นคางหรือ สิวใต้คาง นับเป็นหนึ่งในปัญหาสิวที่หลายคนกำลังเจอ และส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของหลายคน เพราะเวลาขยับปากพูดหรือใส่แมสมักจะก่อให้รู้สึกเจ็บ โดยแพทย์และนักวิจัยหลายคนเชื่อว่า ปัญหาสิวขึ้นคางมีสาเหตุเดียวกันกับปัญหาสิวอื่นๆ ที่ขึ้นตามร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น สิวที่หน้า สิวที่หลัง หรือสิวที่คอ ส่วนใหญ่ล้วนมีสาเหตุและปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดสิวเหมือนกัน ได้แก่ สิ่งสกปรก ความมันบนผิวหนัง เซลล์ผิวที่ตาย และการอุดตันตามรูขุมขน 


สิวที่คางเกิดจาก

เป็นสิวที่คาง สิวเห่อที่คางเกิดจากอะไร ? มีปัจจัยหลายอย่างที่สามารถทำให้สิวขึ้นคางได้ โดยสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้พบปัญหาสิวขึ้นที่คาง ได้แก่ 

1. การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนในร่างกาย

ฮอร์โมนในร่างกายนับเป็นปัจจัยหลักที่กระตุ้นทำให้เกิดสิว ไม่ใช่เพียงสิวที่คางเท่านั้น แต่รวมไปถึงบริเวณอื่นๆ ของร่างกาย โดยเมื่อฮอร์โมน Androgen มีมากขึ้นจะทำให้ตาอมไขมันเพิ่มจำนวนมากขึ้น และส่งผลให้การผลิตน้ำมันในร่างกายเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเจ้าน้ำมันนี้แหละที่เป็นสาเหตุหลักของการเกิดสิว

บางคนอาจจะสงสัยว่าช่วงที่ใกล้มีประจำเดือน หรือ ระหว่างมีประจำเดือน ทำไมมักมีสิวขึ้นคาง คำตอบคือ เพราะฮอร์โมน Androgen ในร่างกายของผู้หญิงมีปริมาณมากกว่าปกตินั่นเอง

2. ความสกปรก

นอกจากการฮอร์โมนแล้วสิ่งสกปรกยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่กระตุ้นให้สิวขึ้นคาง โดยบริเวณคางและใบหน้าเป็นบริเวณที่เรามักใส่มือสัมผัสโดยไม่รู้ตัว เช่น นั่งเท้าคาง ลูบบริเวณคาง และอื่นๆ ซึ่งการทำแบบนี้เป็นการกระตุ้นให้สิวขึ้นคางโดยไม่รู้ตัว เพราะมือถือเป็นบริเวณที่รวมเชื้อแบคทีเรียที่ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าได้ ถ้าหากคุณมีพฤติกรรมที่เหล่านี้ ไม่ใช่เรื่องแปลกที่มักจะเจอปัญหาสิวขึ้นคาง

3. มลภาวะต่างๆ 

ในปัจจุบันที่กำลังเผชิญหน้ากับปัญหาค่าฝุ่น PM ที่สูงในทุกๆ วัน และมลภาวะต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ควันจากรถยนต์ หรือ รถจักรยานยนต์ การเกิดปัญหาสิวขึ้นคางนับเป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้ เพราะมีสิ่งสกปรกสะสมอยู่บริเวณ ยิ่งถ้าหากกลับมาถึงบ้านแล้วทำความสะอาดไม่สะอาด ไม่ถูกวิธี ก็ยิ่งมีโอกาสสิวขึ้นคางมากขึ้น 

4. การใส่หน้ากากอนามัยซ้ำ 

อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่าในปัจจุบันทุกคนยังจำเป็นที่จะต้องสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกจากบ้าน เพื่อความปลอดภัยของตนเอง ซึ่งการใส่หน้ากากอนามัยไม่ใช่เรื่องผิด แต่การใส่หน้ากากอนามัยซ้ำนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำ เพราะหน้ากากอนามัยมักมีสิ่งสกปรกสะสมอยู่และสิ่งสกปรกเหล่านั้นสามารถทำให้สิวขึ้นคางได้ 

แนะนำให้ทุกคนเปลี่ยนหน้ากากอนามัยหรือซักหน้าทุกวัน ในกรณีคนที่มีปัญหาสิวอยู่แล้วอาจจะเปลี่ยนอนามัยหน้า 2 ครั้งต่อวัน (เช้า-กลางวัน) เพื่อความสะอาดและลดโอกาสสิวขึ้นคาง


พฤติกรรมที่ก่อให้เกิดสิวที่คาง

  1. การนำมือไปสัมผัสบริเวณคางโดยไม่จำเป็น
  2. ชอบนั่งเท้าคาง
  3. ล้างหน้าไม่สะอาด 
  4. ใส่หน้ากากอนามัยซ้ำ 
  5. บีบ กด สิวที่บริเวณคาง

พฤติกรรมที่กล่าวไปข้างต้นล้วนเป็นพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดสิวขึ้นคาง แนะนำให้หลีกเลี่ยงหลีกให้ได้มากที่สุด 


ประเภทของสิวที่คาง

1. สิวเสี้ยนใต้คาง

สิวเสี้ยนใต้คาง มีลักษณะคล้ายกับสิวหัวดำ หรือ สิวอุดตัน โดยสาเหตุของสิวเสี้ยนใต้คางมักเกิดจากความผิดปกติในการสร้างขน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วการเกิดสิวเสี้ยนใต้คางมีโอกาสเกิดได้น้อยกว่าสิวประเภทอื่นๆ ส่วนใหญ่คนมักจะเข้าใจผิดคิดว่าสิวอุดตันเป็นสิวเสี้ยนใต้คาง 

2. สิวอักเสบที่คาง

สิวอักเสบที่คางเป็นปัญหาสิวขึ้นคางที่หลายคนต้องเจอ โดยสิวประเภทนี้สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ ส่วนใหญ่ของสิวอักเสบที่ขึ้นคางมักจะเกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่เข้าสู่ผิวหนัง ทำให้เกิดสิวอุดตันกลายเป็นสิวอักเสบและมีหนองในที่สุด 

3. สิวอุดตันใต้คาง

สิวอุดตันขึ้นใต้คางเป็นประเภทสิวที่เจอได้บ่อยมากที่สุด โดยลักษณะของสิวอุดตันมักจะเป็นสิวหัวปิด ไม่มีหนอง ไม่มีหัว ทำให้ไม่สามารถบีบหรือกดได้ ซึ่งสาเหตุหลักของการเกิดสิวอุดตันมักมาจากการเกิดอุดตันในรูขุมขนของไขมัน เซลล์ผิวที่ตาย และสิ่งสกปรก ทำให้กลายเป็นสิวอุดตันที่คางในที่สุด 

4. สิวฮอร์โมนคาง

หลายคนบอกว่าสิวขึ้นคาง คือ สิวฮอร์โมน โดยสิวฮอร์โมนที่คางจะมีทั้งสิวอุดตัน และ สิวอักเสบ โดยสามารถสังเกตได้จากช่วงที่เป็นสิว ถ้าหากเป็นสิวฮอร์โมนส่วนใหญ่มักจะพบในช่วงที่ฮอร์โมนในร่างกายมีการเปลี่ยนแปลง เช่น ช่วงมีประจำเดือน หรือ ช่วงวัยรุ่น เป็นต้น 

5. สิวหัวช้างที่คางหรือสิวขึ้นที่คางไม่มีหัว

สิวหัวช้างเป็นสิวที่มีความรุนแรงมาก และรักษายากกว่าสิวประเภทอื่นๆ โดยสิวหัวช้างจะมีลักษณะคล้ายกับสิวอักเสบแต่มีขนาดใหญ่กว่า และไม่มีหัว ซึ่งทำให้ไม่สามารถรักษาได้ด้วยการกดหรือบีบสิว จำเป็นต้องปรึกษาแพทย์เพื่อรักษาเท่านั้น 

6. สิวผดที่คาง

สิวผดที่คางเป็นสิวที่มีสาเหตุและปัจจัยการเกิดแตกต่างจากสิวประเภทอื่นๆ โดยสาเหตุที่ทำให้สิวผดขึ้นคางส่วนใหญ่มักมาจากแสงแดด และ รังสี UV สังเกตได้จากเมื่อออกแดดเป็นเวลานานมักจะมีสิวผดขึ้นตามใบหน้าและลำตัว 


โรคที่อาจเข้าใจผิดว่าคือสิวที่คาง

นอกจากสิวขึ้นคางประเภทต่างๆ แล้ว ยังมีโรคที่อาจจะเข้าใจผิดว่าคือสิวขึ้นคาง ได้แก่ 

1. รูขุมขนอักเสบที่คาง

มีลักษณะเป็นตุ่มแดง หรือ ตุ่มหัวหนอง คล้ายกับสิวหัวหนองเม็ดเล็กๆ สามารถขึ้นได้ทั่วทั้งร่างกาย รวมไปถึงที่คาง ซึ่งอาจจะทำให้หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นสิวที่คาง ทั้งที่ความจริงแล้ว คือ อาการรูขุมขนอักเสบ 

2. ผิวหนังอักเสบที่คาง

ผิวหนังอักเสบที่คางมีลักษณะอาการขึ้นเป็นผื่น หรือ ตุ่มแดงเหมือนสิว ทำให้หลายคนเกิดความสับสนและเข้าใจผิด คิดว่าเป็นสิวที่คาง โดยสาเหตุเกิดจากเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา 

3. ขนคุดที่คาง

ปัญหาขนคุดที่คางเป็นปัญหาที่มักพบในเพศชาย โดยมีสาเหตุมาจากการโกนหนวดผิดวิธี เช่น มัดไม่คมทำให้ต้องลงน้ำหนักมากกว่าปกติ หรือ ผู้ที่มีขนหยิก สามารถพบขนคุดได้บ่อยกว่าคนทั่วไป 

4. โรคผิวหนัง Rosacea

โรคผิวหนังอักเสบโรซาเซีย เป็นโรคผิวหนังที่มีลักษณะเป็นผื่นแดง ตุ่มนูนแดง ตุ่มหนอง และร่างแหของหลอดเลือดฝอย มักมาพร้อมกับอาการแสบคัน หน้าบวม และอาจจะมีอาการตาแดง ตาแห้งร่วมด้วย บริเวณที่ขึ้นส่วนใหญ่ ได้แก่ แก้ม จมูก หน้าผาก และคาง


วิธีรักษาสิวที่คาง 

1. ยาทา

สำหรับผู้ที่เริ่มเป็นสิวที่คาง อาจจะลองใส่ทายาภายนอกเพื่อรักษาอาการเองที่บ้านก่อนได้ โดยใช้เป็นยารักษาสิวพื้นฐานทั่วไป ตามอาการและประเภทสิวที่เกิด โดยยารักษาสิวขึ้นคางที่นิยมใช้กันได้ Bemzoyl Peroxide และ Retinoids ที่สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาและห้างสรรพสินค้าทั่วไป 

2. ยาทาน

ในกรณีที่สิวขึ้นคางที่มีจำนวนมาก และลามไปยังบริเวณใกล้เคียง การใช้ยาทานจะได้ผลลัพธ์ที่ดีมากกว่า แต่ในขณะเดียวกันการทานยารักษาสิวควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ เพื่อความปลอดภัยของตัวผู้ใช้ยาเอง เพราะยาทานมักมีผลข้างเคียงที่รุนแรงกว่ายาทาทั่วไป 

3. ยาคุม หรือ ยาปรับฮอร์โมน 

ในกรณีที่สิวขึ้นคางเกิดจากฮอร์โมนการทานยาคุมกำเนิด หรือ ยาปรับฮอร์โมน สามารถช่วยแก้ไขปัญหาสิวขึ้นคางได้ ทั้งนี้การทานยาคุมหรือยาปรับฮอร์โมนควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ และจำเป็นต้องใช้ระยะเวลา 2-3 เดือน จึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน 

4. รักษาความสะอาด 

ปัญหาสิวที่คางส่วนใหญ่มักมาจากสิ่งสกปรกที่สะสมอยู่ตามรูขุมขน การทำความสะอาดใบหน้าอย่างถูกวิธีจึงเป็นวิธีที่สามารถช่วยลดโอกาสสิวขึ้นคางได้ดี ไม่แพ้วิธีอื่นๆ และวิธีรักษาสิวขึ้นคางแบบอื่นจำเป็นต้องทำควบคู่ไปกับการรักษาความสะอาดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์การรักษาที่มีประสิทธิภาพ 

5. ปรึกษาแพทย์

ถ้าหากคุณมีปัญหาสิวขึ้นคางอาการรุนแรงและมีปริมาณมาก การไปปรึกษาแพทย์ที่เชี่ยวชาญนับว่าเป็นการรักษาสิวที่น่าสนใจ เพราะแพทย์สามารถหาสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดสิว พร้อมแนะนำวิธีรักษาสิวขึ้นคางได้อย่างถูกต้อง และเหมาะกับคนไข้มากที่สุด 


ดูแลผิวอย่างไรไม่ให้สิวขึ้นคางซ้ำ

วิธีดูแลผิวไม่ให้สิวขึ้นคาง

สำหรับผู้ที่มีปัญหาสิวที่คาง รักษาหายดีแล้ว และไม่ต้องการให้เกิดสิวที่คางซ้ำ แนะนำว่าควรรักษาความสะอาดบริเวณคางและใบหน้า ไม่ว่าจะเป็น การไม่ควรแมสหรือหน้ากากอนามัยซ้ำ ล้างหน้าอย่างถูกวิธี พร้อมทั้งหลีกเลี่ยงการนำมือไปสัมผัสบริเวณคางและใบหน้า เพื่อป้องกันไม่ให้สิวขึ้นคางซ้ำ 


แนวทางการป้องกันสิวขึ้นคาง


ข้อสรุป

สาเหตุของสิวขึ้นคางส่วนใหญ่มักจะมาจากสิ่งสกปรก การอุดตันของรูขุมขน และฮอร์โมนในร่างกาย ซึ่งการเกิดสิวที่คางไม่ใช่เรื่องแปลก และไม่ได้บ่งบอกถึงโรคร้ายอันใด ดังนั้นผู้ที่มีปัญหาสิวขึ้นคางไม่รุนแรง ปริมาณไม่เยอะอาจจะลองรักษาด้วยวิธีทายาและรักษาความสะอาดดูก่อน แต่ผู้ที่มีปัญหาสิวขึ้นคางปริมาณเยอะมาก แนะนำว่าควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อเข้ารับการรักษาที่ถูกวิธี 


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที