เบื่อไหม? การที่ต้องทนทุกข์ทรมาณกับอาการปวดกล้ามเนื้อแบบไม่จบไม่สิ้น หรือลองพยายามใช้วิธีอื่นๆ ตามที่มีคนแนะนำแล้วก็ยังไม่ได้ผล ไม่รู้จะทำยังไง เลยทำได้แต่ใช้ชีวิตประจำวันไปพร้อมกับอาการปวดเหล่านั้น จนรู้สึกว่ามันไม่สดชื่นเอาส่ะเลย
การรักษาด้วยคลื่นกระแทก หรือ Shockwave เทคโนโลยีสมัยใหม่ที่เกิดขึ้นมาเพื่อให้คุณสะดวกสบายกว่าที่เคย เพราะนอกจากจะรักษาอาการปวดเรื้อรัง เส้นเอ็นอักเสบ หรือออฟฟิศซินโดรมได้แล้ว ยังทำให้คุณเห็นผลลัพธ์หลังการรักษาได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย
ดังนั้น บทความนี้จะขอเสนอเทคโนโลยีที่จะช่วยให้ชีวิตคุณง่ายขึ้นอย่างการทำ “คลื่นกระแทก” ไม่ว่าจะเป็นคลื่นกระแทกคืออะไร? มีกี่ประเภท? ประโยชน์ที่ได้รับจะมีอะไรบ้าง? รวมไปจนถึงข้อควรระวังในการทำ Shockwave ที่นี่ได้รวบรวมข้อมูลไว้ให้คุณแล้ว
คลื่นกระแทก (Shockwave) คือ เครื่องมือของศาสตร์ทางกายภาพบำบัดที่มีการใช้พลังงานทางฟิสิกส์ในคลื่นกระแทก ลดอาการปวดเรื้อรัง และกระตุ้นการทำงานของเนื้อเยื่อที่บาดเจ็บ เพื่อให้เกิดการซ่อมแซมตนเองที่บริเวณนั้นๆ
โดยผู้เชี่ยวชาญที่ทำการรักษาด้วยคลื่นกระแทก จะส่งคลื่นเข้าไปยังบริเวณที่กล้ามเนื้อเกิดการตึงตัว หากผู้ที่มีอาการปวดน้อย กล้ามเนื้อไม่แข็งแกร็งมาก จะใช้จำนวนยิงประมาณ 500-1,000 ครั้ง ส่วนผู้ที่มีอาการปวดมานาน พิจารณาแล้วว่า กล้ามเนื้อมีอาการแข็งเกร็งมาก ผู้เชี่ยวชาญจะใช้จำนวนยิงประมาณ 1,000-5,000 ครั้ง
การรักษาด้วยคลื่นกระแทก หรือที่เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า Shockwave Therapy คือ การบำบัดที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน โดยผู้เชี่ยวชาญจะใช้เครื่องช็อคเวฟส่งคลื่น Shockwave Flash เข้าไปยังบริเวณที่เกิดอาการปวด คลื่นกระแทกจะทำการกระตุ้นให้เนื้อเยื่อบริเวณนั้นเกิดอาการบาดเจ็บอีกครั้ง(Re-Injuries) ส่งผลให้เนื้อเยื่อเกิดกระบวนการซ่อมแซมตนเอง(Re-Healing) ในที่สุด
การใช้ Shockwave มีจุดเด่น คือ การมีจำนวนครั้งในการรักษาน้อยกว่าวิธีกายภาพบำบัดรูปแบบอื่น สามารถช่วยลดอาการปวด ลดการอักเสบของกล้ามเนื้อได้จริง อีกทั้งยังให้ผลลัพธ์หลังการรักษาที่ชัดเจนและรวดเร็ว
การรักษาด้วยคลื่นกระแทก (shockwave therapy) มีอยู่ 2 ประเภท ได้แก่ Radial Shockwave และ Focus Shockwave โดยแต่ละประเภทจะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้
คลื่นช็อคเวฟแบบ Radial Shockwave เป็นการทำช็อคเวฟที่แผ่กระจายพลังงานออกเป็นมุมกว้าง จึงทำให้เมื่อผ่านชั้นเนื้อเยื่อลงไปแล้ว พลังงานของคลื่นจะค่อยๆลดลงตามความลึกที่เข้าไปถึง
คลื่นช็อคเวฟแบบ Focus Shockwave เป็นการทำช็อคเวฟแบบเฉพาะจุด กล่าวคือ จะมีการส่งพลังงานลงไปเฉพาะจุดที่ต้องการ ทำให้พลังงานจากคลื่นช็อคเวฟลงไปยังชั้นเนื้อเยื่อได้ลึกกว่า
คลื่นกระแทก เป็นการรักษาที่ส่งคลื่นพลังงานลงไปถึงระดับเนื้อเยื่อ ประมาณ 3-4 เมตร ทำให้ประโยชน์ส่วนใหญ่จะเป็นผลกับเนื้อเยื่อโดยตรง ซึ่งมีประโยชน์มากมาย ดังนี้
คลื่นกระแทก (Shockwave) สามารถช่วยรักษาได้ 3 อาการหลักๆ ดังนี้
อาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง เป็นอาการปวดที่เกิดขึ้นมาอย่างยาวนาน รักษาให้หายขาดได้ยากในวิธีการอื่นๆ ส่วนใหญ่มักเกิดจากการที่ใช้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นผิดท่าทางเป็นระยะเวลานาน หรือเกิดขึ้นซ้ำๆ ส่งผลให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นปวดไม่หาย จนกลายมาเป็นอาการปวดเรื้อรัง หรือมีการหดตัวเกิดขึ้น
โดยอาการที่มักพบบ่อยๆ เช่น การเป็นพังผืดทับเส้นประสาท ปวดสะโพกร้าวลงขา ปวดร้าวอย่างมากบริเวณสะบักหลัง เป็นต้น
อาการออฟฟิศซินโดรม เป็นอาการที่มักพบบ่อยในกลุ่มวัยทำงาน โดยเฉพาะอาชีพพนักงานออฟฟิศ ซึ่งเป็นอาชีพที่ต้องนั่งทำงานอยู่กับที่เป็นระยะเวลานาน ไม่ค่อยได้ลุกเดินเพื่อยืดกล้ามเนื้อ และในบางรายอาจเป็นออฟฟิศซินโดรมได้ เนื่องจากพฤติกรรมการนั่งผิดท่า จนเกิดการปวดคอ บ่า ไหล่ หลัง หรือข้อมือขึ้น
อาการเส้นเอ็นอักเสบ เป็นอาการที่เกิดจากการใช้งานบริเวณนั้นมากจนเกินไป ก่อให้เกิดความตึงเครียดที่เส้นเอ็นขึ้น เมื่อเส้นเอ็นเกิดความตึงเครียดมากๆ จะส่งผลให้บริเวณนั้นเกิดอาการปวดและอักเสบ
โดยอาการที่เกิดขึ้นได้ เช่น เอ็นข้อมืออักเสบ เอ็นหัวไหล่อักเสบจากหินปูนเกาะ เอ็นเข่าอักเสบ ปลอกหุ้มเส้นเอ็นข้อมืออักเสบ เอ็นร้อยหวายอักเสบ และเอ็นฝ่าเท้าอักเสบ เป็นต้น
การรักษาด้วยคลื่นกระแทก (Shockwave) เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการ ดังต่อไปนี้
หลายๆคนอาจมีข้อสงสัยว่า ถ้าต้องการเข้ารับการรักษาโดยใช้คลื่นกระแทกจะต้องเตรียมอะไรไปบ้าง ในพาร์ทนี้ เราจะมาแนะนำถึงวิธีการเตรียมตัว หรือสิ่งที่ควรปฏิบัติก่อนทำคลื่นช็อคเวฟกัน ซึ่งจะมีดังต่อไปนี้
กระบวนการรักษาด้วย Shockwave มีขั้นตอนดังต่อไปนี้
การดูแลตนเองควบคู่ไปกับการเข้ารับการรักษาด้วยคลื่นกระแทกก็สำคัญเช่นกัน เมื่อคุณได้รับการกระตุ้นด้วยคลื่นกระแทกจนเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไป เราก็จะมาบอกเคล็ดลับในการดูแลตนเองหลังจากทำเสร็จ เพื่อเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยดีๆในการลดความเจ็บปวดนั่นเอง ซึ่งคุณสามารถทำวิธีการต่างๆได้ ดังนี้
โดยปกติแล้ว การรักษาด้วยคลื่นกระแทก (Shockwave) จะมีระยะเวลาในการรักษาอยู่ที่ประมาณ 2-5 ครั้ง ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของอาการบริเวณกล้ามเนื้อนั้น ซึ่งการรักษารูปแบบนี้ จะมีการเว้นระยะห่างประมาณ 1-2 สัปดาห์ เพื่อให้ร่างกายสามารถฟื้นฟู ซ่อมแซมตนเองหลังจากที่ได้รับการกระตุ้นให้เกิดการบาดเจ็บซ้ำนั่นเอง
ผู้ที่มีระดับความรุนแรงของอาการกล้ามเนื้อน้อย ก็มักจะสามารถเห็นผลลัพธ์ได้หลังการรักษาทันที ส่วนผู้ที่มีระดับความรุนแรงมาก หรือมีอาการปวดเรื้อรังมานาน อาการปวดอาจไม่ได้หายไป แต่จะสามารถรู้สึกได้ว่าความรุนแรงเบาลงจากการทำคลื่นกระแทกในครั้งแรก
ถึงแม้ว่าการรักษาด้วยคลื่นกระแทก (shockwave therapy) จะมีข้อดีมากมาย อย่างการรักษาอาการปวดเรื้อรังได้ เห็นผลลัพธ์ได้เร็ว ใช้เวลาในการรักษาไม่นานนัก ฯลฯ แต่ก็อาจมีผลข้างเคียงเกิดขึ้นกับการใช้คลื่นช็อคเวฟได้ ดังนี้
โดยปกติแล้ว อาการเหล่านี้สามารถหายได้ด้วยตนเอง ภายใน 5-10 วัน คุณควรสังเกตอาการอย่างต่อเนื่อง หากเลยระยะเวลาดังกล่าว ควรรีบเข้าพบผู้เชี่ยวชาญ เพื่อขอคำแนะนำ
การทำคลื่นกระแทก (Shockwave) มีข้อควรระวังดังต่อไปนี้
ผู้ที่ไม่เหมาะกับการทำคลื่นกระแทก (Shockwave) มีดังต่อไปนี้
“รักษาด้วย Shockwave ที่ไหนดี?” การเลือกสถานพยาบาลที่ดี ควรมีองค์ประกอบดังต่อไปนี้
คลื่นกระแทก(Shockwave) เป็นเทคโนโลยีทางศาสตร์กายภาพบำบัดที่ใช้พลังงานของคลื่นกระแทกในการเข้าสู่เนื้อเยื่อบริเวณที่ปวดเรื้อรัง กระตุ้นให้เกิดการบาดเจ็บซ้ำ เพื่อให้เนื้อเยื่อเริ่มกระบวนการซ่อมแซมตนเองใหม่ จึงทำให้วิธีการนี้สามารถบรรเทาอาการปวดเมื่อยเรื้อรัง ออฟฟิศซินโดรม หรือการอักเสบของเส้นเอ็นต่างๆได้
หากสนใจเข้ารับการรักษา ควรพิจารณาสถานพยาบาลตามคำแนะนำเบื้องต้น เพื่อที่จะได้รักษาอย่างถูกวิธี มีความปลอดภัยและไม่ทำให้อาการรุนแรงขึ้นกว่าเดิมนั่นเอง
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที