วัตพล

ผู้เขียน : วัตพล

อัพเดท: 10 เม.ย. 2023 23.32 น. บทความนี้มีผู้ชม: 10078 ครั้ง

ประกันภัยรถยนต์ ประกันอุบัติเหตุ ฯลฯ


เบี้ยประกันสุขภาพ เรื่องใกล้ตัว ที่หลายคนมองข้าม

เบี้ยประกันสุขภาพครอบคลุมทุกการรักษา

ในปัจจุบันนี้โรคต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้นทั้งโรคเก่าไม่ไป โรคใหม่เกิดขึ้นไม่หยุด ตัวอย่างโรคระบาดโควิด-19 ที่ตอนนี้ได้พัฒนาสายพันธุ์ออกเป็นสายพันธุ์ย่อยมากมาย หรือจะเป็นโรคฝีดาษลิงที่กลับมาระบาดอีกครั้งในต่างประเทศ เป็นต้น ซึ่งการเจ็บป่วยแต่ละครั้งล้วนต้องมีค่าใช้จ่าย

โดยปัจจุบันค่ารักษาก็มีแต่เพิ่มขึ้นทุกวัน ดังนั้นการมีประกันสุขภาพ จึงเป็นทางเลือกที่สำคัญที่ทุกคนควรมีไว้ เพื่ออุ่นใจในตอนเจ็บป่วย เพราะประกันสุขภาพจะเป็นตัวช่วยสำคัญในการรองรับค่าใช้จ่ายที่ครอบคลุม ทั้งค่าห้อง ค่ายา หรือค่ารักษาพยาบาล ที่เกิดจากโรคภัยและอุบัติเหตุ

บทความนี้ทางเราได้รวบรวมข้อมูลต่าง ๆ เพื่อให้ผู้อ่านทำความเข้าใจเรื่องเบี้ยประกันสุขภาพว่าคืออะไร มีวิธีการเลือกแบ่งจ่ายแบบไหนบ้าง แล้วเราควรเลือกแบบใด เพื่อที่ผู้อ่านจะสามารถเลือกเบี้ยประกันสุขภาพได้ตรงกับตนเองมากที่สุด เพื่อดูแลตัวเราเองและคนในครอบครัวที่เรารักได้อย่างมีความสุข


เบี้ยประกันสุขภาพ คือ

เบี้ยประกันสุขภาพ คือ จำนวนเงินที่ผู้เอาประกันชำระให้แก่ผู้รับประกันภัย เพื่อซื้อความคุ้มครองค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่บริษัทประกันภัยตกลงที่จะชดเชยค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการรักษาพยาบาลบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ หรืออาการเจ็บป่วยจากโรคภัยไข้เจ็บ ให้แก่ผู้เอาประกันภัย

บางคนอาจจะสงสัยว่าเบี้ยประกันสุขภาพกับทุนประกันสุขภาพเหมือนหรือต่างกันอย่างไร มาดูคำตอบกัน

เบี้ยประกันสุขภาพคือจำนวนเงินที่ผู้เอาประกันจะต้องจ่ายให้บริษัทประกันชีวิตส่วนทุนประกันสุขภาพคือเงิน (ความคุ้มครอง) ที่ผู้เอาประกันจะได้รับจากบริษัทประกันชีวิตนั่นเอง โดยทุนประกันและเบี้ยประกันจะมีการแปรผันตามกัน คือทุนประกันยิ่งสูง เบี้ยประกันที่เราต้องจ่ายเป็นรายเดือนหรือรายปีก็จะสูงตาม


เบี้ยประกันสุขภาพต่างกันเพราะอะไร ทำไมบางเบี้ยประกันบางคนทำได้ บางคนทำไม่ได้

ในระหว่างที่หลาย ๆ คนที่กำลังเลือกที่จะทำประกันสุขภาพอยู่นั้น อาจจะเกิดคำถามขึ้นมาว่า เพราะอะไรค่าเบี้ยประกันที่เราต้องจ่ายนั้น ถึงมีราคาแตกต่างกันจัง? ค่าเบี้ยประกันสุขภาพต่างกันขึ้นอยู่กับอะไร ? ทำไมเพื่อนที่ทำงานด้วยกันซื้อประกันนี้ได้แต่เราซื้อประกันสุขภาพตัวนี้ไม่ได้? หัวข้อนี้จะมาไขข้อข้องใจให้ทุกคนได้ทราบกันอย่างละเอียด! ดังนี้

  1. อายุ

อายุของผู้เอาประกันภัยที่แตกต่างกัน ผู้เอาประกันภัยที่มีอายุมาก จะมีอัตราเบี้ยประกันที่สูงกว่าผู้เอาประกันภัยอายุน้อย เนื่องจากโอกาสที่ร่างกายจะบาดเจ็บหรือเจ็บป่วย รวมถึงภาวะแทรกซ้อนแตกต่างกัน เมื่ออายุมากขึ้น ก็มีโอกาสเกิดปัญหาสุขภาพได้มากขึ้นด้วย และประสิทธิภาพในการซ่อมแซมร่างกายหลังเจ็บป่วยจะลดลง โอกาสมีโรคแทรกซ้อนสูงกว่า และใช้เวลาในการพักรักษาตัวนานกว่าบุคคลที่มีอายุน้อย ทำให้ค่ารักษาพยาบาลสูงกว่า

  1. เพศ

ความเสี่ยงภัยของเพศหญิงไม่แตกต่างจากเพศมากนัก แต่ตามโครงสร้างความแข็งแรงของสุขภาพร่างกาย ยังมีความแตกต่างกันอยู่ เนื่องจากเพศหญิงจะใช้ระยะเวลาในการฟื้นตัวจากการเจ็บป่วย หรือบาดเจ็บทางร่างกายมากกว่าเพศชาย บริษัทรับประกันภัยจึงอาจจะรับประกันภัย โดยพิจารณาอัตราเบี้ยประกันของเพศหญิงสูงกว่าเพศชาย

  1. สุขภาพ

ได้แก่ ประวัติเกี่ยวกับสุขภาพและการรักษาพยาบาล รวมทั้งสภาพร่างกายของผู้ขอเอาประกันภัย บุคคลที่ไม่เคยมีประวัติการเจ็บป่วยรุนแรงหรือการเข้ารับการรักษาพยาบาลย่อมมี โอกาสที่จะเจ็บป่วยเรื้อรังหรือทุพพลภาพเป็นเวลานานในอนาคตน้อยกว่าบุคคลที่มีสภาพร่างกายอ่อนแอเจ็บป่วยบ่อย อาจส่งผลให้บริษัทประกัน พิจารณาอัตราเบี้ยประกันสุขภาพของผู้ที่มีประวัติสุขภาพดีต่ำกว่าผู้เอาประกันที่มีประวัติสุขภาพร่างกายอ่อนแอ

  1. อาชีพ

อาชีพจะแสดงถึงกิจกรรมที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของแต่ละบุคคลซึ่ง จะนำไปสู่ความเสี่ยงภัยหรือแนวโน้มที่จะได้รับบาดเจ็บ หรือเจ็บป่วยที่ต่างกันออกไป เช่น ผู้ที่ทำงานในสำนักงานมีโอกาสเจ็บป่วยน้อยกว่าผู้ที่ต้องเดินทางบ่อย ๆ

  1. การดำเนินชีวิต

แสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมที่มีผลต่อสุขภาพ ผู้ที่ใช้ชีวิตโลดโผน เล่นกีฬาเสี่ยงอันตราย จะมีโอกาสบาดเจ็บและเจ็บป่วยมากว่าผู้ที่ใช้ชีวิตด้วยความระมัดระวัง หรือ อุบัติเหตุของบุคคลที่แตกต่างกันไป อาทิเช่น การดื่มแอลกอฮอล์ การเล่นกีฬาที่เสี่ยงอันตราย เป็นต้น

  1. จำนวนบุคคล

สำหรับการประกันภัยแบบกลุ่ม พิจารณาถึงจำนวนผู้เอาประกันที่มากขึ้นย่อมจะมีการกระจายความเสี่ยงภัยได้มากตามไปด้วย มีผลให้อัตราเบี้ยประกันภัยต่ำลงได้

  1. ความคุ้มครองและจำนวนเงินเอาประกัน

ผลประโยชน์และความคุ้มครองที่เพิ่มมากขึ้น ย่อมส่งผลให้เบี้ยประกันสูงขึ้น

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยต่างๆ ที่ใช้ประเมินมูลค่าเบี้ยประกันสุขภาพที่เราต้องจ่ายนั้น จะแตกต่างกันไปตามที่บริษัทประกันกำหนด ก่อนที่จะซื้อประกันที่ต้องการ เราควรตรวจสอบรายละเอียดกับทางบริษัทประกันทุกครั้ง


เบี้ยประกันสามารถเลือกแบ่งจ่ายแบบใดได้บ้าง มาดูกันเลย

คนที่ตกลงเลือกเบี้ยประกันสุขภาพได้แล้ว

วันนี้เรามาดู “วิธีการเลือกจ่ายเบี้ยประกัน” ควรเลือกแบบไหนให้ครอบคลุมค่าใช้จ่าย และในท้ายที่สุดคือได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่ามากที่สุด! พร้อมตอบโจทย์ความต้องการได้เป็นอย่างดีเบี้ยประกันสุขภาพสามารถเลือกแบ่งจ่ายแบบใดได้บ้าง คนที่ทำประกันควรรู้

ประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย เปิดกว้างให้เลือกประกันสุขภาพที่ดีที่สุดได้ด้วยตัวเอง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมีประกันสุขภาพคุ้มครองแบบอุ่นใจ ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม โดยค่าเบี้ยประกันจะแพงกว่าแบบแบ่งจ่าย สามารถปรับเปลี่ยนความคุ้มครองในงบประมาณที่พอใจ มีการกำหนดวงเงินสูง รายการคุ้มครองหลากหลาย ทั้งแบบนอน รพ. ไม่นอน รพ. โรคร้ายแรง รักษามะเร็ง และ ค่าชดเชยรายวัน ให้เลือกได้ตามงบ

ประกันสุขภาพแบบแบ่งจ่าย ชำระเป็นงวดมีทั้งรายเดือน รายปี ขึ้นกับเงื่อนไขของแต่ละบริษัท และขึ้นกับเงื่อนไขของแบบประกันด้วยเช่นกัน โดยค่าเบี้ยประกันจะถูกกว่าแบบเหมาจ่าย รายการคุ้มครองที่ได้น้อยกว่าแบบเหมาจ่าย มีการกำหนดวงเงินค่ารักษาพยาบาล เหมาะสำหรับผู้ที่มีงบทำประกันน้อย


หากไม่จ่ายเบี้ยประกันจะมีผลต่อความคุ้มครองไหม แล้วถ้าชำระเบี้ยประกันช้าจะเกิดอะไรขึ้น

หากไม่จ่ายเบี้ยประกันสุขภาพจะมีผลต่อความคุ้มครองไหม ในหัวข้อนี้เรามาไขข้อข้องใจกันเลย

หากไม่จ่ายเบี้ยประกันสุขภาพได้ตามงวดชำระเบี้ยที่บริษัทกำหนดไว้ แต่ยังต้องการความคุ้มครองชีวิตจากประกันที่ทำไว้อยู่ และจะสามารถหาเงินก้อนมาจ่ายได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด สามารถแจ้งขอจ่ายเบี้ยล่าช้าได้ภายในระยะเวลาผ่อนผัน 31 วัน นับจากวันที่ครบกำหนดชำระเบี้ยประกัน

ในระยะเวลาผ่อนผัน กรมธรรม์จะยังมีผลบังคับใช้และให้ความคุ้มครองอยู่ตามปกติ แต่หากเกิดเสียชีวิตในระหว่างผ่อนผัน บริษัทประกัน จะหักเบี้ยประกันสุขภาพที่ยังไม่ได้จ่ายจากทุนประกันชีวิตที่จะได้รับก่อนที่จะจ่ายให้กับผู้รับผลประโยชน์

แต่ถ้าหากไม่จ่ายเบี้ยประกันสุขภาพเกินกำหนดประกันที่ถืออยู่จะขาดอายุ และผลที่ตามมาคือการคุ้มครองก็จะสิ้นสุดลง


สรุป

ครอบครัวที่มีเบี้ยประกันสุขภาพครบทุกคน

การทำประกันสุขภาพ แม้จะไม่ได้ใช้ในทันที แต่เมื่อเกิดการเจ็บป่วยฉุกเฉิน ก็เหมือนมีตัวช่วยค่ารักษาพยาบาล ทั้งค่าห้อง ค่ายา ค่าหมอ หรือค่าใช้จ่ายอื่น ๆ โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเงินที่หามาจะหมดไปกับค่ารักษาที่เกิดขึ้น และเราควรศึกษารายละเอียดของสัญญาก่อนทำประกันและจ่ายเบี้ยประกันสุขภาพจะได้ตรงกับความต้องการของตนเองและเกิดประโยชน์สูงสุด


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที