ฉีดโบท็อกซ์ลดกราม แต่ละยี่ห้ออยู่ได้นานแค่ไหน ราคาต่อยูนิตละเท่าไหร่?
การฉีดโบท็อกลดกราม เป็นอีกหนึ่งวิธีที่หลายๆคนเลือกใช้เพื่อแก้ปัญหาหน้าบาน หน้าใหญ่ กรามกว้าง เพราะปัญหาเหล่านี้ส่งผลให้หลายๆคนหมดความมั่นใจในตัวเอง ไม่มั่นใจในรูปหน้าของตัวเอง ซึ่งหลายๆคนอาจคิดว่ายิ่งฉีดโบท็อกลดกรามจำนวนเยอะๆ หน้าเราจะยิ่งเล็กลงแน่ๆ ซึ่งไม่จริงเลย วันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับการฉีดโบท็อกลดกรามมากยิ่งขึ้น และวิธีเลือกการฉีดโบท็อกลดกรามยังไงให้คุ้มและปลอดภัย พร้อมผลลัพธ์ความสวยเต็มร้อย
การฉีดโบท็อกซ์ลดกรามคืออะไร
โบท็อกลดกรามคือ การนำโบท็อกที่เป็นสารสกัดจากแบคทีเรียมาฉีดเพื่อปรับรูปหน้า ออกฤทธ์ไม่ให้กล้ามเนื้อบริเวณกรามขยับได้ จนส่งผลให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีด อย่างเช่น บริเวณกราม มีขนาดเล็กลง ด้วยผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจนี้ ส่งผลให้การฉีดโบท็อกลดกรามมีความนิยมอย่างมาก เพราะจะช่วยคนที่มีลักษณะใบหน้าที่เห็นกรามชัดให้ใบหน้าดูสมส่วนมากยิ่งขึ้น
ใครที่เหมาะกับการฉีดโบท็อกลดกราม
การฉีดโบท็อกลดกรามเหมาะสำหรับทุกคนที่อยากมีใบหน้าเรียว เล็กลง และได้สัดส่วนอย่างอเป็นธรรมชาติ โดยสามารถแบ่งกลุ่มได้ดังนี้
-
ผู้ที่มีปัญหากรามใหญ่จากกล้ามเนื้อบริเวณกราเยอะเกินไป
-
ผู้ที่ต้องการลดขนากรามใหญ่อย่างเป็นธรรมชาติ
-
ผู้ที่ปัญหากรามใหญ่และมีงบประมาณในการลดขนาดกรามอยู่ที่หลักพันขนถึงหมื่นต้นๆ
-
ผู้ที่อยากลดขนาดกรามชั่วคราว และไม่อยากทำการผ่าตัด
-
ผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์ของการลกขนาดกรามอย่างรวดเร็วและไม่ต้องพักฟื้น
โบท็อกกราม VS เมโสแฟตต่างกันอย่างไร
ที่จริงแล้วทั้งโบท็อกกรามและเมโสแฟตต่างเป็นวิธีแก้ไขปัญหาใบหน้าใหญ่ และช่วยลดขนาดใบหน้าให้เรียวแย่างเป็นธรรมชาติ แต่มีวิธีการออกฤทธิ์และหลักการทำงานต่างกันดังนี้
โบท็อกกราม จะเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหน้าใหญาจากกล้ามเนื้อ เพราะโบท็อกจะเข้าไปลดการทำงานของกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีด ส่งผลให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นเล็กลง
เมโสแฟต จะเหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันส่วนเกินบนใบหน้า เช่นไขมันสะสมที่แก้ม ใต้คาง เหนียง เป็นต้นตอของปัญหาใบหน้าใหญ่ ซึ่งสามารถฉีดเมโสแฟตสลายไขมันได้
โบท็อกกรามต้องฉีดกี่ครั้งถึงจะเห็นผล
โดยทั่วไปแล้วระยะเวลาการเห็นผลของการฉีดโบท็อกลดกรามจะอยู่ที่ 2-3 วันหลังฉีด และจะเห็นผลลัพธ์อย่างเต็มที่เมื่อผ่านไป 1-2 สัปดาห์ แต่ผลลัพธ์ที่ชัดเจนก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยเช่นกัน ทั้งยี่ห้อของโบท็อก ขนาดของกล้ามเนื้อ และความเชี่ยวชาญของแพทย์ที่ทำการฉีด
ผลลัพธ์หลังฉีดโบท็อกลดกราม แต่ละยี่ห้ออยู่ได้นานแค่ไหน
ผลลัพธ์หลังการฉีดโบท็อกลดกราม โดยทั่วไปแล้วสามารถคงผลลัพธ์อยู่ได้ 5-6 เดือน และขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองหลังฉีดด้วย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของแต่ละยี่ห้อด้วย โดยมีรายละเอียดดังนี้
Nabota Botox นำเข้าจากประเทศเกาหลี จุดเด่นออกฤทธิ์ค่อนข้างไว ช่วยให้ริ้วรอยลดลงไว ช่วยลดอาการดื้อยาโบท็อกซ์ได้ดี หลังฉีดสามารถอยู่ได้ประมาณ 4-5 เดือน
ราคา :
50 ยูนิต ราคา 3,696 บาท
100 ยูนิต ราคา 5,696 บาท
Allergan Botox นำเข้าจากประเทศอเมริกา จุดเด่นคือสามารถเห็นผลลัพธ์ได้รวดเร็ว และผลลัพธ์คงอยู่ได้อย่างยาวนาน เนื่องจากตัวยามีโมเลกุลใหญ่ทำให้สามารถควบคุมการกระจายตัวได้ดี หลังฉีดอยู่ได้ประมาณ 4-6 เดือน
ราคา : 100 ยูนิต 18,000 บาท
Xeomin Botox นำเข้าจากประเทศเยอรมัน จุดเด่นคือเห็นผลหลังทำภายใน 3 วัน นอกจากนั้นตัวยายังการกระจายตัวจะดีกว่าเพราะมีโมเลกุลของโบท็อกมีขนาดเล็ก เหมาะมากกับลูกค้าที่ต้องการลดริ้วรอย อยู่ได้ประมาณ 4-6 เดือน
ราคา : 100 ยูนิต ราคา 12,323 บาท
เลือกคลินิกฉีดโบท็อกลดกรามอย่างไรให้ปลอดภัย
ปัจจุบันนี้คลินิกเสริมความงามได้มีขึ้นมามากมายให้เราได้เลือกสรรตามความสะดวกและความสนใจเลย ซึ่งสามารถตรวจสอบคลินิกเสริมความงามที่ได้มาตรฐานได้ง่ายๆตามขั้นตอนต่อไปนี้
-
คลินิกเสริมความงามต้องมีใบอนุญาตการเปิดคลินิก และมีเลข 11 หลัก ที่สามารถตรวจสอบได้ โดยทั่วใบคลินิกที่ได้รับอนุญาตจะมีเลข และใบอนุญาตการเปิดคลินิกให้ผู้ใช้บริการได้เห็นอย่างชัดเจน
-
มีรายชื่อแพทย์ประจำคลินิก พร้อมใบอนุญาตให้ตรวจสอบได้อย่างชัดเจน และต้องมีรูปใบหน้าของแพทย์และชื่อติดอยู่ในคลินิกด้วย เพื่อให้ผู้เข้ารับบริการมั่นใจว่าแพทย์ที่บนป้าย กับคนที่ฉีดโบท็อกให้คือคนเดียวกัน
-
ต้องเปิดขวดโบท็อกขวดใหม่ก่อนฉีด และเปิดต่อหน้าผู้เข้ารับบริการเสมอ
-
มีที่ตั้งของคลินิกที่ชัดเจน สามารถนัดเข้าไปปรึกษากับแพทย์ได้ก่อนเสมอ และมีช่องทางการติดต่อที่สะดวกและชัดเจน
-
มีรีวิวจากผู้เข้ารับบริการจริงที่เชื่อถือได้
วิธีการตรวจสอบโบท็อกที่ได้มาตรฐาน
การฉีดโบท็อกลดกรามให้เห็นผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ และมีความปลอดภัย ผู้เข้ารับบริการควรมีความรู้เรื่องการตรวจสอบโบท็อกแท้ด้วย เพื่อให้แน่ใจว่าโบท็อกที่จะฉีดเข้าร่างกายของเราเป็นของแท้ โดยสามารถตรวจสอบได้ดังนี้
-
สภาพก่องโบท็อกอยู่ในสภาพสมบูรณ์และแกะกล่องใหม่ต่อหน้าผู้เข้ารับบริการทุกครั้ง
-
ข้างกล่อมมีซีลใสป้องกันการเปิด
-
มีเลขทะเบียนอย.ชัดเจนและมีเอกสารกำกับภาษาไทย
-
มีเลข Lot การผลิต ซึ่งจะมีด้วยกัน 2 จุด ที่กล่องและขวดและต้องเป็นเลขเดียวกัน
-
โบท็อกเป็นสีขุ่นเคลือบที่ก้นขวด และต้องใช้เข็มน้ำเกลือดูดตัวยาออกมาผสมก่อนฉีด
การดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกลดกราม
การเห็นผลหลังการฉีดโบท็อกลดกราม และการรักษาผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจเอาไว้ ต่างมีส่วนขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกลดกรามเช่นกัน ซึ่งการดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกลดกรามสามารถทำได้ดังนี้
-
ควรนอนหมอนสูงในคืนแรกหลังฉีดโบท็อกลดกราม และห้ามนอนราบในช่วง3-4 ชั่วโมงแรกหลังฉีด
-
ประคบเย็นบริเวณที่ฉีดหากมีอาการบวมแดง
-
ขยับกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดบ่อยๆในช่วง 1-2 ชั่วโมงแรกหลังฉีด เพื่อให้โบท็อกกระจายตัวเข้ากล้ามเนื้อมากที่สุด
-
งดการนวด หรือบีมบริเวณที่ฉีดโบท็อกลดกราม รวมถึงงดการใส่อุปกรณ์หรือกิจกรรมที่เกิดแรงกดบริเวณที่ฉีด
-
สามารถแต่งหน้าได้ แต่ควรเบามือ หรืออย่าสัมผัสผิวบริเวณที่ฉีดแรงๆ
-
งดกิจกรรมที่เกียวกับความร้อน เช่น เข้าซาวน่า และงดการออกกำลังกายอย่างหนักในช่วง 4 ชั่วโมงแรกหลังฉีด
-
งดทายาในกลุ่มที่มีกรด เช่นวิตามินเอ หรือวิตามินซีในช่วง 24 ชั่วโมงแรกหลังฉีด
การฉีดโบท็อกลดกรามให้คุ้มและปลอดภัย ควรรู้ก่อนเลยว่าปัญหาหน้าใหญ่ของเรานั้นเกิดจากอะไร กระดูก ไขมัน หรือกล้ามเนื้อ เพราะโบท็อกเป็นสารสกัดที่เข้าไปทำงานกับกล้ามเนื้อ ที่ทำให้กล้ามเนื้อทำงานน้อยลงและส่งผลให้มีขนาดเล็กลง หากปัญหาหน้าใหญ่ของเราเกิดจากกระดูกและไขมัน ต่อให้ฉีดโบท็อกหมดคลินิกก็คงไม่สามารถเห็นผลลัพธ์ที่น่าถึงพอใจได้ เรียกได้ว่าหากรู้ปัญหาที่แท้จริง สามารถแก้ปัญหาได้ถูกจุด ก็สามารถเลือกฉีดโบท็อกลดกรามได้คุ้มและปลอดภัย
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที