วัตพล

ผู้เขียน : วัตพล

อัพเดท: 18 มี.ค. 2024 02.03 น. บทความนี้มีผู้ชม: 671775 ครั้ง

ผิวแห้งคัน ปัญหาคันยุบยิบที่รักษาให้หายได้


การตรวจสายตาเป็นสิ่งที่จำเป็นหรือไม่ ทำไมถึงต้องตรวจ

ดวงตาเป็นอวัยวะที่สำคัญเป็นอย่างมากในร่างกาย โดยในชีวิตประจำวันมีความจำเป็นต้องใช้ดวงตาในการมองสิ่งต่าง ๆ รอบตัว ดังนั้นเพื่อให้ดวงตามีการมองเห็นอย่างปกติอยู่เสมอ ควรหมั่นตรวจสายตาว่ามีความผิดปกติหรือมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ ในกรณีที่พบความผิดปกติก็จะสามารถเข้ารับการรักษาตามอาการได้อย่างรวดเร็ว โดยในบทความนี้จะอธิบายข้อมูลที่ควรรู้เกี่ยวกับการตรวจสายตา ว่ามีความจำเป็นมากน้อยเพียงใด ทำไมถึงต้องเข้ารับการตรวจ รวมถึงสถานที่ที่ควรเข้ารับการตรวจ ฯลฯ ให้กับผู้อ่าน

ตรวจสายตา

การตรวจสายตา 

ตรวจสายตา คือ การประเมินสภาพสายตาขั้นพื้นฐานประเภทหนึ่ง ว่าดวงตามีการมองเห็นรายละเอียดหรือสิ่งต่าง ๆ ชัดเจนหรือไม่ รวมถึงประเมินสุขภาพและการทำงานของสายตาว่ามีแนวโน้มที่จะเกิดความผิดปกติหรือเกิดปัญหาทางด้านสายตา เช่น ตรวจสายตาสั้น ตรวจสายตายาว ตรวจสายตาเอียง นอกจากนี้ยังสามารถตรวจเพื่อวินิจฉัยโอกาสความเสี่ยงที่จะเกิดโรคต่าง ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับดวงตาได้อีกด้วย

การตรวจสายตามีจุดประสงค์เพื่ออะไร

ตรวจสายตา มีจุดประสงค์ต่าง ๆ มากมาย อาทิเช่น

จะเห็นได้ว่าการตรวจสายตานั้นมีความเป็นจำเป็นอย่างมากต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ดังนั้นจึงควรเข้ารับการตรวจเพื่อประเมินสภาพสายตา ในกรณีที่สายตามีปัญหา จะได้เข้ารับการรักษาอย่างทันท่วงที

การตรวจสายตา มีการตรวจอะไรบ้าง

ตรวจสายตามีอะไรบ้าง

ซักประถามประวัติโดยจักษุแพทย์

โดยทั่วไปแล้ว ในการตรวจสายตาจะเริ่มจากการซักถามประวัติของผู้เข้ารับการตรวจโดยจักษุแพทย์เป็นอย่างแรก โดยจะมีการซักถามเกี่ยวกับอาการและสุขภาพของดวงตาโดยทั่วไป ประวัติการใช้ยา รวมถึงประวัติโรคประจำตัวของผู้เข้ารับการตรวจและครอบครัวของผู้รับการเข้าตรวจ จากนั้นจึงเข้ารับการตรวจสภาพสายตาประเภทอื่น

ตรวจระดับสายตา ตรวจความสามารถในการมองเห็น

การตรวจระดับสายตา เป็นการตรวจประเมินว่าสายตามีระดับการมองเห็นอย่างไร ผู้เข้ารับการตรวจจะต้องเข้ารับการทดสอบโดยยืนปิดตา 1 ข้างแล้วอยู่ห่างจากแผ่นวัดในระยะ 6 เมตรเพื่ออ่านป้าย ตัวอักษร ตัวเลข ที่มีขนาดต่างกัน และสลับข้าง 

ตรวจวัดค่าสายตา

การตรวจวัดค่าสายตา เป็นการตรวจวัดสายตาว่ามีปัญหาความผิดปกติหรือไม่ เช่น ปัญหาสายตาสั้น สายตายาว สายตาเอียง รวมถึงว่ามีค่าสายตาเท่าไหร่ โดยผู้เข้ารับการตรวจจะต้องอ่านป้าย ตัวอักษร ตัวเลข ผ่านเครื่องวัดสายตา Phoropter ซึ่งจะได้ค่าสายตาที่เหมาะสมกับการมองเห็นแล้วนำผลตรวจสายตาไปทำการตัดแว่นสายตาหรือซื้อคอนแทคเลนส์

ตรวจลานสายตา

การตรวจลานสายตา เป็นการตรวจประเมินลานสายตาเบื้องต้นว่ามีความผิดปกติหรือไม่ ซึ่งสามารถตรวจว่าดวงตามีการสูญเสียการมองเห็นในตำแหน่งไหนหรือเปล่า รวมถึงโรคที่มีความเกี่ยวข้องกับสายตา เช่น ต้นหิน จอประสาทตาเสื่อม เป็นต้น นอกจากนี้ยังสามารถประเมินได้ว่าลานสายตามีความแคบหรือกว้างอย่างไร โดยจะให้ผู้เข้ารับการตรวจมองผ่านกล้องของเครื่องตรวจวัดลานสายตา แล้วสังเกตแสงไฟและกดปุ่มทุกครั้งที่มองเห็นแสง

วัดความโค้งของกระจกตา

การวัดความโค้งของกระจกตา เป็นการตรวจว่ากระจกตามีความโค้งผิดปกติหรือไม่ ซึ่งหากพบความผิดปกติ จะทำให้มีปัญหาสายตาสั้น สายตายาว สายตาเอียง โดยจะมีการนำเครื่องวัดกระจกตาส่องแสงไปที่บริเวณกระจกตาเพื่อวัดความโค้งของกระจกตาจากแสงสะท้อน

ตรวจความดันลูกตา

การตรวจความดันลูกตา เป็นการวัดความดันที่อยู่ภายในลูกตาว่าอยู่ในระดับที่ปกติหรือไม่ ซึ่งในกรณีที่ความดันลูกตาอยู่ในระดับที่ผิดปกติ เช่น ความดันลูกตาสูงกว่าปกติจะมีความเสี่ยงที่จะเป็นต้อหิน หรือกรณีที่ความดันลูกตาต่ำกว่าปกติจะมีความเสี่ยงที่จอประสาทตาหลุด เป็นต้น

ตรวจการมองเห็นสี

การตรวจการมองเห็นสี เป็นการวัดประเมินความสามารถการมองสี ว่ามีการมองเห็นสีปกติ รวมถึงสามารถแยกสีต่าง ๆ ได้หรือไม่ ซึ่งการประเมินนี้จะทำให้ทราบว่าดวงตามีภาวะตาบอดสีหรือไม่ โดยแต่ละสถานที่เข้ารับการรักษาก็จะมีวิธีการทดสอบที่แตกต่างกัน เช่น ให้ผู้เข้ารับการตรวจมองแผ่นป้ายที่มีจุดวงกลมที่มีหลายสี และจะถามว่าวงกลมที่ชี้มีสีอะไร โดยจะมีกลุ่มอาชีพบางกลุ่มรวมถึงการขับรถจำเป็นต้องการตรวจการมองเห็นสี 

ตรวจการทำงานของม่านตา

การตรวจการทำงานของม่านตา เป็นการประเมินว่าม่านตามีการตอบสนองต่อแสงปกติหรือไม่ มีวิธีการทดสอบโดยแพทย์จะนำไฟมาส่องที่ตาของผู้เข้ารับการตรวจ ถ้าม่านตามีการหดลงขณะที่แสงกระทบแสดงว่ามีการทำงานปกติ แต่ถ้าม่านตาขยายขึ้น หรือไม่มีการตอบสนองหมายถึงม่านตาอาจมีความผิดปกติ

ตรวจลักษณะของดวงตา

การตรวจลักษณะของดวงตา เป็นการตรวจดวงตาทั้งส่วนหน้าและส่วนในว่ามีความผิดปกติหรือไม่ โดยการตรวจส่วนหน้าแพทย์จะนำไฟส่องบริเวณดวงตาเพื่อหาความผิดปกติ แต่กรณีที่อยู่ข้างใน แพทย์จะใช้ Direct ophthalmoscope ถือส่องผ่านรูม่านตาเข้าไปเพื่อตรวจ

ตรวจประสาทตา

การตรวจประสาทตา เป็นการประเมินประสาทตาส่วนต่าง ๆ เช่น เส้นประสาทตา จอประสาทตา ขั้วประสาทตา จุดรับภาพ เป็นต้น ซึ่งหากส่วนเหล่านั้นมีความผิดปกติก็จะมีโอกาสทำให้เป็นโรคต้อหิน เส้นเลือดประสาทตาอุดตัน เป็นต้น โดยแพทย์จะนำยาขยายม่านตาหยอดเพื่อประเมินว่าประสาทตา รวมถึงเส้นประสาทตาปกติดีไหม 

ตรวจการเคลื่อนไหวของดวงตา

การตรวจการเคลื่อนไหวของดวงตา เป็นการประเมินว่ากล้ามเนื้อตามีการเคลื่อนไหวปกติหรือไม่ ถ้ามีการเคลื่อนไหวผิดปกติจะบ่งบอกถึงโรคตาเข ตาส่อน

ขั้นตอนการตรวจสายตา

  1. วัดระยะการมองเห็น ตรวจประเมินความสามารถในการมองเห็นเบื้องตัน เพื่อเป็นข้อมูลในการเปรียบเทียบในการมองเห็นในแต่ละครั้งของการตรวจตา
  2. วัดความดันลูกตา วัดความดันของเหลวภายในตา เพื่อประเมินค่าความที่เกิดจากความสมดุลระหว่างการสร้างของเหลวภายในลูกตา และการระบายของเหลวในลูกตา เพื่อประเมินความเสี่ยงต่อการเกิดโรคของ โรคที่มีการอักเสบภายในลูกตา โรคต้อหิน โดยจะใช้เครื่องตรวจวัดความดันลูกตาอัตโนมัติ ใช้ระบบลมเป่า หลังจากนั้นจะได้รับการวัดความดันด้วยเครื่อง Applanation tonometer โดยจักษุแพทย์ซึ่งจะทำการหยอดยาชาก่อนการวัดความดันลูกตา
  3. ขยายรูม่านตา เนื่องจากจะมีการตรวจตาด้วยกล้องจุลทรรศน์จะมีแสงสว่างเข้าสู่ตาของผู้รับการตรวจ จึงจำเป็นต้องขยายรูม่านตา เพื่อให้ตาอยู่ในสภาวะที่รูม่านตาขยายกว้างเมื่อเจอแสงจ้า การที่รูม่านตาขยายจะทำให้จักษุแพทย์สามารถดูรายละเอียดของจอประสาทตาได้อย่างชัดเจน
  4. ตรวจตาด้วยกล้องจุลทรรศน์ การตรวจตาด้วยกล้องจุลทรรศน์จะช่วยให้เห็นโครงสร้างทั้งด้านในและนอกของดวงตาได้อย่างชัดเจน

ค่าสายตาที่ควรรู้

สิ่งสำคัญที่ควรรู้ในการตรวจสายตาก็คือ ค่าสายตา ซึ่งค่าสายตา คือ ค่าความสามารถในการมองเห็นที่จะเป็นตัวบอกถึงประสิทธิภาพในการมองเห็นของแต่ละคน ว่ามีความสามารถในการมองเห็นเป็นอย่างไร เห็นชัดเจนหรือไม่ หรือมีอาการสายตาสั้น สายตายาว หรือสายเอียงมากน้อยเพียงใด เมื่อตรวจสายตาแล้วจะได้รับใบค่าสายตาเพื่อนำข้อมูลไปแก้ไขปัญหาสายตานั้น ๆ ซึ่งปัญหาค่าสายตาจะแตกต่างกันไป ได้แก่ 

ค่าสายตาสั้น คือ การมองเห็นวัตถุที่อยู่ใกล้ได้อย่างชัดเจน แต่เมื่อวัตถุนั้นอยู่ไกลออกไปมักจะเริ่มเห็นไม่ชัดเจนเท่าเดิม ซึ่งสามารถพบได้บ่อยในกลุ่มเด็กวัยรุ่น หรือคนที่มีอายุต่ำกว่า 40 ปี 

ค่าสายตายาว คือ การมองเห็นวัตถุที่อยู่ไกลได้อย่างชัดเจน แต่เมื่อวัตถุนั้นอยู่ในระยะใกล้มักจะเห็นไม่ชัดเจนแทน ซึ่งสามารถพบได้บ่อยเมื่อมีอายุเพิ่มมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามผู้ที่มีปัญหาสายตายาวก็อาจจะเกิดขึ้นตั้งแต่เกิด หรือเป็นปัญหาสายตายาวทั่วไป

ค่าสายตาเอียง คือ การมองเห็นวัตถุระยะใกล้และระยะไกลไม่ชัดเจน มอเห็นภาพซ้อนหรือเบี้ยวไปจากปกติ ซึ่งมักจะเกิดร่วมกับปัญหาสายตาสั้นและปัญหาสายตายาว

ซึ่งในบางคนอาจจะมีค่าสายตาแต่ละข้างที่แตกต่างกัน จึงจะเห็นว่าในใบค่าสายตาที่ได้มาจะระบุค่าสายตาแยกระหว่างสายตาข้างขวา-ซ้ายอย่างชัดเจน 

ตรวจสายตา ราคาเท่าไหร่

ค่าตรวจสายตา ไม่ว่าจะเป็นการตรวจวัดค่าสายตาเพื่อประกอบการทำแว่นตา หรือตรวจสุขภาพตา โดยจะมีตั้งแต่ให้รับการตรวจค่าสายตาฟรีไปจนถึงการตรวจตาที่ละเอียดขึ้นทำให้ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 500-5,000 บาท ขึ้นอยู่กับรายการตรวจที่ต้องการ

การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการตรวจสายตา

ตรวจสายตาที่ไหนดี

เมื่อทราบเกี่ยวกับความสำคัญของการตรวจสายตาแล้ว คำถามต่อมาที่ผู้อ่านจะนึกถึงก็คือ ตรวจสายตาโรงพยาบาลไหนดี ตรวจสายตาที่ไหนดี อันที่จริงแล้วสามารถเข้ารับการตรวจสายตาได้หลายที่ไม่ว่าจะเป็นร้านตัดแว่น คลินิคจักษุ รวมถึงสถานพยาบาล โรงพยาบาลต่าง ๆ แต่ใช่ว่าการตรวจสายตาจะเป็นไปได้อย่างแม่นยำทุกที โดยการตรวจสายตาควรคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ เช่น

ใครบ้างที่ควรเข้ารับการตรวจสายตา

การตรวจสายตาจะทำให้ทราบถึงสุขภาพสายตาในปัจจุบันว่าเป็นอย่างไร โดยผู้ที่ควรเข้ารับการตรวจสายตามีดังนี้

การตรวจสายตาในเด็ก

การตรวจสายตาในเด็กเป็นสิ่งที่เหล่าผู้ปกครองไม่ควรมองข้าม เนื่องจากเด็กน้อยบางคนยังไม่สามารถแยกแยะความผิดปกติที่เกิดขึ้นในดวงตา จึงไม่สามารถถ่ายทอดความผิดปกติที่เกิดขึ้นให้ผู้ปกครองทราบได้ ดังนั้นจึงควรพาลูกไปตรวจสายตาเพื่อกรณีที่สายตามีปัญหาจะได้เข้ารับการรักษาตั้งแต่ช่วงแรก โดยเด็กที่ควรเข้ารับการตรวจสายตาจะมีเกณฑ์หรือดังนี้

ตรวจสายตาในเด็ก

การตรวจสายตาในผู้สูงอายุ

เมื่อร่างกายมีอายุเพิ่มมากขึ้น อวัยวะหลายส่วนในร่างกายรวมถึงดวงตาก็จะเกิดความเสื่อมสภาพลง ดังนั้นผู้สูงอายุจึงควรเข้ารับการตรวจตาอย่างละเอียด ซึ่งทำให้ผู้สูงอายุทราบว่าตนเองมีปัญหาสายตาหรือโรคที่มีความเกี่ยวข้องกับดวงตาอื่น ๆ ไหม โดยโรคเกี่ยวกับดวงตาที่มักพบในผู้สูงอายุมีดังนี้

โรคเกี่ยวกับดวงตาที่มักพบในผู้สูงอายุ

โรคจอประสาทตาเสื่อมตามวัย

โรคจอประสาทตาเสื่อมตามวัย เป็นโรคที่พบมากในผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป โดยจะมีการมองเห็นภาพอย่างบิดเบี้ยว มัวลง มองเห็นเส้นตรงเป็นเส้นคดหรือเห็นจุดดำกลางภาพ โรคนี้ยังไม่มีการรักษาให้หายขาด ทำได้เพียงชะลออาการของโรคเท่านั้น แต่ถ้าหากไม่รับการรักษาก็อาจจะทำให้สูญเสียการมองเห็นบริเวณกลางภาพ

โรคต้อกระจก

โรคต้อกระจก เป็นโรคที่เกิดขึ้นตามอายุที่เพิ่มขึ้น โดยเลนส์ตาเกิดอาการขุ่นมัว มองเห็นไม่ชัดเจน เห็นภาพซ้อน ซึ่งการปล่อยโรคไว้โดยที่ไม่ได้รับการรักษาจะไม่มีอาการเจ็บปวดใด ๆ แต่จะทำให้การมองเห็นแย่ลง

โรคต้อหิน

โรคต้อหิน เป็นโรคที่เกิดจากการเสื่อมของร่างกายที่มีความอันตรายเป็นอย่างมาก โดยเมื่อความดันในลูกตาสูงจะไปทำลายจอประสาทตารวมถึงเส้นประสาทตาให้เสื่อมลง หากไม่เข้ารับการรักษาก็จะทำให้สูญเสียการมองเห็นอย่างถาวร

โรคต้อเนื้อ โรคต้อลม

โรคต้อลม เป็นโรคที่เกิดจากการที่เยื่อบุตาขาวเสื่อม ทำให้เกิดตุ่มขนาดเล็กสีขาวหรือเหลืองขึ้นบริเวณตาขาวทำให้เกิดอาการเคืองตา ตาแห้ง หากปล่อยทิ้งไว้ก็จะทำให้เกิดอาการลุกลามไปยังกระจกตาดำจนกลายเป็นต้อเนื้อได้ โดยโรคต้อเนื้อถ้าหากปล่อยไว้นานจะทำให้การมองเห็นแย่ลง

โรคตาแห้ง

ในความเป็นจริงแล้ว โรคตาแห้งเป็นโรคที่พบได้ในหลายช่วงวัย ไม่ว่าจะเป็นวัยทำงานหรือวัยสูงอายุ โดยจะมีอาการเคืองตา แสบตา น้ำตาไหลมาก ทำให้มีการมองเห็นชัดเจนน้อยลง หากไม่รับการรักษาจะทำให้อาการเรื้อรังรวมถึงอาจเกิดอาการติดเชื้อบริเวณดวงตาได้

โรคเบาหวานขึ้นตา

โรคเบาหวานขึ้นตา เป็นโรคที่มักพบในผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน มีสาเหตุมาจากการที่น้ำตาลในเลือดสูง ทำให้หลอดเลือดรวมถึงระบบประสาทเสื่อมลง ทำให้ชั้นจอประสาทตาเสื่อม หากปล่อยทิ้งไว้โดยที่ไม่เข้ารับการรักษาจะทำให้ตามัวจนถึงขั้นสูญเสียการมองเห็น

ตรวจสายตาในผู้สูงอายุ

ควรตรวจสายตาบ่อยแค่ไหน

ตรวจสายตา ควรตรวจตอนไหน ควรตรวจสายตาบ่อยแค่ไหน เป็นคำถามที่หลาย ๆ คนมักสงสัย สำหรับผู้ที่รู้สึกว่าสายตามีการเปลี่ยนแปลงอย่างผิดปกติ หรือมีแนวโน้มความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาทางด้านสายตา ควรเข้ารับการตรวจทันที แต่สำหรับผู้ที่ไม่มีความเสี่ยงหรือรู้สึกว่าสายตากำลังมีปัญหา สามารถเข้ารับการตรวจโดยแบ่งเป็นกลุ่มช่วงอายุ ดังนี้

ควรเข้ารับการตรวจสายตาอย่างสม่ำเสมอทุกปี เพื่อตรวจสอบว่ามีปัญหาสายตาสั้น สายตายาว สายตาเอียง รวมถึงภาวะตาเข ตาเหล่ หรือไม่ นอกจากนี้ยังควรตรวจเพื่อป้องกันภาวะตาขี้เกียจ ในกรณีที่เป็นตาขี้เกียจ การรักษาในช่วงยังเล็กจะได้ผลดีมาก

ในช่วงนี้ควรเข้ารับการตรวจสายตาเป็นประจำ เพื่อเช็คว่าดวงตามีปัญหาสายตาสั้น สายตายาว สายตาเอียงหรือไม่

เป็นช่วงที่กำลังเข้าสู่วัยทำงาน จึงควรเข้ารับการตรวจค่าสายตาเป็นประจำ เมื่อพบปัญหาค่าสายตาในช่วงนี้ จะทำให้การรักษาเป็นไปได้ด้วยดี เพราะอายุช่วงนี้จะมีวิธีรักษาค่าสายตาหลากหลายมากขึ้น เช่น การทำเลสิค

ในช่วงอายุนี้จะเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงทางสายตา อีกทั้งยังมีการทำงาน เช่น จ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นระนะเวลานาน จึงหมั่นเข้ารับการตรวจสายตาเมื่อรู้สึกว่ามีปัญหา

เป็นช่วงอายุที่อวัยวะส่วนต่าง ๆ เริ่มเกิดความเสื่อม จึงมีโอกาสทำให้เป็นโรคทางตาเพิ่มขึ้น โดยควรเข้ารับการตรวจสายตา 1-2 ปีต่อครั้ง

เมื่ออายุ 65 ปีขึ้นไป ควรเข้ารับการตรวจสายตาอย่างน้อยปีละ 1 ครั้งเพื่อตรวจหาความผิดปกติของดวงตาและเข้ารับการรักษาอย่างรวดเร็ว เนื่องจากอวัยวะส่วนต่าง ๆ รวมถึงดวงตาจะเกิดการเสื่อมสภาพเร็วมากขึ้น

ตรวจสายตาบ่อยแค่ไหน

FAQ คำถามที่พบบ่อย

ไม่ตรวจสายตาได้ไหม

แนะนำให้มีการตรวจสายตาอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง เนื่องจากดวงตาของเรามีการใช้งานอยู่ทุกวัน เจอแสงต่าง ๆ เข้าทำลายดวงตาอยู่เสมอแน่นอนว่าต้องส่งผลต่อการมองเห็นไม่มากก็น้อย เพื่อที่จะได้ดูแลรักษาสุขภาพดวงตาให้มีความสามารถในการมองเห็นได้ชัดเจนอยู่ตลอด และถ้าหากมีปัญหาเกี่ยวกับดวงตาจะได้ทำการรักษาจากจักษุแพทย์ได้อย่างทันท่วงที

ข้อสรุป

ในปัจจุบันที่เทคโนโลยีเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องในชีวิตมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการทำงานหรือการเรียนโดยใช้คอมพิวเตอร์ หรือว่าจะเป็นการใช้แท็บเล็ตหรือสมาร์ทโฟน ก็ล้วนส่งผลทำให้สายตามีปัญหาง่ายขึ้นเช่นกัน ดังนั้น ตรวจสายตา จึงเป็นสิ่งที่ควรทำเป็นประจำทุกปี โดยตรวจว่าสภาพสายตาในปัจจุบันเป็นอย่างไร มีปัญหาหรือความเสี่ยงต่อโรคที่เกี่ยวข้องกับสายตาหรือไม่


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที