วัตพล

ผู้เขียน : วัตพล

อัพเดท: 18 มี.ค. 2024 02.03 น. บทความนี้มีผู้ชม: 661712 ครั้ง

ผิวแห้งคัน ปัญหาคันยุบยิบที่รักษาให้หายได้


ปลูกผม รักษาผมร่วง ด้วยการฉีด PRP ผม

ฉีด PRP ผม

ปัจจุบันนวัตกรรมการปลูกผมเพื่อรักษาปัญหาผมร่วง ผมบาง นั้นมีมากมายหลายอย่าง เช่น FUT (Follicular Unit Hair Transplant) คือการผ่าตัดเซลล์รากผมที่ผมแข็งแรงไปปลูกที่ผมบาง หรือ FUE (Follicular Unit Extraction) คือการย้ายเซลล์รากผมไปยังที่ที่ผมบาง แต่หนึ่งในนั้นก็มีอีกวิธีที่น่าสนใจกอีกวิธีคือการฉีด PRP ผม


แนะนำการฉีด PRP ผม ช่วยแก้ปัญหาผมร่วง ผมบาง

การทํา PRP ผม คือ นวัตกรรมการปลูกผมที่ไม่ต้องผ่าตัด โดยแพทย์จะทำการฉีด PRP ผมของคนไข้ไปในหนังศรีษะที่มีปัญหาผมร่วง หรือผมบาง เพื่อทำให้ผมที่งอกขึ้นมาใหม่หนาและแข็งแรงมากขึ้น

PRP หรือ Platelet Rich Plasma คือพลาสม่าเกล็ดเลือดเข้มข้น ที่ได้จากการนำเลือดของคนไข้มาปั่น แยกพลาสม่าออกจากเลือดมาใช้ ซึ่งพลาสมานี้จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างเส้นเลือด และการแบ่งตัวของเซลล์ ทำให้เมื่อฉีด PRP เซลล์รากผมจะถูกกระตุ้นให้สร้างเส้นผมและทำให้รากผมแข็งแรง

ฉีด PRP ผม อยู่ถาวรไหม

การฉีด PRP ผมจะมีอายุอยู่ประมาณ 1-3 ปี ไม่อยู่ถาวร หากต้องการให้อยู่ยืนยาวต้อง PRP ผมต่อเนื่องทุก ๆ 3 เดือน

ฉีด PRP ผม กี่ครั้งจึงจะเห็นผล

แม้ว่าการฉีด PRP ผม จะช่วยให้ผมที่งอกขึ้นมาใหม่หนาและแข็งแรงมากขึ้น แต่ก็ไม่ใช่ภายในครั้งแรก แพทย์จะแนะนำว่าให้ฉีด PRP ผมอย่างน้อย 3 ครั้งขึ้นไปจึงจะเห็นผลและไม่ใช่ว่าทำครบ 3 ครั้งแล้วก็จะเห็นผลเลยด้วยเพราะต้องรอดูหลังจากนั้นอีก ประมาณ 3เดือนว่า ผมที่งอกใหม่หนาขึ้นหรือไม่อย่างไรบางคนที่มีปัญหาหนักอาจต้องทำถึง 10 ครั้งเลยทีเดียว


ฉีด PRP ผม เหมาะกับใครบ้าง

การฉีด PRP ผมเหมาะกับ

  1. ผู้มีปัญหาผมร่วง ผมบาง แต่ไม่สามารถรักษาด้วยการผ่าตัดได้ เพราะการทํา PRP ผมพอทำเสร็จไม่เจ็บ และไม่ต้องพักฟื้น
  2. ผู้มีปัญหาผมร่วง ผมบาง และแพ้สารเคมีหลายชนิด เพราะการ PRP ผมใช้พลาสม่าจกเลือดของเราเอง เพราะฉะนั้นจึงจะไม่แพ้แน่นอน
  3. ผู้มีกรรมพันธุ์ที่เสี่ยงจะมีปัญหาผมร่วง ผมบาง ศรีษะล้าน สามารถฉีด PRP ผม เพื่อชะลอปัญหาเหล่านั้นได้

ใครที่ไม่ควรฉีด PRP ผม

การฉีด PRP ผมไม่เหมาะกับ

  1. ผู้ที่เป็นโรคที่เกี่ยวกับเลือด เช่น โลหิตจาง, ติดเชื้อในกระแสเลือด หรือเกล็ดเลือดต่ำ
  2. ผู้ที่เป็นโรคผิวหนังบริเวณศรีษะ
  3. ผู้ป่วยที่ต้องทานยาละลายลิ่มเลือด
  4. หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร
  5. ผู้เคยมีประวัติแพ้ PRP

ข้อดีของการรักษาด้วยการฉีด PRP ผม

การฉีด PRP ผมมีข้อดีคือ

  1. เป็นวิธีปลูกผมโดยไม่ต้องผ่าตัด ทำแล้วไม่มีแผลเป็น
  2. PRP ผมแล้วเส้นผมจะกลับมาแข็งแรงและหนาขึ้น
  3. ปลอดภัย ไม่ต้องเสี่ยงกับสารเคมีเพราะใช้เลือดของเราเองในการทำสารสกัด
  4. การทํา PRP ผม เห็นการเปลี่ยนแปลงได้จริงและสามารถทำร่วมกับการรักษาอื่น ๆ ได้ เช่น ฉีด PRP ผมด้วย และ ทานยาชะลอผมร่วงด้วย

ขั้นตอนการทำ PRP ผม ทำนานไหม

ฉีด PRP ผม

ขั้นตอนการฉีด PRP ผม หลัก ๆ จะแบ่งเป็นขั้นเตรียมตัวและขั้นตอนฉีด

ขั้นเตรียมตัวก่อน PRP ผม

  1. ปรึกษาแพทย์เพื่อดูก่อนว่าเรามีอาการหรือภาวะอะไรที่เสี่ยงต่อการทำ PRP ผม หรือไม่
  2. ถ้าแพทย์ประเมินแล้วว่าไม่มีปัญหาอะไร แพทย์จะนัดวันที่จะมาฉีด PRP ผม
  3. ก่อนวันที่จะฉีด PRP ผม ต้องนอนหลับให้เพียงพอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำให้เพียงพอ งดสูบบุหรี่และงดดื่มเหล้า
  4. เมื่อถึงวันฉีดให้สระผมมาด้วย แต่ไม่ต้องใช้ครีมนวดหรืออะไรก็ตามที่ต้องสัมผัสกับหนังศรีษะ

ขั้นฉีด PRP ผม

  1. แพทย์จะเจาะเลือดคนไข้มา 100 มิลลิลิตรซึ่งน้อยมาก ๆ
  2. เมื่อได้เลือดจะมาปั่นในเครื่องมือเพื่อแยกเกล็ดเลือด และพลาสม่า ออกมาใช้
  3. แพทย์จะฉีดยาชาบริเวณที่ต้องปลูกผม ต่อด้วยการกระตุ้นหนังศีรษะ
  4. สุดท้ายแพทย์จะฉีด PRP ผม ในบริเวณที่มีปัญหา

ผลลัพธ์หลังทำฉีด PRP ผม 

ฉีด PRP ผม

หลังจากฉีด PRP ผมเรียบร้อยแล้วประมาณ 3-10 ครั้งอย่างที่กล่าวไปในข้างต้น ในเดือนแรกคนไข้ก็จะเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลง ผมบางจะหนาขึ้น รากผมจะกลับมาแข็งแรง ทำให้ผมที่ร่วงเยอะ ๆ ร่วงน้อยลง และหนังศีรษะสภาพดีขึ้น

แต่ถึงอย่างนั้นหลังการทํา PRP ผม ก็แนะนำว่าให้กลับไปพบแพทย์ทุก ๆ 2-3เดือนเพื่อตรวจอาการและสภาพผม รวมถึงควรทำ PRP ผมอย่างต่อเนื่องเพื่อให้สุขภาพผมยืนยาว


ฉีด PRP ผม ราคาเท่าไหร่ 

การทํา PRP ผม ถึงแม้จะดูมีขั้นตอนหลายอย่างและต้องใช้เครื่องมือมากมาย แต่ปัจจุบันราคาไม่แพงอย่างที่คิด เพราะการฉีด PRP ผม ราคาก็อยู่ตั้งแต่หลัก 2,000 - 5,000 บาทต่อครั้ง ไปจนถึงหลักหมื่นต่อครั้ง ขึ้นอยู่กับเครื่องมือที่ใช้และการดูแลที่ต่างกันในแต่ละคลินิกหรือโรงพยาบาล


สรุปเทคนิคการฉีด PRP ผม

จะเห็นได้ว่าการปลูกผม โดยการทํา PRP ผม มีข้อดีมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เราไม่ต้องผ่าตัดให้บาดเจ็บและมีรอยแผลเป็น แถมยังปลอดภัยจากสารเคมีเพราะใช้สารสกัดจากเลือดของเราเอง เพราะงั้นการฉีด PRP ผมจึงถือเป็นหนึ่งในวิธีที่ช่วยลดปัญหาผมร่วง ผมบางได้ดีที่สุดวิธีหนึ่งเลย


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที