วัตพล

ผู้เขียน : วัตพล

อัพเดท: 18 มี.ค. 2024 02.03 น. บทความนี้มีผู้ชม: 672323 ครั้ง

ผิวแห้งคัน ปัญหาคันยุบยิบที่รักษาให้หายได้


เด็กหลอดแก้ว IVF คืออะไร มีวิธีทำอย่างไร แล้วมีอัตราความสำเร็จสูงแค่ไหน

หลักการทำ IVF

อยากมีลูกเมื่อพร้อม เพราะอยากให้ลูกที่จะเกิดมาและครอบครัวในอนาคตมีชีวิตที่สุขสบาย แต่เมื่อพร้อมที่จะมีลูกและลองทำลูกด้วยวิธีธรรมชาติหลายต่อหลายครั้งก็ไม่ตั้งครรภ์สักที นั่นหมายความว่าคุณกำลังประสบกับภาวะมีบุตรยาก โดยที่มีสาเหตุเกิดจากอายุที่มากขึ้น หรืออาจจะเกิดโดยที่ไม่ทราบสาเหตุ 

ในปัจจุบันมีวิธีที่จะช่วยแก้ปัญหาภาวะการมีบุตรยากหลากหลายวิธีด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการทำ IVF หรือการทำหัตถการอื่นซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์มากกว่าการมีลูกด้วยวิธีธรรมชาติ ในที่นี้ทางบทความจะกล่าวถึงวิธีการทำลูกด้วยวิธีทำเด็กหลอดแก้วว่าคืออะไร ข่วยเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ได้มากน้อยแค่ไหน รวมถึงข้อมูลที่ควรทราบเกี่ยวกับการทำเด็กหลอดแก้ว 


เด็กหลอดแก้ว คือ

เด็กหลอดแก้ว หรือทารกหลอดแก้ว หมายถึง การนำเทคโนโลยีมาช่วยรักษาผู้ป่วยที่มีภาวะการมีบุตรยาก โดยนำเซลล์ไข่มาผสมกับเชื้ออสุจิเพื่อให้ปฏิสนธิกันข้างนอกร่างกายในหลอดแก้วจนเกิดเป็นตัวอ่อนและฉีดกลับเข้าไปในโพรงมดลูกเพื่อให้เกิดการตั้งครรภ์ต่อไป ในปัจจุบันนี้มีการรักษาเด็กหลอดแก้ว 2 วิธี คือ IVF และ ICSI โดยจะกล่าวถึงความแตกต่างของการรักษาทั้งสองวิธีนี้ในหัวข้อถัด ๆ ไป


เด็กหลอดแก้ว คือการผสมแบบใด

เด็กหลอดแก้ว หรือที่หลาย ๆ คนเรียกกันว่า การผสมเทียม เป็นการปฏิสนธิภายนอกร่างกายเพื่อช่วยเพิ่มโอกาสการมีลูกโดยการนำเซลล์ไข่กับเชื้ออสุจิไปใส่ไว้ในจานเพาะเชื้อหรือหลอดแก้วทดลองเพื่อให้เกิดการปฏิสนธิจนเกิดเป็นตัวอ่อนขึ้นมา


IVF ต่างจาก ICSI อย่างไร 

ไม่ว่าจะเป็นการทำ IVF หรือการทำ ICSI ก็เป็นวิธีผลิตลูกแบบเด็กหลอดแก้วเหมือนกัน แต่การทำivf จะมีส่วนที่แตกต่างจากการทำ ICSI ดังนี้

  • ขั้นตอนการทำivf จะใช้เชื้ออสุจิที่คัดมาว่ามีสภาพแข็งแรงจำนวนหนึ่งใส่ในจานเพาะเชื้อเพื่อให้เชื้ออสุจิเข้าไปเจาะเซลล์ไข่เอง
  • ขั้นตอนการทำ ICSI จะมีการคัดเลือกอสุจิที่สภาพสมบูรณ์ที่สุดมา 1 ตัวมาฉีดเข้าไปในเซลล์ไข่ 1 ใบ เพื่อให้อสุจิและเซลล์ไข่เกิดการปฏิสนธิโดยตรง

ทำไมถึงต้องทำเด็กหลอดแก้ว

สำหรับผู้ที่อยากมีลูก แต่ไม่ว่าจะลองทำลูกด้วยวิธีตามธรรมชาติเป็นปี หรือการรักษา IUI ที่นำเชื้ออสุจิฉีดเข้าไปในโพรงมดลูกโดยตรงมากกว่า 3 ครั้งแต่ไม่ประสบความสำเร็จ นั่นหมายความว่าการผลิตลูกด้วยวิธีการปล่อยให้เกิดการปฏิสนธิภายในร่างกายอาจจะไม่เหมาะกับร่างกายของตนเอง

เพราะฉะนั้นการทำเด็กหลอดแก้วหรือการทำให้เซลล์ไข่และเชื้ออสุจิเกิดการปฏิสนธิภายนอกร่างกายอาจจะเป็นวิธีที่ตอบสนองต่อการรักษาภาวะการมีบุตรยากได้เหมาะสมกว่าเนื่องจากช่วยเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์สำหรับผู้ป่วยภาวะมีบุตรยาก


ทำเด็กหลอดแก้ว ราคาเท่าไร

การทำเด็กหลอดแก้ว ivf มีวิธีขั้นตอนการทำที่ละเอียดหลายขั้นตอน รวมถึงใช้อุปกรณ์ที่มีความทันสมัย จึงทำให้ค่าใช้จ่ายในแต่ละครั้งค่อนข้างสูง โดยเฉลี่ยอยู่ที่ครั้งละ 100,000 บาทเป็นต้นไป แต่เพราะการทำเด็กหลอดแก้วจะช่วยเพิ่มโอกาสการตั้งครรค์มากกว่าการมีลูกแบบธรรมชาติ และการทำ IUI จึงทำให้หลายคนเข้ารับการรักษาภาวะมีบุตรยากด้วยวิธีนี้


โอกาสสำเร็จมากแค่ไหนสำหรับ IVF (Success Rate)

โอกาสมีลูกด้วย IVF

จากที่กล่าวข้างต้น การทำเด็กหลอดแก้วจะช่วยเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์มากกว่าการมีลูกด้วยวิธีธรรมชาติประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์หรือน้อยกว่านั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น อายุ สภาพร่างกาย ซึ่งนั่นจะเป็นสาเหตุทำให้โอกาสตั้งครรภ์สำเร็จลดลง

สำหรับผู้ที่รักษาด้วยการทำivf ครั้งแรกไม่สำเร็จ ในการทำครั้งต่อ ๆ ไปโอกาสที่จะตั้งครรภ์ก็จะเพิ่มสูงขึ้น แต่ถ้าหากรักษาครั้งที่ 4-6 แต่กลับไม่ตั้งครรภ์ ควรพิจารณาทางเลือกรักษาอื่น ๆ เช่น ICSI เพื่อรักษาได้อย่างตรงจุดมากขึ้น


การเตรียมตัวสำหรับการทำเด็กหลอดแก้ว

เพื่อเพิ่มโอกาสการประสบความสำเร็จในการทำเด็กหลอดแก้ว ผู้เข้ารับการรักษาจะต้องปฏิบัติตน ดังนี้

การเตรียมตัวด้านสุขภาพ

ฝ่ายหญิง

  • นอนหลับพักผ่อนที่เพียงพอ 
  • ไม่สูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 3 เดือน 
  • ทำจิตใจให้สดใส ร่าเริง ไม่เครียด
  • ไม่ออกกำลังหนักมากจนเกินไป

ฝ่ายชาย

  • นอนหลับพักผ่อนที่เพียงพอ 
  • ไม่สูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 3 เดือน 
  • ทำจิตใจให้สดใส ร่าเริง ไม่เครียด
  • ไม่ออกกำลังหนักมากจนเกินไป
  • งดการมีเพศสัมพันธ์ที่ก่อให้เกิดการหลั่งเชื้อ 3-7 วันก่อนเข้ารับการรักษา

การเตรียมตัวด้านการตรวจก่อนทำเด็กหลอดแก้ว

ฝ่ายหญิง

  • แจ้งแพทย์ที่รักษาว่ามีการใช้ยาอะไรบ้าง เพราะยาบางชนิดจะส่งผลต่อการทำลูก
  • บอกประวัติการรักษาโรคกับแพทย์ รวมถึงมีโรคประจำตัวที่อาจส่งผลทำให้เสี่ยงต่อการผลิตลูก
  • ตรวจเช็คร่างกาย เช่น ตรวจภายใน ตรวจอัลตร้าซาวด์ เพื่อเช็คว่ามีความผิดปกติที่อาจส่งผลต่อการตั้งครรภ์หรือไม่
  • ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ตามเกณฑ์ก่อนเข้ารับการรักษา

ฝ่ายชาย

  • เข้ารับการตรวจน้ำเชื้ออสุจิว่ามีความปกติ สามารถมีลูกได้ตามปกติหรือไม่
  • ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ตามเกณฑ์ก่อนเข้ารับการรักษา

วิธีทำเด็กหลอดแก้ว

การกระตุ้นให้ไข่ตก

ในช่วงแรกก่อนการทำเด็กในหลอดแก้ว แพทย์จะเตรียมการนัดฝ่ายหญิงเพื่อเช็คความพร้อมของร่างกาย โดยให้ทานยาหรือฉีดยากระตุ้นเซลล์ไข่เพื่อให้ได้เซลล์ไข่มีขนาดและปริมาณมากพอ

การเก็บไข่ 

หลังจากฉีดยากระตุ้นเซลล์ไข่เพื่อให้ได้เซลล์ไข่ที่ขนาดเหมาะสมและมีปริมาณที่มากพอแล้ว แพทย์ก็จะเรียกฝ่ายหญิงมาเพื่อคัดเลือกเก็บเซลล์ไข่ที่มีสภาพสมบูรณ์ และนำไปปฏิสนธิต่อไป

การเก็บน้ำเชื้อฝ่ายชาย

หลังจากเก็บเซลล์ไข่จากฝ่ายหญิงแล้ว ในวันเดียวกันแพทย์ก็จะเก็บตัวอย่างเชื้ออสุจิของฝ่ายชายและทำการคัดเชื้อที่มีสภาพสมบูรณ์เพื่อที่จะนำไปปฏิสนธิกับเซลล์ไข่

การปฏิสนธิ 

เมื่อได้เซลล์ไข่และเชื้ออสุจิที่มีสภาพสมบูรณ์แล้ว 

การย้ายตัวอ่อน 

เมื่อเชื้ออสุจิเข้าไปปฏิสนธิกับเซลล์ไข่ แพทย์จะนำไปเพาะเลี้ยงที่ห้องปฏิบัติการจนเซลล์ไข่ที่เกิดการปฏิสนธิเจริญเติบโตกลายเป็นตัวอ่อนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็จะนำตัวอ่อนที่เกิดขึ้นใส่กลับเข้าไปในโพรงมดลูกเพื่อให้ตัวอ่อนฝังตัวและเกิดการตั้งครรภ์ต่อไป


ข้อดีของการทำเด็กหลอดแก้ว


ข้อจำกัดในการทำเด็กหลอดแก้ว

แม้ว่าการทำลูกหลอดแก้วจะเป็นวิธีรักษาภาวะการมีบุตรยากที่หลายคนรักษา แต่ก็มีข้อจำกัดบางประการที่ทำให้ผู้ป่วยไม่สามารถรักษาด้วยวิธีนี้ได้ เช่น ฝ่ายหญิงที่มีมดลูกทำงานผิดปกติ ไม่แข็งแรง หรือมีปัญหาสุขภาพที่ส่งผลอันตรายต่อเด็กในครรภ์

นอกจากนี้แล้วการทำเด็กหลอดแก้วด้วยวิธี IVF หรือ ICSI ล้วนมีค่าใช้จ่ายสูง และมีโอกาสที่จะต้องทำหลายครั้ง หรือแม้ว่าจะรักษาหลายครั้งแล้วก็มีโอกาสที่จะไม่ตั้งครรภ์ด้วยเช่นกัน ดังนั้นก่อนเข้ารับการรักษาจึงควรปรึกษากับแพทย์ ทำการปรึกษากับครอบครัวอย่างละเอียด และยอมรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น


คำถามที่พบบ่อยจากคนไข้

การทำเด็กหลอดแก้ว เหมาะกับใคร


สรุป

การรักษาด้วยการทำเด็กหลอดแก้ว เป็นวิธีรักษาด้วยการทำการปฏิสนธินอกร่างกายเพื่อผู้ที่มีภาวะการมีบุตรยากให้มีโอกาสตั้งครรภ์มากขึ้น แต่เด็กหลอดแก้ว ราคาค่าใช้จ่ายสูง อีกทั้งยังมีความเสี่ยงที่จะไม่ตั้งครรภ์ด้วยเช่นกัน ดังนั้นก่อนเข้ารับการรักษาจึงควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด และเข้ารับการปรึกษาจากทางแพทย์เพื่อตรวจสอบว่าร่างกายสามารถเข้ารับการรักษาด้วยวิธีนี้ได้หรือไม่

นอกจากนี้แล้วเพื่อให้ประสบความสำเร็จในการตั้งครรภ์ได้อย่างดี ผู้ที่เข้ารับการรักษาทั้งฝ่ายหญิงและฝ่ายชายจึงควรเตรียมตัวให้พร้อมก่อนการรักษาและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด



บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที