metahealth

ผู้เขียน : metahealth

อัพเดท: 27 ก.พ. 2024 11.17 น. บทความนี้มีผู้ชม: 3148 ครั้ง

ความรู้ด้านการทำศัลยกรรมและหัตถการความงาม


โบท็อกริ้วรอยต้องฉีดกี่ยูนิตถึงจะหาย ฉีดจุดไหนได้บ้าง?

โบท็อกหัตถกรรมเสริมความงามที่เรียกได้ว่าได้รับความนิยมอย่างมากในการแก้ไขปัญหาริ้วรอย ปรับใบหน้าให้เข้ารูป หรือแม้แต่การระงับเหงื่อ หลายๆคนอาจจะมีคำถามว่าโบท็อกริ้วรอยต้องฉีดกี่ยูนิตถึงจะหาย? ควรจะเลือกรุ่นและยี่ห้อไหนดีเพื่อให้ความเป็นธรรมชาติมากที่สุด? บทความนี้เราจะมาตอบคำถามนี้ของทุกคนกัน
 
ริ้วรอยบนใบหน้า

โบท็อกคืออะไร 

โบท็อก หรือชื่อเต็มเรียกว่า โบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ ( Botulinum toxin type A) คือสารสกัดโปรตีนชนิดหนึ่งจากแบคทีเรีย โดยจะออกฤทธิ์ไปรบกวนการทำงานของระบบประสาท ซึ่งจะมีผลทำให้มัดกล้ามเนื้อลดการทำงานชั่วคราว จนสามารถช่วยเรื่องลดริ้วรอยเหี่ยวย่น และปรับรูปหน้าได้เป็นอย่างดี 
 
จนเป็นที่มาว่าทำไมโบท็อกจึงถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายในวงการเสริมความงาม จนได้รับความนิยมอย่างมากในการทำมาแก้ไขปัญหาริ้วรอย และปรับรูปหน้า นอกจากนี้ยังสามารถฉีดคอบ่าไหล่ เพื่อให้คอดูยาวเป็นระหงได้ด้วย หรือการฉีดโบท็อกเพื่อระงับเหงื่อบริเวณฝ่ามือ รักแร้ ก็สามารถทำได้เช่นกัน 
 

ผลดีของการฉีดโบท็อก

สำหรับการฉีดโบท็อกนั่นค่อนข้างมีผลดีมากมาย และหลากหลาย เพราะตัวยาโบท็อกสามารถฉีดได้หลายจุด หลายตำแหน่งนั่นเอง ซึ่งผลดีของการฉีดโบท็อกที่เราเห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจนมีดังนี้
 
 

โบท็อกฉีดบริเวณใดได้บ้าง

โดยทั่วไปแล้วโบท็อกสามารถนำมาฉีดได้หลายจุดของร่างกายเลย เพราะโบท็อกเป็นการฉีดเข้ากล้ามเนื้อจึงสามารถนำมาฉีดได้หลากหลาย ไม่ว่าทั้งกล้ามเนื้อขา ใบหน้า ฝ่ามือ ซึ่งบริเวณที่สามารถฉีดโบท็อกได้มีดังนี้ 
 
ตำแหน่งที่นิยมฉีดลดริ้วรอย
 
1. บริเวณใบหน้า สำหรับการฉีดโบท็อกบริเวณใบหน้าจะเน้นไปที่การลดเรือนริ้วรอย และทำให้หน้าเข้ารูปมากยิ่งขึ้น 
 
2. บริเวณคอ บ่า ไหล่
 
สำหรับการฉีดโบท็อกซ์บริเวณคอ บ่า ไหล่ จะช่วยแก้ไขปัญหาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อบริเวณนี้ได้ และยังช่วยทำให้คอยาวดูเป็นเข้าสัดส่วนเป็นระหงมากยิ่งขึ้นอีกด้วย 
 
3. บริเวณฝ่ามือ ฝ่าเท้า รักแร้ 
 
การฉีกโบท็อกบริเวณฝ่ามือ ฝ่าเท้า รักแร้ มักจะเป็นการฉีกโบท็อกเพื่อลดเหงื่อนั่นเอง 
 
ฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยกี่ยูนิตถึงเหมาะสม

โบท็อกริ้วรอยต้องฉีดกี่ยูนิต 

สำหรับการฉีดโบท็อกลดริ้วรอยจะต้องฉีดกี่ยูนิตถึงจะเห็นผล คงจะเป็นคำถามที่หลายๆคนสงสัย แต่จำนวนยูนิตของโบท็อกที่จะใช้ จะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล และรวมจุดที่เราต้องการจะฉีดอีกด้วย ซึ่งมักจะใช้จำนวนยูนิตเริ่มต้นตั้งแต่ 50-100 ยูนิตขึ้นไป ซึ่งจำนวนยูนิตของการฉีดโบท็อกจะต้องให้แพทย์ทำการประเมินให้ บางคนอาจจะใช้น้อยกว่าหรือมากกว่านี้ก็ได้ 
 
โบท็อกแต่ละยี่ห้อต่างกันไหม

เลือกโบท็อกยี่ห้อและรุ่นไหนดี? 

สำหรับโบท็อกที่ได้รับความนิยมในไทยมีหลากหลายยี่ห้อ หลากหลายรุ่น จากหลากหลายประเทศผู้ผลิต ซึ่งแต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่นของโบท็อกก็จะมีอายุการใช้งาน การคงสภาพของโบท็อกได้แตกต่างกัน 
 
1. โบท็อกเยอรมัน 
 
สำหรับโบท็อกเยอรมันก็คือ Xeomin จะเป็นการเอาข้อดีของโบท็อก Allergan และ Dysport มารวมกัน จนได้คุณสมบัติต่างๆที่อยู่กึ่งกลางระหว่างโบท็อกอเมริกาและโบท็อกอังกฤษนั่นเอง โบท็อกเยอรมันตัวนี้จะมีความบริสุทธิ์ของตัวยาสูง และตัวกระจายตัวได้ดี ไม่มีการกระจุกตัวกันมากจนเกินไป และยังมีผลวิจัยรับรองว่าโบท็อกตัวนี้สามารถออกฤทธิ์ได้แม้แต่ในเคสที่มีปัญหาดื้อโบท็อก
 
2. โบท็อกอเมริกา 
 
โบท็อกอเมริกาก็คือ Allergan เป็นบริษัทต้นกำเนิดของโบท็อกนั่นเอง อีกทั้งยังมีผลการวิจัยรับรองมากมายอีกด้วย สำหรับโบท็อกตัวนี้ ตัวยาจะมีการกระจายตัวแคบ แต่จะมีข้อดีตรงที่เพราะความแคบของตัวยาจะทำให้มีความแม่นยำในการฉีดนั่นเอง อีกทั้งยังมีการพัฒนาเพื่อให้โบท็อกที่ฉีดออกไปมีการดื้อยาน้อยที่สุดอีกด้วย 
 
3. โบท็อกอังกฤษ 
 
โบท็อกอังกฤษก็คือ Dysport ซึ่งโบท็อกตัวนี้จะมีการกระจายยาอย่างทั่วถึง ไม่เป็นกระจุกในวงแคบ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการฉีดเพื่อลดริ้วรอยและหวังให้เห็นผลลัพธ์อย่างเป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังเหมาะกับการฉีดเพื่อยกกระชับกรอบหน้า รวมไปถึงการฉีดตามจุดต่อมเหงื่อไม่ว่าจะรักแร้ ฝ่ามือ ฝ่าเท้า ช่วยลดเหงื่อ และกลิ่นตัวได้เป็นอย่างดี 
 
4. โบท็อกเกาหลี 
 
สำหรับโบท็อกเกาหลีจะมีหลากหลายตัวด้วยกัน คือ Nabota, Aestox, Hugel โดยโบท็อกเกาหลีส่วนใหญ่จะเน้นพัฒนาเพื่อให้ออกฤทธิ์ได้ไวเทียบเท่ากับโบท็อกของอเมริกา แต่เน้นราคาเป็นมิตรมากกว่านั่นเอง
 
- Nabota
สำหรับ Nabota เป็นโบท็อกเกาหลีที่ได้ผ่านงานวิจัยรับรองจาก อย.อเมริกา ซึ่งโบท็อกตัวนี้สามารถออกฤทธิ์ได้ไว เห็นผลลัพธ์หลังฉีดได้ค่อนข้างเร็ว เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ต้องการผลแบบเร่งด่วน และนิยมใช้ในการฉีดลดริ้วรอย
- Aestox 
โบท็อกเกาหลี Aestox เป็นโบท็อกที่ได้รับรองจาก อย.ไทย ว่ามีความปลอดภัย และตัวยามีความบริสุทธิ์สูง ซึ่งสามารถช่วยลดโอกาสการดื้อยาได้ อีกทั้งยังสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ไว ให้ผลลัพธ์หลังฉีดอย่างเป็นธรรมชาติอีกด้วย
- Hugel 
สำหรับโบท็อก Hugel อีกหนึ่งตัวจากโบท็อกเกาหลีที่ผ่าน อย.ไทย มีว่าบริสุทธิ์ของตัวยาสูง ออกฤทธิ์ได้ไว อีกทั้งตัวยากระจายตัวได้แคบ จึงสามารถแกไขปัญหาได้อย่างแม่นยำและตรงจุดนั่นเอง 
 

วิธีเช็กโบท็อกแท้ 

การฉีดโบท็อกเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจและมีความปลอดภัย เราจะต้องฉีดโบท็อกแท้เท่านั้น ซึ่งโบท็อกแท้จะสามารถตรวจเช็กได้ง่ายๆจากการดูบนฝานั่นเอง เพราะฝาจะต้องมีพลาสติกคลุมอยู่ มีการระบุวันผลิต วันหมดอายุชัดเจน และบริษัทนำเข้าอย่างชัดเจน อีกทั้งยังจะต้องมีภาษาไทยกำกับเพื่อให้แน่ใจว่าโบท็อกตัวนั้นได้รับการรับรองมาตรฐานจาก อย. ไทยเรียบร้อย 
 

ฉีดโบท็อกกี่วันเห็นผล 

สำหรับการออกฤทธิ์จนสามารถเห็นผลลัพธ์หลังจากทำการฉีดโบท็อกจะมีระยะเวลาที่แตกต่างออกไป ขึ้นอยู่กับตัวโบท็อกที่เราเลือก และจุดที่เราต้องการฉีดโบท็อก 

โบท็อกต้องฉีดซ้ำไหม

สำหรับการฉีดโบท็อกจะสามารถคงสภาพได้อยู่ประมาณ 6 เดือน และควรจะต้องฉีดซ้ำหลังจากนั้น เพื่อคงสภาพของผลลัพธ์หลังฉีดโบท็อกให้น่าพึงพอใจอยู่เสมอ อย่างไรก็ตามไม่ควรฉีดโบท็อกถี่จนเกินไป เพราะอาจจะทำให้มีภาวะดื้อโบท็อกได้นั่นเอง แต่ก็ไม่ควรเว้นระยะเวลาการฉีดโบท็อกนานจนเกินไป เพราะจะทำให้การฉีดรอบหน้าจะต้องใช้จำนวนยูนิตโบท็อกมากขึ้นอีกด้วย 
 

ฉีดโบท็อกริ้วร้อยอันตรายไหม หน้าเบี้ยวไหม 

สำหรับการฉีดโบท็อกแท้ที่ผ่านการรับรองจาก อย. ไทย เรียบร้อยต้องบอกเลยว่ายังไม่เคยมีรายงานการเสียชีวิต หรือเป็นอันตรายต่อผู้ที่เข้ารับการฉีดโบท็อก ซึ่งโบท็อกที่ผ่านการรับรอง ผู้เข้าฉีดสามารถมั่นใจได้เลยว่าเป็นโบท็อกที่ได้มาตรฐานและปลอดภัย ไม่มีสารตกค้างให้ตรงกังวลใจ ไม่ทำให้หน้าเบี้ยวด้วย 
 

ฉีดโบท็อกริ้วรอยที่ไหนดี 

สำหรับการเลือกคลินิกเสริมความงามเพื่อฉีดโบท็อกนั่น เป็นอีกหนึ่งขั้นตอนที่สำคัญมาก เพราะการฉีดตัวยาโบท็อกเป็นการฉีดเข้ากล้ามเนื้อ ดังนั้นต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและคลิกนิคที่ได้รับมาตรฐาน ดังนี้ 
 
1. คลินิกเสริมความงาม หรือสถานพยาบาลต้องได้รับจากรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข มีใบอนุญาตการเปิด และเลขที่ใบอนุญาต 11 หลักที่สามารถเห็นได้ชัดเจ และตรวจสอบได้ 
2. ต้องแพทย์ผู้เชี่ยวชาญประจำคลินิกและรับการฉีดโบท็อกจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น 
3. โบท็อกต้องเปิดใหม่ทุกขวดต่อหน้าคนไข้ก่อนทำการฉีด 
4. คลินิกมีหลายสาขาเพื่อความสะดวกในการเข้ารับบริการ ที่ช่องทางการติดต่อชัดเจน 
5. มีรีวิวจากผู้เข้ารับบริการจริง เพื่อความน่าเชื่อถือ และตัวอย่างผลลัพธ์ 
 

สรุป 

สำหรับการฉีดโบท็อกริ้วรอยจะต้องใช้ยูนิตที่แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับปัญหาที่เรากังวลและตัวโบท็อกที่เราเลือกใช้ โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินจำนวนยูนิตแบบคนต่อคนเลย โดยทั่วไปมักจะใช้จำนวนยูนิตอยู่ที่ 50-100 ยูนิต อาจจะมากหรือน้อยกว่านี้ ขึ้นอยู่กับปัญหาริ้วรอยของแต่ละคนนั่นเอง อย่างไรก็ตามปัจจุบันมีโบท็อกหลากหลายยี่ห้อ หลากหลายรุ่นในตลาดเสริมความงาม ซึ่งจะให้ผลลัพธ์ และแก้ปัญหาในแต่ละจุดที่แตกต่างกันไปนั่นเอง ควรจะเลือกโบท็อกของแท้ที่ผ่านการรับรองจากอย.ไทย เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาน่าพึงพอใจมากที่สุด 
 
อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์
https://www.gangnamconsult.com/wrinkles-botox-inject/

บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที