KIEMAN

ผู้เขียน : KIEMAN

อัพเดท: 08 มิ.ย. 2023 09.26 น. บทความนี้มีผู้ชม: 10313 ครั้ง

ยอดธรรมะพระอริยสงฆ์


จิตเดิมประภัสสร แต่มืดมัวไปเพราะอุปกิเลส

ภิกษุทั้งหลาย จิตนี้เลื่อมประภัสสรแจ้งสว่างมาเดิม แต่อาศัยอุปกิเลสเครื่องเศร่าหมองเป็นอาคันตุกะ สัญจรมาปกคลุมหุ้มห่อ จึงทำให้จิตมิส่องสว่างได้ ท่านเปรียบไว้ในบทกลอนหนึ่งว่า ไม้ชะงกหกพันง่า กะปอมก่า ขึ้นมื้อฮ้อย กะปอมน้อยขึ้นมื้อพัน ครั้นตัวมาบ่ทัน ขึ้นนำคู่มื้อๆ โดยอธิบายว่าคำว่าไม้ชะงกหกพันง่า เมื่อตัดศูนย์ สาม ตัวออกเสียเหลือแต่ หก คง ได้ความว่า ทวารทั้งหก เป็นที่มาแห่งกระปอมก่า คือ ของปลอม ไม่ใช่ของจริง กิเลสทั้งหลายไม่ใช่ของจริง เป็นสิ่งสัญจรเข้ามาในทวารทั้ง หก นับร้อยนับพัน มิใช่แต่เท่านั้น กิเลสทั้งหลายที่ยังไม่เกิดขึ้นมีขึ้นก็จะยิ่งทวียิ่งๆขึ้นทุกๆวันในเมื่อไม่แสวงหาทางแก้ ธรรมชาติของจิตเป็นของผ่องใสยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด แต่อาศัยของปลอม กล่าวคือ อุปกิเลสที่สัญจรเข้ามาปกคลุม จึงทำให้หมดรัศมี ดุจพระอาทิตย์เมื่อถูกเมฆบดบัง ฉะนั้น อย่าพึงเข้าใจว่าพระอาทิตย์เข้าไปหาเมฆ เมฆไหลมาบดบังพระอาทิตย์ต่างหากฉะนั้นผู้บำเพ็ญเพียรทั้งหลาย เมื่อรู้โดยปริยายนี้แล้ว พึงกำจัดของปลอมด้วยการพิจารณาโดยแยบคายตามที่ได้อธิบายไว้แล้วในอุบายวิปัสสนาข้อเก้านั้นเถิด เมื่อทำจิตถึงขั้นฐีติจิตแล้ว ชื่อว่าย่อมทำลายของปลอมได้หมดสิ้น หรือว่าของปลอมย่อมเข้าไม่ถึงฐีติจิต เพราะสะพานเชื่อมต่อได้ถูกทำลายขาดสะบั้นลงไปแล้ว แม้ยังต้องเกี่ยวข้องกับอารมณ์ของโลกอยู่ ก็ย่อมเป็นดุจดังน้ำกลิ้งบนใบบัว


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที