metahealth

ผู้เขียน : metahealth

อัพเดท: 27 ก.พ. 2024 11.17 น. บทความนี้มีผู้ชม: 3150 ครั้ง

ความรู้ด้านการทำศัลยกรรมและหัตถการความงาม


ใครบ้างที่เหมาะกับการทำตาสองชั้น เลือกทำแบบไหนถึงแก้ปัญหาชั้นตาให้สวยขึ้น

การทำตาสองชั้น
 
เพื่อให้การแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด และคุ้มค่า สวย ไม่ตกเทรนด์ความงามคนไข้ควรรู้ว่าปัจจุบันมีวิธีการทำตาสองชั้นแบบใดบ้าง ซึ่งบทความนี้จะมาไขตามแนวทางศัลแพทย์ตาสองชั้นโดยเฉพาะ
 

นิยามการทำตาสองชั้น คืออะไร

 
ในเชิงการแพทย์ การทำตาสองชั้น คือ การปรับแก้ผิวหนังเปลือกตา-กล้ามเนื้อเปลือกตาที่บกพร่อง เช่น กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ผิวหนังหย่อนคล้อย มองไม่เห็นชั้นตา ตาเล็ก ให้มีชั้นตา 2 ชั้นที่สวยงาม เท่ากันทั้งสองข้าง และเป็นไปตามสรีระความงามศาสตร์โหงวเฮ้ง
 
 

ปัญหาแบบไหน เหมาะที่จะทำตาสองชั้น

 
การปรับแก้ผิวเปลือกตาให้เกิดเป็นตาสองชั้น ไม่ได้แก้ปัญหาในผู้ที่มีตาเล็ก หรือตาชั้นเดียวเท่านั้น แต่เป็นการปรับแก้ได้ถึงระดับกล้ามเนื้อตาด้วย ดังนั้นแล้วจะสามารถแก้ไขได้ 2 ส่วนใหญ่ๆ ดังนี้

 

ปัญหาผิวหนังเปลือกตา

ปัญหากล้ามเนื้อตา

มีชั้นตาเดียว-ชั้นตาหนา 

กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ทำให้ลืมตาไม่ขึ้น ตาปรือ 

หนังตาหย่อนคล้อย เหี่ยวย่นตามอายุที่มากขึ้น

ตาไม่เท่ากัน ที่เกิดจากกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงในข้างใดข้างหนึ่ง

หนังตาตก จนมองไม่เห็นชั้นตา

 

หนังตาทั้งสองข้างไม่เท่ากัน 

 

ไขมันบริเวณเปลือกตามากเกินไป

 

ตาสองชั้นหลบใน ทำให้มองเห็นชั้นตาไม่ชัด

 

 

เทคนิคตาสองชั้น

 

เทคนิคตาสองชั้นในปัจจุบัน มีทั้งหมดกี่วิธี

กับศึกษาวิธีการทำตาสองชั้นทั้งหมดให้ถี่ถ้วนก่อนเข้ารับการรักษา มีผลดีต่อตัวคนไข้เองล้วนๆ  เพราะผิวหนังตาหากถูกตัดออกไปแล้ว ไม่สามารถแก้คืนกลับมาได้ ซึ่งปัจจุบันมีหลายเทคนิควิธี ดังนี้
 

เลเซอร์ตาสองชั้น

 
เป็นการแก้ปัญหาตาสองชั้นแบบหัตถการด้วยเครื่องเลเซอร์ โดยการใช้ลำแสง Plexr ยิงไปที่หนังตา ทำให้เกิดชั้นตาเห็นเป็นเส้นสวยงาม พร้อมๆ กับลดไขมันบริเวณผิวเปลือกตาได้ในคราวเดียว
 
เหมาะกับใคร?
 
 

ข้อดีเลเซอร์ตาสองชั้น

ข้อเสียเลเซอร์ตาสองชั้น

ระยะเวลารักษารวดเร็ว ประมาณ 45 นาที

ไม่ได้ผลดี ในผู้ที่มีผิวเปลือกตาหนาเกินไป

ไม่มีเลือกออก ไม่ใช่การผ่าตัด

ผลลัพธ์อาจไม่ถาวรและสวยงามเท่ากับการผ่าตัด

หายไวไม่ต้องพักฟื้น 

 

ไม่ทิ้งรอยแผลเป็น

 

ผิวเปลือกตากระชับขึ้น จากการถูกกระตุ้นคอลลาเจน

 
 

 

ตาสองชั้นแบบเย็บ 3 จุด (Incision eyelid)

 
เป็นการทำตาสองชั้นโดยไม่ต้องกรีด แต่จะเป็นการกำหนดจุด 3 จุดบริเวณเปลือกตา และกรีดสั้นเพื่อสร้างรอยพับ และนำเอาไขมันส่วนเกินออก จากนั้นจะทำการเย็บพับจากด้านในของหนังตาบน
 
เหมาะกับใคร?
 
 

ข้อดีตาสองชั้นแบบเย็บ 3 จุด

ข้อเสียตาสองชั้นแบบเย็บ 3 จุด

เห็นรอยแผลน้อยมาก

ไม่สามารถสร้างชั้นตาให้ใหญ่ได้มาก โดยเฉพาะคนที่มีเปลือกตาหนา

บวมช้ำน้อย 

ไม่สามารถเอาไขมันที่สะสมออกในเปลือกตาได้มาก

ไม่ต้องพักฟื้น 

ไม่สามารถแก้ปัญหาผู้ที่มีหนังตาตก หนังตาหย่อนคล้อยได้

 

 

ตาสองชั้นแบบกรีดสั้น

 
เป็นการสร้างชั้นตา 2 ชั้น แบบกรีดเปิดปากแผลขนาดเล็กประมาณ 1 - 2 เซนติเมตร เท่านั้น เพื่อเป็นการสร้างชั้นตาและรอยพับที่สวยงาม ทำให้ตาดูคมชัดขึ้น ใบหน้าดูมีมิติขึ้น
 
เหมาะกับใคร?
 
 

ข้อดีตาสองชั้นแบบกรีดสั้น

ข้อเสียตาสองชั้นแบบกรีดสั้น

แผลเป็นเล็ก 

ตกแต่งชั้นตาได้น้อย

ใช้เวลาผ่าตัดไม่นาน

ไม่สามารถเอาไขมันใต้เปลือกตาออกมาได้

ขณะที่หลับตาแล้วจะไม่เห็นรอยพับ

 
   

 


 

ตาสองชั้นแบบกรีดยาว

 
เป็นการผ่าตัดกรีดหนังตาบนตั้งแต่บริเวณหัวตา ไล่ยาวไปถึงหางตา ด้วยการกรีดยาวพอที่จะสามารถนำไขมันส่วนเกินในเปลือกตาออกมาได้ และสามารถตัดแต่งหนังตาส่วนเกินออกมาได้ในคราวเดียว
 
เหมาะกับใคร?
 

ข้อดีตาสองชั้นแบบกรีดยาว

ข้อเสียตาสองชั้นแบบกรีดยาว

ตัดแต่งหนังตาได้มากกว่าวิธีกรีดสั้น

มีอาการบวมช้ำหลังทำมากกว่าแบบกรีดสั้น

สามารถเอาไขมันส่วนเกินที่ชั้นตาออกได้เยอะกว่าแบบกรีดสั้น

ต้องใช้ระยะเวลาพักฟื้นนาน และชั้นตาจะชัดในเวลา 1 - 2 เดือน

สามารถแก้ปัญหากล้ามเนื้อตาอ่อนแรงได้ด้วย

จำเป็นต้องดูแลรักษาแผลอย่างต่อเนื่อง และถูกวิธี

 


 

ปรับกล้ามเนื้อตา แบบไม่กรีด (non-incision ptosis)

 
เป็นการมัดไหมเป็นจุด บริเวณเปลือกตาบน 3-4 ปม เพื่อเข้าไปปรับระดับมัดกล้ามเนื้อตาที่หย่อนยานให้กระชับขึ้น มีแรงยึดเปลือกตามากขึ้น พร้อมๆ กับสร้างชั้นตาให้คมชัดและเป็นธรรมชาติที่สุด
 
เหมาะกับใคร?
 

ข้อดี ปรับกล้ามเนื้อตาแบบไม่กรีด

ข้อเสีย ปรับกล้ามเนื้อตาแบบไม่กรีด

ไม่เกิดรอยแผลเป็น เพราะเป็นการกรีดจุดแล้วมัดเย็บ

ไหมอาจหลุดได้ง่าย ดังนั้นหลังทำควรระมัดระวัง

ใช้เวลาในการผ่าตัดไม่นาน

หลังผ่าตัด อาจมีอาการหนังตาตึง หรือหลับตาได้ไม่สนิท แต่จะค่อยๆ หายเป็นปกติ

บวมช้ำน้อย ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น

 

 


 

ตาสองชั้นแบบกรีด พร้อมปรับกล้ามเนื้อตา (Incision ptosis)

 
เป็นการผ่ากรีดผิวเปลือกตาบนตั้งแต่หัวตา ไล่ยาวไปถึงบริเวณหางตา หลังจากนั้นจะทำการเย็บหนังแท้เข้ากับกลามเนื้อตา และจึงเย็บปิดปากแผลเปลือกตาบน
 
เหมาะกับใคร?
 

ข้อดี ตาสองชั้นแบบกรีด+ปรับกล้ามเนื้อตา

ข้อเสีย ตาสองชั้นแบบกรีด+ปรับกล้ามเนื้อตา

ให้ผลลัพ?ธ์ถาวรกว่าแบบเย็บจุด

มีอาการบวมช้ำมาก ใช้เวลาพักฟื้นนาน

ปรับแต่งชั้นตาได้มากกว่าแบบอื่น

อาจเกิดรอยแผลเป็น ที่เห็นได้ชัดขณะหลับตา 

ช่วยแก้ปัญหาการมองเห็นไม่ชัด 

ใช้เวลานานกว่าจะแสดงผลลัพธ์ที่ชัดเจน ประมาณ 3 - 6 เดือน

 


 

เปิดหัวตา (Epicanthoplasty)

 
เป็นการขยายความกว้างและเพิ่มมิติความโค้งให้กับดวงตา ทำให้บริเวณหัวตาชัดขึ้น ดวงตากลมโตและยาวขึ้น
 
เหมาะกับใคร?
 
 

ข้อดี การเปิดหัวตา

ข้อเสีย การเปิดหัวตา

ทำให้ตาดูกลมโตขึ้น โดยไม่ต้องใส่บิ๊กอาย หรือไม่ต้องเสียเวลาแต่งเมคอัพรอบดวงตามากเป็นพิเศษ

ทำให้ตาโปน ตาเหลือก ดูไม่เป็นธรรมชาติ หากเปิดหัวตามากเกินไป ซึ่งเกิดขึ้นจากการผ่าตัดโดยศัลยแพทย์ที่ไม่ชำนาญ

สามารถทำร่วมกับการศัลยกรรมตาสองชั้นอื่นๆ เพื่อให้ผลลัพธ์เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนขึ้น

เสี่ยงทิ้งรอยแผลเป็นไว้ที่เปลือกตา หากผ่าตัดโดยศัลยแพทย์ที่ไม่ชำนาญ

 


 

เปิดหางตา (Lateral Canthoplasty)

การเปิดหางตา

 
เป็นการผ่าตัดแก้ไขปัญหาตาแคบ รูปตาสั้นได้ตรงจุดที่สุด ซึ่งวิธีผ่าตัดจะเป็นการผ่ากรีดบริเวณหางตาบน และหางตาล่าง ขึ้นอยู่กับรูปตาเดิมของคนไข้ว่ามีปัญหาบริเวณไหน
 
เหมาะกับใคร?
 

ข้อดี การเปิดหางตา

ข้อเสีย การเปิดหางตา

ช่วยปรับรูปตามให้เรียวยาวขึ้น ทำให้โครงหน้าสวยขึ้น

อาจมีรอยช้ำแดง อักเสบบริเวณหางตา ซึ่งจะค่อยๆ หายได้ แต่ควรดูแลรักษาแผลอย่างถูกวิธี

สามารถทำร่วมกับศัลยกรรมตาแบบอื่น เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดีและชัดเจนมากยิ่งขึ้น

เพื่อให้ได้รูปตาที่ยาวสมส่วนควรทำกับศัลยแพทย์ที่เชี่ยวชาญโดยเฉพาะ

 


 

เย็บเก็บหนังตาตกไว้ใต้ท้องคิ้ว (Sub eyebrow surgery)

เป็นการแก้ปัญหาผิวหนังตาที่หย่อนคล้อยจนมองไม่เห็นชั้นตา ด้วยการกรีดเปิดแผลบริเวณใต้ท้องคิ้ว เพื่อเก็บส่วนเกินของหนังตาและเย็บให้เรียบเนียนที่สุด
 
เหมาะกับใคร?
 

ข้อดี เย็บหนังตาตกใต้ท้องคิ้ว

ข้อเสีย เย็บหนังตาตกใต้ท้องคิ้ว

สามารถทำให้เกิดชั้นตาได้ชัดเจน โดยไม่ต้องกรีดทำตาสองชั้น 

สามารถเกิดรอยแผลเป็นจางๆบริเวณใต้ท้องคิ้ว 

ให้ผลลัพธ์ถาวร 

ไม่สามารถแก้ปัญหากล้ามเนื้อตาอ่อนแรงได้

 


 

เกลี่ยไขมันใต้ตา (TCSR )

 
เป็นวิธีการสร้างชั้นตาให้สวยงามด้วยการเอาไขมันใต้ตาที่เป็นก้อน หรือไขมันส่วนเกินใต้ตาออก หลังจากนั้นก็จะทำการเกลี่ยไขมันบริเวณเปลือกตาให้เรียบเนียน
 
เหมาะกับใคร?
 
 

ข้อดี เกลี่ยไขมันใต้ตา

ข้อเสีย เกลี่ยไขมันใต้ตา

สุขภาพผิวใต้ตาและบริเวณใกล้เคียงดีขึ้น เพราะกระบวนการเกลี่ยไขมันจะเข้าไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว

หลังผ่าตัดใต้ตา ในผู้ที่มีปัญหาใต้ตาคล้ำ อาจเกิดขึ้นได้อีก

ใช้เวลาพักฟื้นน้อยมาก

ไม่สามารถแก้ปัญหาใต้ตาลึกได้ 

ผลลัพธ์อยู่นาน เกือบถาวร

 

 


 

ยกกระชับใต้ตา (LB)

 

ยกกระชับตา

 
เป็นการแก้ไขปัญหาเนื้อเยื่อใต้ตาที่หย่อนคล้อยลงมา ส่งผลให้ผิวใต้ตาบวมนูน เหมือนคนเพิ่งร้องไห้อย่างหนัก โดยการกรีดเปิดแผลบริเวณผิวตาล่าง คล้ายๆ การเกลี่ยไขมันใต้ตา แต่จะเป็นการดึงเอาเนื้อเยื่อส่วนเกินออกมาแล้วเย็บปิดแผลแบบดึงผิวหนังให้เรียบเนียน
 
เหมาะกับใคร?
 

ข้อดี ยกกระชับใต้ตา

ข้อเสีย ยกกระชับใต้ตา

ช่วยกระชับผิวบริเวณใต้ตาไปจนถึงเนินแก้มได้

เสี่ยงใต้ตาโบ๋ลึก หากเอาเนื้อเยื่อ หรือไขมันใต้ตาออกเยอะเกินไป 

 


 

ยกกระชับหน้าผาก (Endotine)

endotine

เป็นการแก้ปัญหาชั้นตาหลบใน อันเกิดจากผิวหนังตาบนขึ้นไปจนถึงผิวหน้าผากมีความหย่อนคล้อยระดับรุนแรง ซึ่งเกิดได้เยอะมากในผู้ที่มีอายุมาก 
 
เหมาะกับใคร?
 
 

ข้อดี ยกกระชับหน้าผาก

ข้อเสีย ยกกระชับหน้าผาก

แทบมองไม่เห็นรอยแผลผ่าตัด เพราะเป็นการผ่าตัดขนาดเล็ก

หลังทำเสร็จ อาจมีความรู้สึกตึงและปวดบริเวณหน้าผาก แต่จะหายได้เองใน 1 - 2 สัปดาห์

แผลหายไว ใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน

 

ปลอดภัยสูง เพราะ Endotine เอนโดไทน์ เป็นวัสดุ ได้รับมาตรฐานจาก FDA จากอเมริกา

 

 


 

เลือกศัลยแพทย์ทำตาสองชั้น อย่างไรให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี

  1. มีใบอนุญาตวิชาชีพที่ตรวจสอบได้
  2. ดูแลคนไข้แบบ 1:1 คือเป็นผู้ให้คำปรึกษา เลือกเทคนิคการรักษา ลงมือผ่าตัด ตลอดจนดูแลแผลหลังผ่าตัดด้วยตัวคนเดียว ไม่มีการสับเปลี่ยนแพทย์กลางคัน
  3. มีวิสัญญีแพทย์คอยควบคุมดูแลและเป็นคนวางยาสลบ และยาชาเองทุกขั้นตอน ต้องไม่ใช่พนักงานทั่วไปทำ
  4. ใช้เครื่องมือผ่าตัด ที่ทันสมัย ได้มาตรฐาน สะอาด
  5. มีเครื่องมือฉุกเฉินที่ครบครัน เพื่อป้องกันอันตรายอันเกิดขึ้นได้ตลอดการผ่าตัด
 

ปัญหาที่คนไข้มักสงสัยเกี่ยวกับการทำตาสองชั้น

หลังทำตาสองชั้น สามารถแต่งหน้าได้ไหม?
: ควรเว้นระยะการแต่งหน้าออกไปประมาณ 7 วัน เพื่อให้แผลผ่าตัดสมานตัวและแห้งดีเสียก่อน
 
เมื่อแผลผ่าตัดแห้ง จำเป็นต้องให้แพทย์ตัดไหมหรือไม่?
: หลังผ่าตัดทำตาสองชั้น ไม่ว่าจะเป็นแบบเย็ดจุด หรือแบบกรีดเปิดแผล ยังไงก็ควรให้แพทย์เป็นคนตัดไหม ซึ่งแพทย์จะนัดตัดไหมเมื่อผ่าตัดไปแล้ว 1 สัปดาห์เป็นอย่างต่ำ
 
อาการบวมช้ำ จะหายช้า เกี่ยวกับการดื่มแอลกอฮอล์จริงไหม?
: เครื่องดื่มแฮลกอฮอล์เมื่อดื่มเข้าไป ร่างกายจะกักตุนน้ำเอาไว้ ทำให้บวมน้ำส่งผลให้แผลที่บวมยุบลงช้าลงได้
 
 

สรุป

 
ประการแรกของผู้ที่ต้องการทำตาสองชั้น มักเป็นปัญหาของความสวยงาม ภาพลักษณ์ ความมั่นใจในตัวเอง แต่ลำดับต่อมาที่คนไข้จะต้องคำนึงถึงคือสภาพผิว กล้ามเนื้อ เนื้อเยื่อ ไขมัน อันเป็นองค์ประกอบโดยรวมของบริเวณดวงตา ซึ่งศัลยแพทย์ หรือจักษุแพทย์ที่เชี่ยวชาญเท่านั้นจะเป็นที่ปรึกษาที่ดีที่สุด และให้ผลที่ดีที่สุด
 
แหล่งที่มาข้อมูลจากเว็บไซต์ : https://www.suiplasticsurgery.com/content/eye-surgery/double-eyelid/

บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที