โสม ราชาสมุนไพร กับสรรพคุณทางการแพทย์ที่คุณควรรู้ ไม่รู้ห้ามกิน
หลาย ๆ คนอาจจะเคยได้ยินหรือเห็นผ่าน ๆ กันมาบ้างแล้วว่าโสมนั้น เป็นพืชที่มีสรรพคุณที่หลากหลายจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเพิ่มความแข็งแรงของสุขภาพ เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน อีกทั้งยังมีส่วนช่วยลดน้ำหนัก และลดริ้วรอยแห่งวัย ที่สำคัญนอกจากโสมมีสรรพคุณมากมายแล้ว ยังเป็นพืชล้มลุกที่สามารถใช้ได้กับทุกคนอีกด้วย เพื่อให้ทุกคนได้รับประ โย ช ของ โสมได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับสรรพคุณของราชาแห่งสมุนไพรกัน
โสม คืออะไร
โสม หรือ Ginseng คือ ยาสมุนไพรที่ปัจจุบันคนทั่วโลกนิยมนำมาใช้เป็นส่วนผสมอย่างมาก เพราะตัวโสมมีสรรพคุณทางการแพทย์มากมาย สามารถใช้เพื่อเสริมพละกำลังและปรับสมดุลให้กับร่างกาย โดยเป็นพืชที่อยู่ในวงศ์ Araliaceae สกุล Panax แบ่งออกได้หลายสายพันธุ์ แต่จะมีเพียงบางสายพันธุ์เท่านั้น ที่นิยมใช้ในปัจจุบัน โดยมีงานวิจัยรับรอง และมีการนำมาใช้อย่างแพร่หลายมากที่สุดก็คือ โสมเกาหลี โสมจีน และโสมอเมริกา
เนื่องจากทั้ง 3 สายพันธุ์นี้อยู่ในวงศ์ตระกูลเดียวกัน และมีสารสำคัญที่พบในโสมตัวเดียวกันอย่างสาร จินเซนโนไซต์ (Ginsenosides) และพาแน็กโซไซด์ (Panaxosides) ซึ่งเป็นสารที่จะช่วยบำรุงร่างกายและปรับสมดุลร่างกายให้ดีขึ้น จึงเป็นที่นิยมในการนำโสมมาใช้เป็นส่วนผสมสำคัญสกินแคร์หรืออาหารเสริมเพื่อสุขภาพ นอกจากการใช้งานเป็นส่วนผสมแล้ว เรายังเห็นว่าโสมยังปรากฏอยู่ในทั้งเมนูอาหารเกาหลีหรือเป็นเครื่องเคียงชั้นเลิศอีกด้วย
โสม มีกี่ประเภทที่คนนิยม
โสมเป็นพืชสมันไพรล้มลุกที่มีด้วยกันหลากหลายชนิด หลากหลายสายพันธุ์ ซึ่งสรรพคุณ โสมแต่ละชนิดก็จะแตกต่างกันออกไป โดยเฉพาะในเรื่องของ โสมขาว และ โสมแดง ที่หลายคนคิดว่าเป็นโสมคนละพันธุ์หรือคนละชนิดกัน ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นการเรียกชื่อตามการแปรรูปของโสม พลัส โดยมาจากรากโสมสดชนิดเดียวกัน
โดยสามารถแบ่งตามขั้นตอนและวิธีการเก็บรักษาได้ 3 ชนิด คือ โสมสด มักเก็บเกี่ยวโสมตอนอายุไม่เกิน 4 ปี, โสม ขาว เป็นโสมที่มีอายุตั้งแต่ 4-6 ปี ที่จะปอกเปลือกแล้วนำไปอบแห้ง, และโสม แดง เป็นโสมที่มีอายุ 6 ปี นำไปนึ่งด้วยไอน้ำแล้วนำไปทำให้แห้ง หรือจะแบ่งให้ชัดเพื่อให้เห็นถึงคุณประ โย ช ของ โสมที่ต่างกันออกไปในแต่ละชนิดก็แบ่งได้ 4 ชนิด ได้แก่
-
โสม เกาหลี มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Panax ginseng C.A. Mey. เป็นพืชล้มลุกที่ขึ้นชื่อในเรื่องของสรรพคุณมากที่สุด เนื่องจากนิยมเก็บรากมาใช้เป็นยาเมื่ออายุ 4-6 ปี โดยถูกใช้ในวงการแพทย์และโฆษณาต่าง ๆ มาอย่างยาวนาน สามารถเก็บมาใช้ประโยชน์ ทำยาบำรุงร่างกายระบบต่าง ๆ ในร่างกายแทบจะทุกส่วน ล้วนแล้วแต่สามารถบรรเทาได้ด้วยโสม เกาหลี ตัง กุย จับ รวมถึงเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้อวัยวะภายในได้อีกด้วย
-
โสม จีน มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Panax pseudoginseng เป็นพืชยาสมุนไพรจีน ที่มักใช้ส่วนรากเป็นวัตถุดิบในการปรุงยา โดยมีสรรพคุณทำให้เลือดไหลเวียนดี บรรเทาอาการเจ็บปวด ลดการอักเสบบวม เพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน ชะลอความแก่ และหยุดเลือดสำหรับบาดแผลภายนอก
-
โสม อินเดีย มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Withania somnifera นับว่าเป็นพืชยาแผนโบราณที่ถูกนำมาใช้รักษาโรคต่าง ๆ อย่างแพร่หลายในประเทศอินเดียและในแถบตะวันออกลาง โดยรากสด ๆ จะมีกลิ่นเหมือนม้า ซึ่งกลิ่นของมันจะช่วยเพิ่มพลังและความแข็งแกร่งให้กับร่างกายได้เป็นอย่างดี
-
โสม อเมริกา มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Panax quinquefolius เป็นพืชสกุลเดียวกับโสมจีนและโสมเกาหลี แต่ต่างชนิดกัน เป็นพืชพื้นเมืองในทวีปอเมริกาเหนือ (ปลูกในแคนาดา ภาคเหนือของสหรัฐอเมริกา และสาธารณะประชาชนจีน) มีการนำมาใช้เป็นผลิตภัณฑ์สมุนไพร
สรรพคุณของ โสม มีประโยชน์อะไรบ้าง
สำหรับประโยชน์ของโสมที่สำคัญสามารถแบ่งออกได้เป็นดังนี้
-
ช่วยบำรุงสมรรถภาพทางเพศ เพราะโสมสามารถไปเพิ่มปริมาณไนตริกออกไซในร่างกาย โดยการไปกระตุ้นให้มีการสร้างฮอร์โมนเพศเพิ่มขึ้น ฟื้นฟูความสมบูรณ์ของสเปิร์ม ทำให้สามารถรักษาอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศในผู้ชายได้เป็นอย่างดี
-
ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน อีกสรรพคุณ โสมที่สำคัญ สามารถช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายได้เป็นอย่างดี ช่วยปรับสภาพร่างกายให้สมดุล ป้องกันการติดเชื้อ และช่วยลดอาการภูมิแพ้ สุขภาพร่างกายอ่อนแอ เป็นหวัดง่าย
-
ช่วยควบคุมความดันโลหิต ช่วยในเรื่องการบำรุงกำลัง และทำให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายเราดีขึ้น ทำให้เซลล์เสื่อมสภาพช้าลงกว่าเดิม เพราะมีสารต้านอนุมูลอิสระเป็นส่วนประกอบ กระตุ้นการไหลเวียนเลือด ทำให้ร่างกายเผาผลาญได้ดีขึ้น แก้โรคความดันโลหิตสูง และเสริมความจำได้เป็นอย่างดี
-
ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด นอกจากจะบำรุงร่างกายให้แข็งแรงแล้ว ประโยชน์ของโสมยังช่วยทำความสะอาดหลอดเลือด ขจัดไขมันตามผนังหลอดเลือด ขจัดสารพิษต่าง ๆ ในร่างกาย กระตุ้นเม็ดเลือดขาวให้มีปริมาณมากขึ้น ป้องกันโลหิตจาง ปรับระบบความดันโลหิต ป้องกันหลอดเลือดแข็งตัว ลดอาการปวดท้องประจำเดือน อีกทั้งยังควบคุมน้ำตาลในเลือดที่ช่วยป้องกันการเกิดโรคเบาหวานได้
-
ช่วยปรับฮอร์โมนเพศให้สมดุล อีกหนึ่งประโยชน์ของโสมคือช่วยปรับฮอร์โมนเพศให้เกิดความสมดุล ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งกับผู้หญิงและผู้ชาย สำหรับผู้หญิงสามารถช่วยป้องกันอาการประจำเดือนขาดก่อนกำหนด และสามารถรักษาอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศกับผู้ชายได้เป็นอย่างดี เมื่อสุขภาพกายดีสุขภาพจิตแจ่มใส ก็จะทำให้ความสัมพันธ์กับคนรอบข้างก็ดีตามขึ้นไปด้วย
-
ช่วยชะลอการเสื่อมของเซลล์ต่าง ๆ เนื่องจากโสมมีฤทธิ์สารอย่าง Phytonutrients และสาร Anti-Oxidants ที่จะช่วยต้านอนุมูลอิสระต่าง ๆ จึงช่วยป้องกันความเสื่อมของเซลล์ ปรับสมดุลให้กับร่างกายและยังมีฤทธิ์ช่วยต้านต่อต้านความเครียด จึงช่วยบรรเทาความวิตกกังวลไปได้ด้วย ทำให้ระบบต่าง ๆ ภายในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
-
ช่วยลดความเครียด และความวิตกกังวล นอกจากสารสำคัญ 2 ชนิดที่ได้กล่าวไปแล้ว ในโสมยังมีสารอแดปโตเจน (Adaptogens) ซึ่งเป็นสารจากธรรมชาติที่ช่วยปรับสมดุลในร่างกายและยังมีฤทธิ์ช่วยต้านต่อต้านความเครียด ทำให้ผ่อนคลาย มีสมาธิมากขึ้น
โสมเกาหลี ราคาเท่าไหร่
โสม เกาหลี ราคาเท่าไหร่? ขึ้นชื่อได้ว่าเป็นโสมที่มีคุณภาพดีที่สุดในโลก ซึ่งมีมาให้เลือกรับประทาน 2 ชนิด ได้แก่ โสมขาว และ โสมแดง ที่หลายคนคิดว่าเป็นโสมคนละพันธุ์หรือคนละชนิดกัน ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นการเรียกชื่อตามการแปรรูปของโสม โดยมาจากรากโสมสดชนิดเดียวกัน เพียงแต่ว่าวิธีที่นำมาถนอมเก็บรักษาไว้กันได้นาน ๆ นั้นจะแตกต่างกัน โสมแดงได้มาจากการนำโสมสดไปนึ่งด้วยไอน้ำเดือดราว 2-3 ชั่วโมง จนโสมแห้ง แข็ง และมีสีน้ำตาลเข้ม ส่วนโสมขาวได้มาจากการตากแห้ง จะมีลักษณะสีขาวซีด จึงทำให้โสมแดงจะมีราคาที่แพงกว่าโสมขาว
คนมักนำโสมมาทำอะไรบ้าง
หลายคนยังไม่ทราบว่าโสมที่เรารู้จักกันนั้น ไม่ได้มีประโยชน์แค่การรับประทานเท่านั้น แต่โสมยังมีประโยชน์มากมายต่อผิวพรรณที่ถูกนำมาใช้เป็นส่วนผสมสำคัญใน ยาโสมเกาหลีแคปซูล สกินแคร์ เครื่องสำอางค์ หรือ อาหารเสริมผู้ชาย อีกด้วย
ข้อควรระวังในการกินโสม หรืออาหารเสริมที่มีส่วนผสมของโสม
ถึงแม้ว่าโสมจะมีประโยชน์และสรรพคุณมากมาย แต่ก็ยังมีข้อควรระวังที่คุณควรรู้ไว้เพื่อที่จะได้ใช้ประโยชน์ของตัวโสมได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีข้อควรระวังดังต่อไปนี้
-
มีผลข้างเคียง สำหรับผู้ที่มีปัญหาด้านการนอนหลับ การรับประทานโสมอาจจะไม่เหมาะ เพราะจะยิ่งทำให้นอนไม่หลับหรือหลับไม่สนิท จนพักผ่อนไม่เพียงพอได้ เป็นต้น เนื่องจากตัวโสมมีสารที่จะทำให้ร่างกายของเรากระปรี้กระเปร่า หรือ ตื่นตัว ซึ่งอาจทำให้มีปัญหาเกี่ยวกับการนอนได้
-
เริ่มทานในปริมาณน้อย การเริ่มทานโสมจะต้องทานในปริมาณน้อยๆ สัก 1-2 กรัมต่อวัน หากทานในปริมาณที่เยอะเกินไปจนเกิดผลข้างเคียงตามมา มากกว่าที่จะได้รับประโยชน์ของโสมอย่างมีประสิทธิภาพ
-
หลีกเลี่ยงการทานโสมหากมีโรค ควรระมัดระวังในการใช้กับผู้ป่วยที่เป็นความดันโลหิตสูง เบาหวาน หรือผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด
-
ไม่ทานโสมร่วมกับอาหารชนิดอื่น เพื่อให้ได้ผลสูงสุดในการกินโสม จะต้องหลีกเลี่ยงอาหารบางอย่าง โดยอย่ากินร่วมกันโดยอาหารอื่นจะต้องกินหลังจากกินโสมไปแล้ว อย่างน้อย 3 ชั่วโมง โดยอาหารอื่นที่นี้หมายถึงผลไม้ที่มีฤทธิ์เป็นกรด เช่น น้ำมะนาว น้ำส้มคั้น และห้ามกินกินวิตามินซีร่วมกับโสม เพราะอาหารหรือสารอาหารต่าง ๆ เหล่านี้จะไปทำลายฤทธิ์ที่ควรจะได้จากโสม
สรุป
จะเห็นได้ว่า โสม มีสรรพคุณหลากหลายอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการช่วยบำรุงให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น เพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยควบคุมความดันและน้ำตาลในเลือด หรือช่วยบำรุงสมรรถภาพทางเพศ อีกทั้งยังช่วยลดความเครียดได้เป็นอย่างดี ถึงแม้ว่าจะมีประโยชน์จะมากมาย แต่ก็ควรมีการรับประทานอย่างระมัดระวัง
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที