วัตพล

ผู้เขียน : วัตพล

อัพเดท: 18 มี.ค. 2024 02.03 น. บทความนี้มีผู้ชม: 671706 ครั้ง

ผิวแห้งคัน ปัญหาคันยุบยิบที่รักษาให้หายได้


แก้จมูกเปลี่ยนจมูกพัง ให้เป็นจมูกสุดปัง มั่นใจกว่าเดิมในทุกมุมมอง

เสริมจมูกแล้วพัง เปลี่ยนใหม่ให้ปังได้ด้วยการแก้จมูก

คนแต่ละคนก็ล้วนแต่มีรูปทรงจมูกที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ซึ่งความเป็นเอกลักษณ์นี้ก็ส่งผลต่อความมั่นใจไม่น้อยเลย บางคนก็อาจจะมีความมั่นใจในจมูกของตัวเอง แต่บางคนก็อาจเสียความมั่นใจกับเอกลักษณ์นี้ได้เช่นเดียวกัน และเลือกที่จะศัลยกรรมปรับเปลี่ยนหรือแก้จมูกเพื่อเพิ่มความมั่นใจด้วยการมีรูปทรงจมูกตรงตามแบบที่ตัวเองชื่นชอบ

ถึงแม้ว่าการศัลยกรรมจมูกหรือการเสริมจมูกในปัจจุบันนี้จะมีความปลอดภัย รวมถึงมีความหลากหลายทั้งเทคนิคและวัสดุให้ได้เลือกใช้ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีการเกิดความผิดพลาดขึ้นเลย เพราะหากเลือกเสริมจมูกกับคลินิกที่ไม่น่าเชื่อถือ หรือแพทย์ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญ ก็อาจทำให้จมูกที่เสริมมานั้นเกิดการติดเชื้อ, ผิดรูป, ปลายทะลุ, จมูกเบี้ยว, ซิลิโคนลอย หรือได้ทรงจมูกไม่ตรงตามที่ต้องการ

เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดแบบนี้ขึ้น จึงจำเป็นต้องทำการ แก้จมูก ให้กลับมาดูดีอย่างเดิม ซึ่งใครที่กำลังเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ที่ว่ามานี้ก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะเราได้นำข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการแก้จมูกมาไว้ให้ทุกคนได้อ่านกันแล้ว ไม่ว่าจะเป็นลักษณะจมูกที่ควรแก้จมูก, เทคนิคที่ใช้แก้จมูก, การเตรียมตัวก่อนแก้จมูก, วิธีดูแลตัวเองหลังแก้จมูก รวมไปถึงไขข้อสงสัยที่หลาย ๆ คนต้องการรู้


จมูกแบบไหนที่ต้องแก้จมูก 

คงสงสัยกันใช่ไหมว่าเมื่อเสริมจมูกมาแล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าจำเป็นต้องแก้จมูกใหม่ ความจริงแล้วสามารถสังเกตได้ไม่ยากเลย เพียงแค่สังเกตและพิจารณาจมูกของตัวเองจากภายนอกด้วยสายตาก็สามารถเห็นถึงความผิดปกติได้แล้ว โดยลักษณะจมูกที่บ่งชี้ว่าจำเป็นต้องแก้จมูกมีดังนี้

1. จมูกปลายบาง ทะลุ

แก้จมูกปลายบาง ซิลิโคนทะลุ

เมื่อซิลิโคนที่ใช้เสริมจมูกนั้นมีความยาวที่มากเกินไป ไม่พอดีหรือไม่เหมาะสมกับพื้นฐานเดิมของจมูก เช่น มีเนื้อปลายจมูกน้อย ก็จะทำให้จมูกที่เสริมมาเกิดการทะลุที่บริเวณปลายจมูกได้ โดยจะสามารถสังเกตได้ว่าปลายจมูกเริ่มแดงและมีความบางจนใส รวมถึงมีลักษณะปลายจมูกงุ้มมากผิดปกติ หรือในบางกรณีอาจรุนแรงมากถึงขั้นซิลิโคนทะลุออกมาจากปลายจมูกเลยก็มีเช่นกัน

2. จมูกติดเชื้อ อักเสบ

แก้จมูกติดเชื้ออักเสบ

ในกรณีที่มีการสัมผัสบ่อยมากเกินไป หรือเกิดการกระทบกระเทือนขึ้นในบริเวณที่เสริมจมูก ก็อาจส่งผลให้เกิดการอักเสบและติดเชื้อขึ้นมาได้ โดยจะสามารถสังเกตได้ว่าบริเวณที่เสริมจมูกเกิดอาการบวมแดงและเจ็บปวดผิดปกติ รวมถึงมีน้ำหนองไหลออกมาจากบริเวณแผล

3. จมูกเบี้ยว จมูกเอียง

แก้จมูกเบี้ยว

ถ้าหากว่าซิลิโคนที่ใช้ในการเสริมจมูกเหลามายาวเกินความพอดีของจมูก หรือเสริมจมูกโดยที่ยังไม่ได้แก้ไขโครงสร้างหรือฐานจมูกที่เอียง ก็จะส่งผลให้จมูกที่เสริมมานั้นดูเอียงและเบี้ยวอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งสามารถสังเกตได้ว่าแกนกลางของจมูกไม่ได้อยู่ในแนวตรงเสมอกันทั้งเส้น 

4. จมูกผิดรูปเพราะฉีดซิลิโคนเหลว ฉีดฟิลเลอร์จมูก 

แก้จมูกผิดรูปจากซิลิโคนเหลว

เมื่อฉีดซิลิโคนเหลวหรือฟิลเลอร์เข้าไปเพื่อปรับเปลี่ยนรูปทรงของจมูก มีความเสี่ยงที่จมูกอาจเกิดการผิดรูปได้ เนื่องจากซิลิโคนเหลวไม่สามารถสลายตัวได้ จึงทำให้เกิดการไหลหรือเคลื่อนที่ของซิลิโคนเหลว นอกจากนี้ยังอาจส่งผลให้เกิดการอักเสบหรือพังผืดได้ โดยสามารถสังเกตได้ว่าจมูกดูมีขนาดใหญ่ขึ้นและผิดรูป รวมถึงมีอาการบวมแดงจากการอักเสบ และผิวบริเวณจมูกมีความขรุขระไม่เรียบเนียนเช่นปกติ

5. ซิลิโคนลอย

แก้จมูกซิลิโคนลอย

ซิลิโคนลอยนั้นเกิดจากการที่เนื้อเยื่อจมูกไม่ทำปฏิกิริยาหรือยึดซิลิโคนที่เสริมจมูกเอาไว้ รวมไปถึงการที่ไม่ได้วางซิลิโคนไว้ใต้ชั้นเยื่อหุ้มกระดูก โดยสามารถสังเกตได้ว่าซิลิโคนเสริมจมูกลอยออกจนมองเห็นได้อย่างชัดเจน หรือในกรณีที่ลองขยับซิลิโคนส่วนปลายจมูก แล้วซิลิโคนส่วนสันจมูกมีการขยับตามไปด้วย

6. จมูกไม่ได้ทรงที่ต้องการ

จมูกไม่ได้ทรงที่ต้องการ ต้องแก้จมูกเท่านั้น

จุดประสงค์ของการเสริมจมูกนั้นล้วนแต่ต้องการให้จมูกของตัวเองเปลี่ยนไปในรูปทรงที่ต้องการ แต่เมื่อทำการเสริมจมูกแล้วผลลัพธ์ที่ออกมานั้นกลับไม่ได้ดั่งใจหวัง ก็ทำให้ใครหลายคนเสียความรู้สึกไม่น้อย จึงจำเป็นต้องแก้จมูกเพื่อให้ได้จมูกรูปทรงที่ต้องการ


เทคนิคที่ใช้แก้จมูก

บางคนอาจจะรู้กันดีอยู่แล้วว่าการเสริมจมูกนั้นมีเทคนิคหลากหลายแบบที่สามารถเลือกใช้ให้เหมาะกับรูปทรงจมูกของตัวเองได้ แต่รู้หรือไม่ว่าการแก้จมูกเองก็มีเทคนิคที่สามารถเลือกใช้ให้เหมาะสมกับปัญหาที่เกิดขึ้นจากการเสริมจมูกได้เช่นกัน โดยเทคนิคที่ใช้แก้จมูกมีดังนี้

1. แก้จมูกด้วยเทคนิคโอเพ่น

การแก้จมูกด้วยเทคนิคโอเพ่นนั้นจะเป็นการผ่าตัดแบบโอเพ่น โดยจะเปิดแผลตั้งแต่ตำแหน่งกลางจมูกด้านล่างไปจนถึงภายในโพรงจมูกทั้ง 2 ด้านและเปิดจมูกขึ้น เพื่อทำการเลาะซิลิโคนและพังผืดที่เกาะอยู่ออก หลังจากนั้นจึงค่อยปรับเปลี่ยนโครงสร้างหรือฐานจมูกเดิม ก่อนที่จะใส่ซิลิโคนชิ้นใหม่เข้าไปแทนที่

2. แก้จมูกด้วยเทคนิคแบบปิด

การแก้จมูกด้วยเทคนิคแบบปิดจะเป็นการผ่าตัดแบบปิด โดยจะเปิดแผลภายในโพรงจมูกด้านใดด้านหนึ่ง เพื่อทำการเลาะซิลิโคนชิ้นเดิมและพังผืดที่เกาะอยู่ออกมา แล้วจึงค่อยนำซิลิโคนชิ้นใหม่ใส่เข้าไปแทนที่


การเตรียมความพร้อมก่อนแก้จมูก 

การเตรียมความพร้อมก่อนแก้จมูก

ก่อนที่จะเข้ารับการผ่าตัดเพื่อแก้จมูกนั้น จำเป็นต้องเตรียมความพร้อมเป็นอย่างดีไม่ต่างกับการผ่าตัดเสริมจมูกเลย เนื่องจากการเตรียมตัวให้พร้อมจะช่วยให้การผ่าตัดแก้จมูกสามารถผ่านพ้นไปได้ด้วยดีและราบรื่น โดยควรเตรียมความพร้อมก่อนแก้จมูกดังนี้


หลังแก้จมูก ควรดูแลตัวเองยังไง 

เมื่อผ่าตัดแก้จมูกแล้ว จำเป็นต้องดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัดและเหมาะสมตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อให้อาการข้างเคียงต่าง ๆ ทุเลาลงและหายเร็วยิ่งขึ้น โดยการดูแลตัวเองหลังแก้จมูกที่ควรปฏิบัติมีดังนี้


คำถามที่พบบ่อย

ไขข้อสงสัยการแก้จมูก

1. แก้จมูกกี่วันล้างหน้าได้ ?

เมื่อทำการผ่าตัดแก้จมูกแล้ว ในช่วง 7-14 วันแรกจะยังจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงไม่ให้น้ำสัมผัสโดนแผล จึงยังไม่สามารถล้างหน้าได้ แต่เมื่อพ้นช่วงนี้ไปซึ่งก็คือหลังตัดไหม ก็สามารถที่จะกลับมาล้างหน้าได้ดังเดิม แต่ควรล้างหน้าอย่างเบามือและระมัดระวัง

2. หลังแก้จมูกกี่วันถึงแกะพลาสเตอร์ได้ ?

หลังจากที่ผ่าตัดแก้จมูกแล้ว แพทย์ก็จะทำการติดพลาสเตอร์หรือเฝือกอ่อนเอาไว้บริเวณจมูก ซึ่งพลาสเตอร์หรือเฝือกอ่อนนี้จะสามารถแกะออกได้หลังจากที่ผ่านการผ่าตัดแก้จมูกไปแล้ว 3 วันเท่านั้น

3. แก้จมูกราคาเริ่มต้นที่เท่าไหร่ ?

สิ่งแรกที่ควรทำความเข้าใจก่อนเลยก็คือการแก้จมูกนั้นจะมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าการเสริมจมูกในครั้งแรก เนื่องจากมีขั้นตอนที่ยุ่งยากและซับซ้อนกว่านั่นเอง โดยราคาค่าใช้จ่ายของการแก้จมูกจะเริ่มต้นที่ 15,000 บาท ไปจนถึง 70,000 บาท ซึ่งช่วงราคาแก้จมูกจะขึ้นอยู่กับคลินิกและเทคนิคที่ใช้


สรุป

ถึงแม้ว่าการเสริมจมูกจะช่วยเพิ่มความมั่นใจและเสริมความงามให้ผู้คนมามากมาย แต่ก็ยังคงมีผู้คนบางส่วนเช่นกันที่ต้องผิดหวังและเสียความมั่นใจจากการเสริมจมูกโดยแพทย์ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญหรือขาดประสบการณ์ ซึ่งทำให้จมูกที่เสริมมามีข้อผิดพลาดต่าง ๆ เช่น จมูกเบี้ยว, ซิลิโคนทะลุ หรือซิลิโคนลอย เป็นต้น

การแก้จมูกจึงมีขึ้นเพื่อแก้ไขความผิดพลาดต่าง ๆ จากการเสริมจมูก ด้วยเทคนิคโอเพ่นและเทคนิคแบบปิด ซึ่งเทคนิคการแก้จมูกทั้งหมด 2 เทคนิคนี้จะสามารถใช้แก้จมูกจากปัญหาที่ต่างกันให้ดูสมดุลสวยงามมากยิ่งขึ้้น และกลับมามีความมั่นใจในตัวเองได้อีกครั้ง 


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที