ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าไม่ว่าจะอยู่ในยุคสมัยใดค่านิยมความงามโดยส่วนใหญ่ก็คือการมีใบหน้าที่เรียบเนียนปราศจากสิวหรือสิ่งแปลกปลอม นั่นจึงทำให้ผู้ที่มีสิวอยู่บนใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นสิวชนิดใดก็ตาม ล้วนหมดความมั่นใจไปตาม ๆ กัน
โดยเหล่าสิวเจ้าปัญหานี้ก็มีอยู่มากมายหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นสิวอุดตัน สิวอักเสบ สิวหัวดำ สิวไม่มีหัว สิวหัวหนอง สิวหิน สิวข้าวสาร รวมไปถึงสิวเสี้ยน ซึ่งสิวแต่ละชนิดก็จะมีลักษณะและสาเหตุการเกิดที่แตกต่างกันออกไป หรือในบางชนิดอาจบ่งบอกได้ถึงสุขภาพร่างกายได้อีกด้วย
และในบทความนี้เราจะมาพูดกันถึงสิวเม็ดข้าวสาร หรือที่บางคนอาจเรียกกันว่าสิวข้าวสารนั่นเอง โดยเราจะได้ทำความรู้จักทั้งลักษณะหน้าตา บริเวณที่มักจะเกิด หรือแม้แต่วิธีในการดูแลรักษาสิวข้าวสาร
สิวหัวข้าวสาร หรือสิวข้าวสารคือสิวที่สามารถพบได้ในทุกเพศทุกวัย แม้แต่เด็กทารกแรกเกิดก็สามารถพบเจอสิวหัวข้าวสารได้เช่นกัน โดยสิวหัวข้าวสารนั้นสามารถที่จะหายไปเองได้ซึ่งจะใช้ระยะเวลาประมาณไม่กี่สัปดาห์หรือไม่กี่เดือนเท่านั้น
แต่ในกรณีที่เป็นสิวเม็ดข้าวสารมานานเกินกว่า 3 เดือนขึ้นไปนั้นอาจจำเป็นที่จะต้องเข้าพบแพทย์เพื่อทำการตรวจและรักษาอย่างถูกวิธีต่อไป
โดยลักษณะหน้าตาของสิวหัวข้าวสารนั้นจะเป็นสิวที่มีขนาด 1-2 มิลลิเมตร มีลักษณะเป็นเม็ดแข็ง และมีสีขาว หรือในบางครั้งก็อาจมีสีเหลืองได้เช่นกัน
หลาย ๆ คนอาจมีความเข้าใจที่ผิดว่าสิวเม็ดข้าวสารและสิวหินเป็นสิวชนิดเดียวกัน ซึ่งความจริงแล้วไม่ใช่เลย ทั้งสิวข้าวสารและสิวหินนั้นเป็นสิวคนละชนิดกัน โดยแต่ละชนิดมีความแตกต่างกันอย่างไรบ้างนั้นเรามาดูไปพร้อม ๆ กันเลย
สิวหัวข้าวสารเป็นซีสต์ไขมันใต้ผิวหนังที่ได้มีการสะสมของเคราตินอยู่ภายใน โดยจะมีขนาดประมาณ 1-2 มิลลิเมตร ซึ่งสามารถพบได้ในทุกเพศทุกวัย และมักจะเกิดขึ้นในบริเวณใบหน้า แก้ม หน้าผาก จมูก หรือเปลือกตา นอกจากนี้ในบางคนอาจมีอาการคันร่วมด้วย
สิวหินเป็นเนื้องอกของต่อมเหงื่อ โดยจะมีขนาดประมาณ 1-3 มิลลิเมตร ซึ่งสามารถพบได้มากในคนเอเชียหรือผู้ที่มีผิวสีเข้ม ที่มีอายุอยู่ในช่วงวัยรุ่นไปจนถึงวัยผู้ใหญ่ตอนต้น และมักจะเกิดขึ้นในบริเวณใต้ตา เปลือกตา โหนกแก้ม จมูก หรือแผ่นหลัง ซึ่งสิวหินจะไม่มีอาการคันหรือเจ็บ
สำหรับสาเหตุของสิวหัวข้าวสารเกิดจากอะไรนั้นอาจยังไม่สามารถที่จะระบุได้อย่างแน่ชัด แต่โดยส่วนใหญ่แล้วก็อาจเป็นไปได้ว่าสิวเม็ดข้าวสารเกิดจากการที่ต่อมไขมันและรูขุมขนถูกรบกวน หรือการสะสมของเส้นใยเคราตินบริเวณใต้ผิวหนัง
แต่ว่านอกจากนี้แล้วการเกิดสิวเม็ดข้าวสารก็อาจมีสาเหตุดังนี้ได้เช่นกัน
ในส่วนของบริเวณหรือตำแหน่งที่มักจะเกิดสิวหัวข้าวสารนั้นส่วนใหญ่แล้วจะพบอยู่ที่ส่วนต่าง ๆ บนใบหน้า ได้แก่ สิวเม็ดข้าวสารใต้ตา สิวเม็ดข้าวสารเปลือกตา สิวเม็ดข้าวสารแก้ม สิวเม็ดข้าวสารหน้าผาก สิวเม็ดข้าวสารจมูก และสิวเม็ดข้าวสารคาง เป็นต้น
แต่ก็ยังสามารถที่จะพบได้บนส่วนอื่น ๆ ของร่างกายหรือบริเวณที่ผิวถูกแดดเผาไหม้ เกิดการเสียดสี หรือเกิดบาดแผลต่าง ๆ ก็ได้เช่นกัน
ในสิวเม็ดข้าวสาร หรือสิวข้าวสารนั้นจะสามารถแบ่งตามลักษณะออกได้เป็น 4 ชนิดด้วยกัน ดังนี้
สิวหัวข้าวสารแบบราบเป็นสิวที่เกิดจากการติดเชื้อ สามารถพบได้ในทุกเพศทุกวัย แต่มักพบได้มากในหมู่ผู้หญิงวัยกลางคน โดยสิวหัวข้าวสารแบบราบมักจะเกิดในบริเวณเปลือกตา แก้ม กราม และหลังหู ซึ่งจะมีลักษณะเป็นก้อนยาวแข็งแบบราบ
สิวหัวข้าวสารแบบแผลเป็นเป็นสิวที่เกิดจากการได้รับบาดเจ็บบริเวณผิวหนัง หรือการที่ต่อมไขมันและรูขุมขนถูกรบกวน โดยสิวหัวข้าวสารแบบแผลเป็นมักจะเกิดในบริเวณหลังมือ และนิ้วมือ
สิวหัวข้าวสารแบบแตกได้เป็นสิวที่เมื่อเกิดขึ้นแล้วมักจะเกิดขึ้นในปริมาณที่มาก และจะมีอาการคันร่วมด้วย ซึ่งสิวหัวข้าวสารแบบแตกได้นั้นใช้ระยะเวลาในการรักษาที่ค่อนข้างนาน นอกจากนี้เมื่อสิวแตกแล้วก็อาจกลายเป็นแผลเป็นอีกด้วย โดยสิวหัวข้าวสารแบบแตกได้มักจะเกิดในบริเวณใบหน้า ลำตัวช่วงบน และแขนช่วงบน
สิวหัวข้าวสารที่เกิดจากยาเป็นสิวที่เกิดจากการใช้ยาบางชนิดเป็นระยะเวลานาน ๆ เช่น ยาไฮโดรควิโนน ยาฟลูออโรยูราซิล หรือครีมสเตอรอยด์
ในเมื่อสิวเม็ดข้าวสารเหล่านี้มาพรากความมั่นใจไปจากใครหลายคน หัวข้อนี้จึงจะมาแนะนำวิธีรักษาสิวเม็ดข้าวสารเพื่อที่จะกู้คืนความมั่นใจของทุกคนกลับมา แล้ววิธีรักษาสิวข้าวสารมีอะไรกันบ้างนั้น เรามาดูกันเลย!
สำหรับวิธีแก้สิวเม็ดข้าวสารด้วยการกดสิวนั้นจะเป็นการใช้เข็มเจาะที่ผ่านการฆ่าเชื้อแล้วมาเปิดหัวสิวข้าวสาร หลังจากนั้นจึงค่อยนำอุปกรณ์กดสิวมากดและรีดให้สิวหัวข้าวสารออกมาจนหมด
โดยการรักษาสิวหัวข้าวสารด้วยวิธีนี้นั้นจำเป็นที่จะต้องให้แพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญทำเท่านั้น เพราะหากทำเองอาจเป็นรอยแผลหรือเกิดการติดเชื้อได้
การรักษาด้วยการเลเซอร์สิวข้าวสารนั้นเป็นวิธีรักษาสิวหัวข้าวสารที่รวดเร็วและมีความสะดวกมากที่สุด แต่ก็แลกมากับค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง
โดยการเลเซอร์สิวหัวข้าวสารนั้นควรที่จะเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีความน่าเชื่อถือ รวมไปถึงมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษา เนื่องจากก่อนที่จะทำการรักษาได้จำเป็นต้องตรวจสอบสภาพของผิวเสียก่อนว่าสามารถทำการเลเซอร์ได้หรือไม่
วิธีการใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวหรือโทนเนอร์ที่มีส่วนผสมของ AHA หรือ BHA นั้นเป็นการทำความสะอาดรูขุมขน และช่วยในการผลัดเซลล์ผิวบนใบหน้า ซึ่งจะทำให้สิวหัวข้าวสารหลุดออกมาเร็วยิ่งขึ้น
แต่ว่าการรักษาสิวหัวข้าวสารด้วยวิธีนี้นั้นไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่าไหร่ เนื่องจากจำเป็นต้องใช้ระยะเวลาในการรักษาค่อนข้างมาก
การรักษาความสะอาดบนใบหน้าก็เป็นอีกวิธีหนึ่งในการดูแลรักษาสิวหัวข้าวสาร เนื่องจากเป็นการขจัดเซลล์ผิว ไขมัน และสิ่งสกปรกต่าง ๆ ไม่ให้เกิดการอุดตันในรูขุมขน
โดยสามารถเลือกใช้เป็น Bioderma Sebium H2O Cleansing หรือ Bioderma Sebium Gel Moussant ซึ่งทั้ง 2 สิ่งนี้เป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่จะช่วยทำความสะอาดได้อย่างหมดจด ควบคุมความมันบนใบหน้า และยังยับยั้งแบคทีเรียต่าง ๆ ที่อาจทำให้เกิดสิวอีกด้วย
การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีความอ่อนโยนกับผิวหน้าก็เป็นวิธีในการรักษาสิวหัวข้าวสารเช่นกัน เนื่องจากการใช้ผลิตภัณฑ์บางชนิดที่มีส่วนผสมของสเตอรอยด์หรือสารเคมีอื่น ๆ ที่ไม่อ่อนโยนต่อผิวนั้นอาจเป็นการรบกวนต่อมไขมันและรูขุมขน หรือกระตุ้นให้เกิดสิวหัวข้าวสารขึ้นมาได้
โดยสามารถเลือกใช้เป็น Bioderma Sebium Lotion หรือ Bioderma Sebium Pore Refiner ซึ่งทั้ง 2 สิ่งนี้เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าที่นอกจากจะอ่อนโยนต่อผิวแล้ว ยังช่วยลดความมันบนใบหน้า ลดการสะสมของไขมันและเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ เพื่อไม่ให้เกิดรูขุมขนอุดตันจนทำให้เกิดสิวอีกด้วย
ถึงแม้ว่าสิวเม็ดข้าวสารและสิวหินนั้นจะมีลักษณะหน้าตาที่ค่อนข้างคล้ายคลึงกัน อีกทั้งยังสร้างความรำคาญและลดทอนความมั่นใจของผู้ที่เป็นไม่ต่างจากกัน แต่สิวทั้ง 2 ชื่อนี้ก็ไม่ใช่ชนิดเดียวกัน เพราะนอกจากจะแตกต่างกันที่บริเวณจุดเกิดแล้ว ยังเกิดจากสิ่งที่ต่างกันอีกด้วย
สิวข้าวสารนั้นแม้ว่าจะไม่ได้มีอาการรุนแรงหรืออันตรายใด ๆ อย่างที่เจอในสิวบางชนิด แต่ก็ควรที่จะหมั่นดูแลและรักษาให้ดี เพื่อให้สิวหัวข้าวสารเหล่านี้หลุดออกหรือหายไปโดยเร็ว หรือถ้าหากว่าผ่านมาหลายเดือนแล้วสิวหัวข้าวสารยังคงอยู่ ก็ควรเข้าปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างถูกต้องและเหมาะสมที่สุด
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที