ปัญหาสิวนั้นนับได้ว่าเป็นปัญหาที่น่ารำคาญใจให้กับคนทุกเพศทุกวัยเลยทีเดียว เพราะนอกจากจะทำให้สูญเสียความมั่นใจแล้ว สิวบางประเภทยังมีอาการเจ็บและอักเสบร่วมอยู่ด้วย ซึ่งค่อนข้างทรมานอย่างมาก อีกทั้งยังสร้างความลำบากในการแต่งหน้าอีกด้วย
โดยหนึ่งในปัญหาสิวที่น่ารำคาญมากที่สุดก็คือการเป็นสิวเรื้อรังไม่หายสักที เป็นสิวเรื้อรังซ้ำอยู่แต่ในบริเวณเดิม ๆ เม็ดเก่าหายเม็ดใหม่ผุด ซ้ำไปซ้ำมาไม่จบไม่สิ้น หน้าไม่เรียบเนียนเหมือนคนอื่นเขากันสักที
ดังนั้นในบทความนี้เราจึงจะมาทำความรู้จักกับเจ้าสิวเรื้อรังเหล่านี้กัน ว่าสิวเรื้อรังเกิดจากสาเหตุใด มักเกิดในบริเวณไหนบ้าง และควรรักษาสิวเรื้อรังด้วยวิธีไหนดี รวมไปถึงวิธีการดูแลผิวหน้าที่เป็นสิวเรื้อรังอย่างถูกต้อง ถ้าอยากรู้แล้วล่ะก็ ไปอ่านกันเลย!
สิว (Acne) คือการที่รูขุมขนหรือต่อมไขมันใต้ผิวหนังมีความผิดปกติ จนทำให้รูขุมขนเกิดการอุดตันจากสิ่งต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งสกปรก ไขมัน เซลล์ผิวที่ตายแล้ว หรือเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งเมื่อเกิดการอุดตันขึ้นแล้วก็จะเกิดเป็นสิวขึ้นมา โดยสิวจะมีอยู่ด้วยกันหลายชนิด และในบางชนิดนั้นก็อาจมีอาการอักเสบร่วมด้วย
สิวเรื้อรัง (Severe Acne) คือการที่เราเป็นสิวซ้ำ ๆ ในบริเวณเดิม และเป็นสิวไม่หายสักที โดยสิวเรื้อรังจะมีอยู่ 2 รูปแบบด้วยกันคือ สิวเรื้อรังที่ไม่อักเสบ ส่วนอีกรูปแบบหนึ่งก็คือ สิวเรื้อรังที่มีการอักเสบ ซึ่งจะมีอาการอักเสบ บวมแดง และอาการเจ็บปวดร่วมด้วย
โดยสิวเรื้อรังที่ไม่อักเสบจะได้แก่ สิวอุดตันเรื้อรัง และสิวผดเรื้อรัง ส่วนสิวเรื้อรังที่มีการอักเสบนั้นจะได้แก่ สิวอักเสบเรื้อรัง สิวหัวหนองเรื้อรัง และสิวหัวช้างเรื้อรัง
ซึ่งการรักษาสิวเรื้อรังนั้นค่อนข้างที่จะใช้ระยะเวลานาน และถึงแม้ว่าจำเป็นที่จะต้องใช้เวลาในการรักษา แต่สิวเรื้อรังเหล่านี้ก็สามารถที่จะรักษาให้หายขาดได้เช่นกัน
สิวเรื้อรังสามารถเกิดได้จากหลากหลายสาเหตุด้วยกัน ดังนั้นในหัวข้อนี้เราจึงจะมาดูกันว่าสาเหตุและปัจจัยใดบ้างที่จะทำให้เกิดสิวเรื้อรัง
ตำแหน่งหรือบริเวณที่มักจะเป็นสิวเรื้อรังนั้นจะมีอยู่หลายบริเวณด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นสิวเรื้อรังที่แก้ม สิวเรื้อรังที่คาง สิวเรื้อรังที่หน้าผาก และสิวที่หลังเรื้อรัง โดยสาเหตุที่ทำให้สิวขึ้นเรื้อรังในแต่ละบริเวณก็จะเกิดจากปัจจัยที่แตกต่างกันอยู่เล็กน้อย
สิวอักเสบที่คางเรื้อรังสามารถเกิดได้จากปัจจัยต่าง ๆ ได้แก่ การมีพื้นฐานฮอร์โมนเพศชายอยู่มาก ระบบลำไส้มีความผิดปกติ เข้าใกล้ช่วงเป็นประจำเดือน หรือมีการสัมผัสบริเวณคางอยู่บ่อยครั้ง
สิวเรื้อรังที่แก้มเป็นบริเวณที่สามารถพบได้บ่อยที่สุด โดยปัจจัยที่ทำให้เกิดสิวเรื้อรังในบริเวณนี้ ได้แก่ การใส่หน้ากากอนามัย ใช้เครื่องสำอางที่มีสารกระตุ้นการเกิดสิว หรือการที่ของใช้มีแบคทีเรียสะสมอยู่มาก เช่น ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน และผ้าห่ม
สิวเรื้อรังที่บริเวณหน้าผากสามารถเกิดได้จากปัจจัยต่าง ๆ ได้แก่ ระดับฮอร์โมนขาดความสมดุล หรือ สัมผัสกับสิ่งที่จะกระตุ้นให้เกิดสิวเรื้อรัง เช่น อากาศร้อน หรือมีเหงื่อออกมาก
สิวเรื้อรังในบริเวณหลังนั้นมักเกิดขึ้นจากการที่รูขุมขนอุดตันจากเซลล์ผิวที่ตายแล้ว เหงื่อ ความมัน และเชื้อแบคทีเรียต่าง ๆ
สำหรับวิธีในการรักษาสิวเรื้อรังจะสามารถทำได้ 2 วิธีด้วยกัน คือ วิธีใช้ยาในการรักษาสิวเรื้อรัง และวิธีการรักษาสิวเรื้อรังแบบไม่ต้องใช้ยา ซึ่งวิธีการรักษาทั้ง 2 วิธีนี้จะมีความแตกต่างกันอย่างไร และใช้ยาอะไรบ้าง เรามาดูไปพร้อมกันเลย!
ตัวยาที่มักใช้ในการรักษาสิวเรื้อรังจะมีอยู่หลายชนิดด้วยกัน โดยการเลือกใช้ยาควรเลือกให้เหมาะสมกับระดับความรุนแรงของอาการ ซึ่งควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์
เป็นยาปฏิชีวนะที่นอกจากจะช่วยลดการอักเสบของสิวแล้ว ยังช่วยป้องกันการเกิด Comedone อีกด้วย ซึ่งการใช้ยาจะเริ่มต้นใช้ในปริมาณปกติ และค่อย ๆ ลดปริมาณลงไปจนถึงขนาดต่ำที่สุด โดยตัวยาในกลุ่มนี้จะได้แก่ Tetracycline , Erythromycin , Clindamycin และ Ampicillin เป็นต้น
เป็นยาในกลุ่มยาขับปัสสาวะ ซึ่งเป็นยาที่มีคุณสมบัติในการควบคุมฮอร์โมน และรักษาภาวะ Primary hyperaldosteronism ทำให้ยาตัวนี้สามารถรักษาสิวเรื้อรังได้ เนื่องจากการปรับสมดุลของระดับฮอร์โมนจะช่วยยับยั้งไม่ให้ต่อมไขมันใต้ผิวหนังถูกกระตุ้น
เป็นยาในกลุ่มวิตามิน A ซึ่งจะเหมาะสำหรับการรักษาสิวเรื้อรังที่มีอาการรุนแรง หรือไม่สามารถควบคุมอาการได้ด้วยการรักษาวิธีอื่น โดยยาชนิดนี้จะมีคุณสมบัติกดการทำงานของต่อมไขมัน ลดปริมาณเชื้อแบคทีเรีย ลดการอักเสบของสิว และยับยั้งการสร้าง Comedone
ถ้าหากใครไม่ต้องการที่จะใช้ยาในการรักษาสิวเรื้อรัง เราก็มีวิธีรักษาสิวเรื้อรังโดยที่ไม่ต้องใช้ยามาแนะนำ โดยที่ทุก ๆ คนสามารถทำตามได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง
ถ้าหากเป็นสิวเรื้อรังติดต่อกันมาเป็นระยะเวลาที่ค่อนข้างนาน ควรเข้าพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุของการเกิดสิวเรื้อรัง และจะได้ทำการรักษาได้อย่างตรงจุด
เมื่อมีสิวเรื้อรังเกิดขึ้นบนใบหน้าแล้ว นอกจากจะใช้วิธีในการรักษาแล้ว วิธีการดูแลผิวขณะที่เป็นสิวเรื้อรังก็สำคัญไม่แพ้กัน เพื่อที่จะทำให้สิวเรื้อรังหายเร็วยิ่งขึ้น โดยวิธีในการดูแลผิวหน้าขณะเป็นสิวเรื้อรังมีดังนี้
เมื่อเราเกิดเป็นสิวขึ้นมาซ้ำ ๆ ในบริเวณเดิม หรือที่เราเรียกกันว่าสิวเรื้อรังนั้นสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุด้วยกัน ทั้งปัจจัยภายนอกและปัจจัยภายในร่างกาย ซึ่งถ้าหากได้ลองทำการรักษาด้วยตัวเองแล้วยังคงไม่ได้ผล ก็ควรที่จะเข้าปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดสิวเรื้อรังนี้
ระยะเวลาที่ใช้ในการรักษาสิวเรื้อรังจะแตกต่างกันออกไปตามสาเหตุและความรุนแรงของอาการ ในบางคนก็อาจหายได้ภายใน 1-2 เดือน แต่ในบางคนก็อาจใช้ระยะเวลาในการรักษาหลายเดือนมากกว่านั้น
การเกิดสิวที่เป็น ๆ หาย ๆ วนเวียนอยู่ในบริเวณเดิมซ้ำไปมา หรือที่เรียกว่าสิวเรื้อรังนั้นถึงแม้จะน่ารำคาญและมีสาเหตุหรือปัจจัยที่ทำให้เกิดมากมาย แต่ก็สามารถที่จะรักษาให้หายได้ถ้าหากได้รับการรักษาอย่างตรงจุดและถูกวิธี
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที