เงินด่วน ที่ไหนดี

ผู้เขียน : เงินด่วน ที่ไหนดี

อัพเดท: 11 มี.ค. 2023 10.44 น. บทความนี้มีผู้ชม: 12766 ครั้ง

ธรรมะ


บทสวดคาถาชินบัญชรฉบับเต็มและฉบับย่อ เสริมมงคลชีวิต มีเมตตามหานิยม

บทสวดคาถาชินบัญชรเป็นบทสวดที่มีความขลังมีความศักดิ์สิทธิ์มากหากเทียบกับคาถาอื่นๆ สามารถท่องได้ทุกคนเพื่อให้แคล้วคลาดปลอดภัย ชีวิตดีขึ้น มีโชคลาภ เจริญรุ่งเรืองมากขึ้น แต่นอกจากข้อดีก็ยังมีข้อเสียด้วยเช่นกันคือไม่ควรสวดเล่น ต้องสวดให้จบ และต้องมีสมาธิในขณะที่กำลังสวดด้วยเช่นกัน

คาถาชินบัญชร

 

คาถาชินบัญชรคืออะไร

พระคาถาชินบัญชรเป็นพระที่อัญเชิญมาจากลังกาและสืบทอดโดยสมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังษี มันถูกค้นพบในคัมภีร์โบราณและได้รับการแก้ไขเพื่อให้มีเอกลักษณ์และพิเศษยิ่งขึ้น ผู้ที่สวดคาถาเป็นประจำจะมีความเจริญรุ่งเรือง ทำให้เกิดความสิริมงคลแก่ตัวเอง ศัตรูไม่กล้ากล้ำกราย มีเมตตามหานิยม และขจัดภัยตลอดจนคุณไสยต่าง ๆ ทั้งปวง ช่วยให้แคล้วคลาดภยันตรายรวมถึงอาถรรพ์อาถรรพ์ต่างๆ

 

คำก่อนสวดคาถาชินบัญชร

ก่อนเจริญภาวนาให้ตั้งนะโม 3 จบ นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (3 จบ)  แล้วระลึกถึงสมเด็จพระพุฒาจารย์ และตั้งคำอธิษฐานจากนั้นจึงเริ่มสวดคาถาชินบัญชร

 

บทสวด คาถาชินบัญชร

สำหรับบทสวดคาถาชินบัญชรจะมีทั้งแบบเต็มและแบบย่อผู้ใช้สามารถเลือกบทสวดได้ตามที่ตนเองสะดวกได้เลย ซึ่งบทสวดคาถาชินบัญชรมีดังนี้

บทสวดคาถาชินบัญชร ฉบับย่อ

ชิ นะ ปัญ ชะ ระ ปะ ริต ตัง มัง รัก ขะ ตุ สัพ พะ ทา (9 จบ)

บทสวดคาถาชินบัญชร ฉบับเต็ม

ปุตตะกาโมละเภปุตตัง ธะนะกาโมละเภธะนัง

อัตถิกาเยกายะญายะ เทวานังปิยะตังสุตตะวา

อิติปิโสภะคะวา ยะมะราชาโน ท้าวเวสสุวัณโณ

มรณังสุขัง อะระหังสุคะโต นะโมพุทธายะ

 

ชะยาสะนากะตา พุทธา เชตวา มารัง สะวาหะนัง

จะตุสัจจาสะภัง ระสัง เย ปิวิงสุ นะราสะภา

 

ตัณหังกะราทะโย พุทธา อัฏฐะวีสะติ นายะกา

สัพเพ ปะติฏฐิตา มัยหัง มัตถะเกเต มุนิสสะรา

 

สีเส ปะติฏฐิโต มัยหัง พุทโธ ธัมโม ทะวิโลจะเน

สังโฆ ปะติฏฐิโต มัยหัง อุเร สัพพะคุณากะโร

 

หะทะเย เม อะนุรุทโธ สารีปุตโต จะทักขิเณ

โกณฑัญโญ ปิฏฐิภาคัสมิง โมคคัลลาโน จะ วามะเก

 

ทักขิเณ สะวะเน มัยหัง อาสุง อานันทะ ราหุโล

กัสสะโป จะ มะหานาโม อุภาสุง วามะโสตะเก

เกสันเต ปิฏฐิภาคัสมิง สุริโย วะ ปะภังกะโร

นิสินโน สิริสัมปันโน โสภิโต มุนิปุงคะโว

 

กุมาระกัสสโป เถโร มะเหสี จิตตะ วาทะโก

โส มัยหัง วะทะเน นิจจัง ปะติฏฐาสิคุณากะโร

 

ปุณโณ อังคุลิมาโร จะ อุปาลี นันทะ สีวะลี

เถรา ปัญจะ อิเม ชาตา นะลาเต ติละกา มะมะ

 

เสสาสีติ มะหาเถรา วิชิตา ชินะสาวะกา

เอเตสีติ มะหาเถรา ชิตะวันโต ชิโนระสา

ชะลันตา สีละเตเชนะ อังคะมังเคสุ สัณฐิตา

 

ระตะนัง ปุระโต อาสิ ทักขิเณ เมตตะ สุตตะกัง

ธะชัคคัง ปัจฉะโต อาสิ วาเม อังคุลิมาละกัง

 

ขันธะโมระปะริตตัญจะ อาฏานาฏิยะ สุตตะกัง

อากาเส ฉะทะนัง อาสิ เสสา ปาการะสัณฐิตา

 

ชินา นานาวะระสังยุตตา สัตตัปปาการะ ลังกะตา

วาตะปิตตาทะสัญชาตา พาหิรัช ฌัตตุปัททะวา

 

อะเสสา วินะยัง ยันตุ อะนันตะชินะ เตชะสา

วะสะโต เม สะกิจเจนะ สะทา สัมพุทธะปัญชะเร

 

ชินะปัญชะระมัชฌัมหิ วิหะรันตัง มะฮี ตะเล

สะทา ปาเลนตุ มัง สัพเพ เต มะหาปุริสาสะภา

 

อิจเจวะมันโต สุคุตโต สุรักโข

ชินานุภาเวนะ ชิตุปัททะโว

ธัมมานุภาเวนะ ชิตาริสังโฆ

สังฆานุภาเวนะ ชิตันตะราโย

สัทธัมมานุภาวะปาลิโต จะรามิ ชินะ ปัญชะเรติ

 

คำแปลคาถาชินบัญชร

พระพุทธเจ้าและพระนราสภาทั้งหลาย ผู้ประทับนั่งแล้วบนชัยบัลลังก์ ทรงพิชิตพระยามาราธิราชผู้พรั่งพร้อมด้วยเสนาราชพาหนะแล้ว เสวยอมตรสคืออริยะสัจธรรมทั้งสี่ประการ เป็นผู้นำสรรพสัตว์ให้ข้ามพ้นจากกิเลสและกองทุกข์

มี 28 พระองค์คือ พระผู้ทรงพระนามว่า ตัณหังกร เป็นต้น พระพุทธเจ้าผู้จอมมุนีทั้งหมดนั้น

ข้าพระพุทธเจ้าขออัญเชิญมาประดิษฐานเหนือเศียรเกล้า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ประดิษฐานอยู่บนศีรษะ พระธรรมอยู่ที่ดวงตาทั้งสอง พระสงฆ์ผู้เป็นอากรบ่อเกิดแห่งสรรพคุณอยู่ที่อก

พระอนุรุทธะอยู่ที่ใจพระสารีบุตรอยู่เบื้องขวา พระโมคคัลลาน์อยู่เบื้องซ้าย พระอัญญาโกณทัญญะอยู่เบื้องหลัง

พระอานนท์กับพระราหุลอยู่หูขวา พระกัสสะปะกับพระมหานามะอยู่ที่หูซ้าย

มุนีผู้ประเสริฐคือ พระโสภิตะผู้สมบูรณ์ด้วยสิริดังพระอาทิตย์ส่องแสง อยู่ที่ทุกเส้นขน ตลอดร่างทั้งข้างหน้าและข้างหลัง

พระเถระกุมาระกัสสะปะผู้แสวงบุญทรงคุณอันวิเศษ มีวาทะอันวิจิตรไพเราะอยู่ปากเป็นประจำ

พระปุณณะ พระอังคุลิมาล พระอุบาลี พระนันทะ และพระสีวะลี พระเถระทั้ง 5 นี้ จงปรากฏเกิดเป็นกระแจะจุณเจิมที่หน้าผาก

ส่วนพระอสีติมหาเถระที่เหลือผู้มีชัยและเป็นพระโอรส เป็นพระสาวกของพระพุทธเจ้าผู้ทรงชัย แต่ละองค์ล้วนรุ่งเรืองไพโรจน์ด้วยเดชแห่งศีลให้ดำรงอยู่ทั่วอวัยวะน้อยใหญ่

พระรัตนสูตรอยู่เบื้องหน้าพระเมตตาสูตรอยู่เบื้องขวา พระอังคุลิมาลปริตรอยู่เบื้องซ้าย พระธชัคคะสูตรอยู่เบื้องหลัง

พระขันธปริตร พระโมรปริตร และพระอาฏานาฏิยสูตร เป็นเครื่องกางกั้นดุจหลังคาอยู่บนนภากาศ

อนึ่งพระชินเจ้าทั้งหลาย นอกจากที่ได้กล่าวมาแล้วนี้ ผู้ประกอบพร้อมด้วยกำลังนานาชนิด มีศีลาทิคุณอันมั่นคง สัตตะปราการเป็นอาภรณ์มาตั้งล้อมเป็นกำแพงคุ้มครองเจ็ดชั้น

ด้วยเดชานุภาพแห่งพระอนันตชินเจ้าไม่ว่าจะทำกิจการใด ๆ เมื่อข้าพระพุทธเจ้าเข้าอาศัยอยู่ในพระบัญชรแวดวงกรงล้อม แห่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ขอโรคอุปัทวะทุกข์ทั้งภายนอกและภายใน อันเกิดแต่โรคร้ายคือ โรคลมและโรคดี เป็นต้น เป็นสมุฏฐานจงกำจัดให้พินาศไปอย่าได้เหลือ

ขอพระมหาบุรุษผู้ทรงพระคุณอันล้ำเลิศทั้งปวงนั้น จงอภิบาลข้าพระพุทธเจ้า ผู้อยู่ในภาคพื้น ท่ามกลางพระชินบัญชร ข้าพระพุทธเจ้าได้รับการคุ้มครองปกปักรักษาภายในเป็นอันดีฉะนี้แล

ข้าพระพุทธเจ้าได้รับการอภิบาลด้วยคุณานุภาพแห่งสัทธรรม จึงชนะเสียได้ซึ่งอุปัทวอันตรายใด ๆ ด้วยอานุภาพแห่งพระชินะพุทธเจ้า ชนะข้าศึกศัตรูด้วยอานุภาพแห่งพระธรรม ชนะอันตรายทั้งปวงด้วยอานุภาพแห่งพระสงฆ์ ขอข้าพระพุทธเจ้าจงได้ปฏิบัติ และรักษาดำเนินไปโดยสวัสดีเป็นนิจนิรันดรเทอญฯ

 

ความเป็นมาหรือประวัติของคาถาชินบัญชร

ตามประวัติระบุว่าสมเด็จพระพุฒาจารย์ได้นำพระคาถาชินบัญชรมาสวดถวายพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 และได้รับคำชมว่าสวดได้ไพเราะ ในหลวงจึงตรัสถามว่าครูโตได้แต่งหรือไม่ แต่ สมเด็จพระพุฒาจารย์ ชี้แจงว่า คนล้านนาอาจจะแต่งขึ้นแต่เดิมก็ได้ดัดแปลงบ้างเพื่อให้เป็นที่นิยมและยังปลุกเสกมาจนทุกวันนี้ คาถาลังกานี้ตัดตอนมาแต่พระคาถาชินบัญชรยังคงเป็นบทสวดที่ได้รับความนิยมและนับถือในประเทศไทย

 

พุทธคุณคาถาชินบัญชร หรือ อานุภาพของคาถาชินบัญชร

พระคาถาชินบัญชรนี้ถือว่าศักดิ์สิทธิ์มาก ผู้ที่สวดมนต์หรือท่องเป็นประจำเชื่อว่ามีพลังที่จะเสริมด้านต่างๆในชีวิตของพวกเขา ประโยชน์บางประการที่เกี่ยวข้องกับคาถานี้ ได้แก่ เพิ่มสติและสมาธิ ป้องกันภยันตรายและไสยศาสตร์ เพิ่มเสน่ห์และความเป็นมงคล

 

คาถาชินบัญชรมาจากไหน

พระคาถาชินบัญชรถือเป็นพระคาถาที่สำคัญและทรงอานุภาพมาเป็นเวลาหลายร้อยปี ตั้งแต่ต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ในสมัยรัชกาลที่ 2 จนถึงปัจจุบัน พุทธศาสนิกชนชาวไทยได้อาศัยคาถานี้เพื่อเสริมสิริมงคลและป้องกันตัวจากอันตรายต่างๆ ด้วยอานุภาพ และความศักดิ์สิทธิ์

เป็นเวลาหลายสิบปีที่มีข้อถกเถียงเรื่องการประพันธ์พระคาถาชินบัญชรระหว่างสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พระพรหมรังษี วัดระฆังโฆสิตาราม กับ พระผู้เชี่ยวชาญภาษาบาลีปกรณ์จากเชียงใหม่ แต่เป็นที่ยอมรับกันทั่วไปว่าสมเด็จพระพุฒาจารย์เป็นผู้เผยแพร่บทสวดมนต์เท่านั้นมิได้เป็นผู้ประพันธ์ที่แท้จริง

หลักฐานทางประวัติศาสตร์ระบุว่าสมเด็จพระพุฒาจารย์ได้ปลุกเสกให้พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ซึ่งประทับใจในความงามของบทสวดจึงถามถึงที่มาและคำประพันธ์ ทำให้สันนิษฐานว่าพระภิกษุล้านนาอาจเป็นผู้ประพันธ์คาถาในสมัยพระเจ้าติโลกราชซึ่งถือเป็นยุคทอง

สมัยนั้นมีพระเถระหลายรูปเดินทางไปลังกาเพื่อศึกษาพระไตรปิฎก พอเรียนจบ มีการแข่งขันแต่งบาลีปกรณ์ประโคมข่าว พระไตรปิฎกภาษาบาลีที่แต่งโดยพระภิกษุชาวล้านนาได้แพร่หลายไปยังเมืองต่างๆ เช่น พม่า อยุธยา สิบสองปันนา และล้านช้าง ทำให้มีผู้ขอศึกษาคัมภีร์เหล่านี้อย่างกว้างขวาง

 

การสวดคาถาชินบัญชรดียังไง

การสวดคาถาชินบัญชรถือเป็นคาถาที่มีความศักดิ์สทธิ์และเป็นบทสวดที่คนให้ความนิยมเป็นอย่างมาก ซึ่งข้อดีขอการสวดคาถาชินบัญชรมีดังนี้

 

ข้อควรระวังในการสวดคาถาชินบัญชร

การสวดคาถาชินบัญชรจะมีข้อดีมากมายแล้วยังมีข้อควรระวังด้วยเช่นกัน เพราะไม่ควรสวดมั่วๆหรือสถานที่บางแห่ง หากฝืนสวดไปจะมีข้อดีมากกว่าข้อเสีย

ห้ามสวดในป่า

เชื่อกันว่าห้ามท่องพระคาถาชินบัญชรในป่าเพราะมีฤทธิ์ คาถานี้มีศักยภาพที่จะส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตจากอาณาจักรและภูมิประเทศอื่นๆ ภายในป่า รวมถึงผี วิญญาณ และสัตว์ประหลาด สัตว์เหล่านี้น่าจะอยู่ในป่าเป็นเวลานานโดยไม่เคยพบคำสอนของพระพุทธศาสนาหรือฟังมนต์ ดังนั้นการท่องพระคาถาชินบัญชรอาจทำให้ประพฤติผิดศีลได้

ต้องมีสมาธิก่อนสวด

การที่จะสวดคาถาชินบัญชรจำเป็นที่จะต้องอยู่ในที่สงบและมีจิตใจที่คงที่ เพื่อจำเป็นที่จะต้องทำสมาธิก่อนสวด ให้เราสามารถสวดได้จนจบและไม่ให้มีสิ่งใดมารบกวน การมีสมาธิและสวดจนจบนั้น จะทำให้จิตเราแน่วแน่และถือว่าเป็นการฝึกสมาธิไปในตัวอีกด้วย

ต้องสวดให้จบอย่าค้างคา

หากสวดคาถาชินบัญชรไม่จบหรือค้างคาไว้ นั้นเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะเนื่องจากจะทำให้คาถาไม่สำฤทธิ์ผลแล้วยังทำให้จิตและสมาธิของเราไม่มั่นคงอีกด้วย ดังนั้นหากอยากให้ได้ผลควรสวดให้จบด้วยการมีสมาธิจะดีที่สุด เพราะนอกจากจะทำให้ชีวิตดีขึ้น ยังช่วยให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวงด้วย

 

สรุป - คาถาชินบัญชร

คาภาชอนบัญชรเป็นคาถาที่ศักดิ์สิทธิ์สืบทอดโดยสมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี และได้รับการแก้ไขเพื่อให้มีเอกลักษณ์และพิเศษยิ่งขึ้น ผู้สวดจะมีความเจริญรุ่งเรือง แคล้วคลาดปลอดภัย เสริมเมตตามหาเสน่ห์ วาจาเป็นทรัพย์ และชีวิติสมปรารถนาดังใจหวัง และเนื่องด้วยคาถาที่มีความยาวผู้สวดควรจะสวดให้จบในคราวเดียวและมีสมาธิในการสวดทุกครั้งด้วยเช่นกัน


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที