มาทำความรู้จัก BHA ที่เป็นตัวช่วยในการรักษาสำหรับทุกสภาพผิว แนะนำผ่านคุณสมบัติทั้งเจ็ดข้อ และวิธีใช้ BHA ที่ถูกต้อง สำหรับผู้ที่เป็นมือใหม่ทุกคน
หากคุณเป็นคนที่กำลังสนใจในการรักษาปัญหาหน้ามัน หน้าเป็นสิว ผิวหน้าไม่เรียบเนียน และกำลังหาตัวช่วยในปัญหาดังกล่าวอยู่ คุณมาถูกที่แล้วเพราะว่าในบทความนี้เราจะมาทำความรู้กับเจ้า BHA กัน ว่าดูกันว่าเจ้า BHA มีประโยชน์อย่างไร เหมาะกับผิวแบบไหนบ้าง และรวมถึง วิธีใช้กรด BHA ที่ถูกต้องกันครับ
กรดเบต้าไฮดรอกซี (Beta-hydroxy acid) หรือ BHA คือ สารขัดผิวประเภทหนึ่งที่ทำงานโดยการเจาะลึกเข้าไปในรูขุมขนเพื่อขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและเปิดรูขุมขน มีประสิทธิภาพสำหรับผู้ที่มีผิวมันหรือเป็นสิวง่าย เนื่องจากช่วยลดการปรากฏของสิวและป้องกันการเกิดสิวใหม่ BHA เป็นชื่อทางวิทยาศาสตร์ของกรดซาลิไซลิก แอซิด (Salicylic Acid) ซึ่งเป็นส่วนประกอบทั่วไปในการรักษาสิวและอยู่ในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอยู่แล้ว
BHA สามารถหาได้จากหลากหลายแหล่ง รวมถึงส่วนผสมจากธรรมชาติ เช่น เปลือกต้นวิลโลว์และใบระกำ นอกจากนี้ยังสามารถสังเคราะห์ได้ในห้องแล็บ ซึ่งจะผ่านกระบวนการต่างๆ เพื่อทำให้บริสุทธิ์และกลั่นออกมาเพื่อใช้ในเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์บำรุงผิว BHA เป็นส่วนผสมที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพซึ่งได้รับการทดสอบอย่างกว้างขวางเพื่อให้ผู้ใช้ได้รับความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการรักษาปัญหาต่างๆ
BHA มีคุณสมบัติหลายอย่างที่เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์บำรุงผิว อย่างแรกคือ มีคุณสมบัติในการขัดผิวที่ช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและเปิดรูขุมขน ทำให้ได้ผลดีเป็นพิเศษสำหรับผู้ที่มีผิวมันหรือเป็นสิวง่าย เนื่องจากช่วยลบเลือนรอยสิวและป้องกันการเกิดสิวในอนาคต
นอกจากคุณสมบัติในการผลัดเซลล์ผิวแล้ว BHA ยังมีคุณสมบัติต้านการอักเสบและต่อต้านแบคทีเรียที่ช่วยปลอบประโลมผิว ลดรอยแดงและลดการอักเสบ นอกจากนี้ยังสามารถช่วยปรับปรุงความเรียบเนียนของผิวและโทนสีของผิว ทำให้เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องการปรับปรุงลักษณะผิวโดยรวม
และนี้เป็น 7 ประโยชน์ต่างๆ ของกรด BHA
โดยรวมแล้ว BHA เป็นส่วนผสมที่หลากหลายและมีประสิทธิภาพที่สามารถให้ประโยชน์กับผิวและลดความกังวลได้หลากหลาย ไม่ว่าคุณกำลังมองหาวิธีลบเลือนจุดด่างดำ ปรับปรุงพื้นผิวและโทนสีผิวของคุณ หรือใช้เพื่อรักษาสุขภาพผิวให้ดูเปล่งปลั่ง BHA คือส่วนผสมที่ควรมองหาในผลิตภัณฑ์บำรุงผิว
BHA เหมาะอย่างมากสำหรับผู้ที่มีผิวผสมหรือผิวมัน รวมถึงผู้ที่มีรูขุมขนกว้างหรืออุดตัน สามารถช่วยลดรอยสิวและป้องกันการเกิดสิวในอนาคต จึงเป็นที่นิยมสำหรับผู้ที่มีผิวเป็นสิวง่าย นอกจากจะเหมาะกับผู้ที่มีผิวผสมหรือผิวมันแล้ว
BHA ยังสามารถใช้ได้ผลกับผู้ที่มีผิวธรรมดาหรือผิวแห้งที่ต้องการปรับปรุงพื้นผิวและโทนสีผิว แต่อย่างไรก็ดี มีสิ่งสำคัญที่ควรทราบ คือ ผู้ที่มีผิวแห้งหรือแพ้ง่ายอาจรู้สึกแห้งหรือระคายเคืองในเบื้องต้นเมื่อใช้ BHA ดังนั้นสิ่งสำคัญคือต้องเริ่มด้วยความเข้มข้นต่ำๆ ก่อน แล้วค่อยๆ เพิ่มระดับเพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียง
เมื่อใช้ BHA สิ่งสำคัญคือต้องเริ่มด้วยความเข้มข้นที่ต่ำลงและค่อยๆ เพิ่มระดับเพื่อหลีกเลี่ยงการระคายเคืองหรือแพ้ง่ายที่อาจเกิดขึ้น สำหรับผิวธรรมดาเริ่มต้นความเข้มข้นที่ BHA 2% ถึง 1% ก่อน และสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายควรใช้ความเข้มข้นต่ำลงมา คือ ประมาณ 0.5%
เมื่อใช้ BHA สิ่งสำคัญคือต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์สำคัญสองสามข้อเพื่อให้แน่ใจว่าคุณได้รับผลลัพธ์ที่ดีที่สุดโดยไม่มีผลข้างเคียงที่เป็นลบ สิ่งสำคัญคือต้องหลีกเลี่ยงแสงแดดในขณะที่ใช้ BHA เนื่องจากอาจทำให้ผิวของคุณไวต่อแสงแดดมากขึ้น
ถัดมาคือต้องหลีกเลี่ยงการผสม BHA กับสารผลัดเซลล์อื่นๆ เช่น AHA เนื่องจากอาจทำให้เกิดการขัดผิวมากเกินไปและระคายเคืองได้ สุดท้ายคือต้องหลีกเลี่ยงการใช้ BHA ห้ามใช้กับบริเวณที่บอบบางของผิว เช่น รอบดวงตา หรือผิวที่แตกหรือระคายเคือง เมื่อทำตามกฎทั้งสามข้อนี้ ผมมั่นใจว่า ท่านผู้อ่านจะได้รับประโยชน์สูงสุดจากการใช้ BHA โดยไม่มีผลข้างเคียงอย่างแน่นอนครับ
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที