ปิยเกียรติ

ผู้เขียน : ปิยเกียรติ

อัพเดท: 26 มิ.ย. 2023 17.40 น. บทความนี้มีผู้ชม: 191 ครั้ง

อาการปวดคอ บ่า ไหล่ ของคนนั่งทำงาน office เราเรียก "ซินโดรมออฟฟิซ" (Office Syndrome) คือ คำพูดที่ใช้เรียกอาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากการทำงานในสภาพแวดล้อมที่พบบ่อยในที่ทำงานตามปกติ ซึ่งอาการเหล่านี้เกิดขึ้นจากการใช้เวลานานในการนั่งทำงานที่เครื่องคอมพิวเตอร์ และต้องนั่งเป็นส่วนใหญ่


ปวดคอ บ่า ไหล่ (office Syndrome)ไม่ดีขึ้น ทำไงดี?

ปวด คอ บ่า ไหล่ (Office Syndrome) ไม่ดีขึ้น มีแต่แย่ลง ทำไง?

pain.png

อาการปวดคอ บ่า ไหล่ พบบ่อยๆในวัยคนทำงาน การรักษา การดูแล รวมถึงสาเหตุ มีให้อ่านอยู่ทั่วไป หรือแม้แต่ในสำนักงานเอง แต่ทำไงได้ยังต้องนั่งทำงานอยู่เหมือนเดิม มันก็ยังปวดอยู่ดี

อาการปวดคอ บ่า ไหล่ ของคนนั่งทำงาน office เราเรียก "ซินโดรมออฟฟิซ" (Office Syndrome) คือ คำพูดที่ใช้เรียกอาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากการทำงานในสภาพแวดล้อมที่พบบ่อยในที่ทำงานตามปกติ ซึ่งอาการเหล่านี้เกิดขึ้นจากการใช้เวลานานในการนั่งทำงานที่เครื่องคอมพิวเตอร์ และต้องนั่งเป็นส่วนใหญ่

ไม่มีการพักผ่อน ไม่มีการเคลื่อนไหวอย่างเพียงพอ การวางแนวตัวไม่ถูกต้อง เก้าอี้ที่ไม่เหมาะสม หน้าจอคอมพิวเตอร์ที่วางไม่ถูกต้อง และแสงสว่างที่ไม่เหมาะสม เป็นต้น และแน่นอนว่าหากเราต้องนั่งทำงานทั้งวัน สมาธิจดจ่อกับการทำงาน ก็ต้องหลงลืมว่าต้องเปลี่ยนอริยาบทแล้วนะ กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ปวดตามตัวแล้ว

อาการที่พบบ่อยในผู้ที่มีโรค Office Syndrome

อาการปวดคอ บ่า ไหล่: เนื่องจากการทำงานตลอดเวลาที่ต้องเงยหน้ามองหน้าจอคอมพิวเตอร์ อาจทำให้กล้ามเนื้อคอและไหล่ตึงตัว เคลื่อนไหวได้ยาก

อาการปวดหลัง: เนื่องจากการนั่งทำงานตลอดเวลาทำให้เกิดการเคลื่อนไหวน้อยลง และทำให้กล้ามเนื้อหลังและส่วนอื่น ๆ ของร่างกายอ่อนแอและตึงตัว

อาการปวดข้อมือเป็นเรื้อรัง: เนื่องจากการใช้คีย์บอร์ดและเมาส์ในระยะเวลานาน อาจทำให้กล้ามเนื้อข้อมืออักเสบ

อาการตาพร่า: การทำงานตลอดเวลาที่มีการมองหน้าจอคอมพิวเตอร์ และการส่องสว่างที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้ตาอ่อนเพลียและมีอาการตาพร่า

อาการหงุดหงิด และความเครียด: การทำงานในสภาพแวดล้อมที่เป็นประจำอาจส่งผลให้เกิดความเครียดและความรู้สึกไม่สบายใจ

การป้องกันและบรรเทาอาการโรค Office Syndrome สามารถทำได้โดย

การตรวจสอบตำแหน่งการทำงาน : ให้แน่ใจว่าโต๊ะทำงานและเก้าอี้มีความสมดุล รองรับร่างกายในท่าที่ถูกต้อง ควรเปลี่ยนแปลงตำแหน่งร่างกายอย่างสม่ำเสมอ

การพักผ่อนและการเคลื่อนไหว: ควรให้เวลาพักผ่อนในช่วงเวลาทำงาน ควรยืดกล้ามเนื้อและเคลื่อนไหวตัวอย่างสม่ำเสมอ

การติดตั้งอุปกรณ์ที่เหมาะสม: เช่น หน้าจอคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในระดับสายตาที่ถูกต้องและคีย์บอร์ดที่มีการรองรับสุขภาพของข้อมือ

การบริหารจัดการเวลาและการทำงาน: ควรทำการตั้งค่าเวลาและกำหนดการเพื่อให้มีการพักผ่อนอย่างเพียงพอระหว่างการทำงาน

หากคุณมีอาการที่รุนแรงหรือติดเชื้อเพียงพอ คุณควรพบแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์เพื่อการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม

การรักษา อาการโรค Office Syndrome

การรักษามีหลากหลายรูปแบบ การเลือกวิธีการรักษารูปแบบใดรูปแบบหนึ่งเป็นเรื่องขึ้นอยู่กับลักษณะของปัญหาทางสุขภาพ และการตอบสนองของร่างกายในแต่ละบุคคล ดังนั้นการเลือกรูปแบบการรักษาที่เหมาะสม ควรพิจารณาถึงประสิทธิภาพของวิธีการรักษาในสภาวะที่แตกต่างกันไป ยกตัวอย่างเเช่น

การเลือกระหว่างการรักษาแบบนวดกล้ามเนื้อ และใช้ High laser

การนวดกล้ามเนื้อ (Massage) มีประโยชน์ในการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ลดความตึงเครียด บรรเทาอาการปวดเรื้อรัง และเพิ่มการไหลเวียนเลือด นวดกล้ามเนื้อสามารถปรับปรุงความผ่อนคลาย ส่งเสริมการฟื้นตัวของร่างกายได้ในบางกรณี

อีกทั้ง High laser (เครื่องแสงเลเซอร์) ก็เป็นเทคนิคทางการแพทย์ที่ใช้แสงเลเซอร์สูงสำหรับการรักษาอาการต่าง ๆ อาทิเช่น การบรรเทาอาการปวดเรื้อรัง การบำบัดการบาดเจ็บ และการฟื้นฟูร่างกายหลังการผ่าตัด

การเลือกระหว่างนวดกล้ามเนื้อและเครื่อง High laser ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม สภาพ รวมถึงปัญหาทางสุขภาพของบุคคล คุณควรพูดคุยและปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์เพื่อการประเมิน และคำแนะนำวิธีการรักษาที่เหมาะสมสำหรับคุณ

การฝังเข็มกระตุ้น (Acupuncture)

การฝังเข็มกระตุ้น (Acupuncture) เป็นเทคนิคการรักษาทางการแพทย์ที่มีต้นกำเนิดจากประเทศจีนเชิงพุทธในอดีต การฝังเข็มกระตุ้นนั้นเกี่ยวข้องกับการใช้เข็มที่ถูกฝังลงในจุดต่าง ๆ บนร่างกายเพื่อกระตุ้นและปรับสมดุลของพลังงานในระบบกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่ออื่น ๆ ในร่างกาย

การฝังเข็มกระตุ้นอาจช่วยบรรเทาอาการและปัญหาทางสุขภาพบางประการ แต่ควรใช้เป็นวิธีการเสริม ที่มีความรับรู้ ความเชี่ยวชาญจากแพทย์ ที่ได้รับการอบรมและมีประสบการณ์ในการฝังเข็มอย่างถูกต้องปลอดภัย

อย่างไรก็ตาม การพบกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อการประเมิน และแนะนำวิธีการรักษาที่เหมาะสมสำหรับสภาวะทของคุณเป็นสิ่งสำคัญ หากคุณสนใจในการฝังเข็มกระตุ้น ควรพูดคุยและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์เพื่อประโยชน์ ความปลอดภัยของคุณเอง

การใช้เครื่องอัลตราซาวน์ดูดความร้อน (Ultrasonic Hot Pack : U/S hot pack)

การใช้เครื่อง U/S ร้อน คือ หนึ่งในวิธีการแก้ปวดที่ใช้ความร้อนเพื่อบรรเทาอาการปวด ระบบอัลตราซาวน์ดูดความร้อนจะส่งความร้อนลงในเนื้อเยื่อของร่างกาย ทำให้เกิดผลกระตุ้นทางกล้ามเนื้อและเลือด ซึ่งสามารถช่วยลดการตึงเครียดและบรรเทาอาการปวดได้

การใช้เครื่อง U/S ร้อนนั้นควรปฏิบัติตามคำแนะนำ และคำชี้แนะจากผู้ให้บริการทางการแพทย์ เนื่องจากการปรับความร้อนที่ไม่ถูกต้อง หรือการใช้เครื่องร้อนที่มากเกินไป อาจเป็นอันตราย

อย่างไรก็ตาม หากความเจ็บปวดไม่ดีขึ้นหรือมีอาการรุนแรงขึ้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสมต่อสภาวะของคุณ

การใส่ อุปกรณ์ support ในบริเวณที่มีปัญหา

สำหรับการใส่อุปกรณ์ support ช่วยในเรื่องของบรรเทาอาหารปวด ป้องกันการบวม ในปัจจุบันมีอุปกรณ์ช่วย support สำเร็จรูป สวมใส่ง่ายและ ทำความสะอาดง่าย มีหลากหลายขนาดให้เหมาะกับอวัยวะที่ต้องการใช้

การใส่อุปกรณ์ support อาจไม่ใช่การแก้ปัญหาโดยตรง เพียงแต่มีหน้าที่บรรเทาหรือช่วยให้อาการต่างๆแย่ไปกว่าเดิม เช่นถ้าปวดหลัง ที่เกิดจากการนั่งผิดท่าเกิดการอักเสบ หรือช่วงข้อต่อของกระดูกสันหลังมีการทุดตัวคุณก็สามารถใส่ ช่วยพยุงได้

lssupport.jpeg

อย่างไรก็ตาม การพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านกล้ามเนื้อ กระดูก และเส้นเอ็น ดูจะเป็นเรื่องที่เหมาะสมมากกว่าเพื่อแนวทางการรักษาที่ถูกต้อง

อีกทั้งยังมีวิธีการอื่น ๆ ที่อาจช่วยบรรเทาอาการปวดได้ เช่น การประคบร้อนแบบเข้มข้นโดยใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นบริเวณที่ปวด การใช้เครื่องประคบเย็นเช่น ถุงน้ำแข็งบริเวณที่ปวด การทายาและเจลแก้อาการปวด เป็นต้น สามารถทำได้โดยใช้แนวทางต่อไปนี้:

พักผ่อนและหยุดกิจกรรมที่ทำให้กล้ามเนื้อเคลื่อนไหวมากขึ้น: ให้ร่างกายมีเวลาพักผ่อนเพื่อให้กล้ามเนื้อได้ฟื้นตัว ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมหรือท่าทางที่อาจทำให้กล้ามเนื้อเคลื่อนไหวมากขึ้น

การประคบร้อนและการประคบเย็น: ใช้เทคนิคประคบร้อน เช่น การใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นบริเวณกล้ามเนื้อที่ปวด หรือใช้เชื้อเพลิงอุ่น เช่น หมอนอุ่น เป็นต้น หรือการประคบเย็น เช่น การใช้ถุงน้ำแข็งบริเวณที่ปวด เพื่อช่วยลดการอักเสบ และบรรเทาอาการปวด

การทายาและเจลแก้ปวดกล้ามเนื้อ: ใช้ยาและเจลที่มีส่วนผสมเพื่อบรรเทาอาการปวด อาจเป็นยาแอนติอินฟลามมาทอยด์ (anti-inflammatory) เช่น พาราเซตามอล หรือเจลทาเสริมกันเพื่อบรรเทาการอักเสบ และปวด

การนวดกล้ามเนื้อ: การนวดกล้ามเนื้อโดยนักกายภาพบำบัด หรือนักเทคนิคการแพทย์สามารถช่วยลดการตึงเครียด เพิ่มการไหลเวียนเลือดในกล้ามเนื้อได้ อย่างไรก็ตามควรให้นักกายภาพบำบัด หรือนักเทคนิคการแพทย์ที่มีความรู้ ประสบการณ์ในการนวดกล้ามเนื้อดูแล เพื่อประสิทธิภาพ และความปลอดภัย

การฝึกกล้ามเนื้อและเหยียดเส้นเอ็น: การฝึกกล้ามเนื้อและเหยียดเส้นเอ็นที่เกี่ยวข้องสามารถช่วยเสริมความแข็งแรง ความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ เช่น การทำแรงบีบเอียง (isometric exercises) หรือการเหยียดเส้นเอ็นตามคำแนะนำของนักกายภาพบำบัด อย่างไรก็ตาม หากความเจ็บปวดไม่ดีขึ้นหรือมีอาการรุนแรงขึ้น คุณควรปรึกษาแพทย์ เพื่อการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสมต่อสภาวะของคุณ

ท่าบริหารแก้ปวดคอบ่าไหล่ที่สามารถลองทำได้เพื่อบรรเทาอาการปวดได้แก่:

การยกแขนด้านหน้าและการเหยียดคอ: ยกแขนทั้งสองข้างขึ้นไปด้านหน้าเท่าที่ทำได้ พร้อมทั้งเหยียดคอย้อยหลัง ค้างไว้สักครู่ จากนั้นค่อย ๆ ลดแขนลงมา และคอให้กลับสู่ท่าเริ่มต้น ทำซ้ำ 10-15 ครั้ง

การบริหารกล้ามเนื้อไหล่ด้านหน้า: ใช้มือข้างเดียวจับก้นเก้าอี้ หรือพื้น หยิบน้ำหนักเบาๆ เลื่อนไปยังด้านหน้า ให้รู้สักตึงเพียงเล็กน้อย ค้างไว้สักครู่แล้วค่อย ๆ ปล่อยลง ทำซ้ำ 10-15 ครั้ง

การยืดกล้ามเนื้อคอด้านข้าง: หันหน้าไปด้านข้างที่ต้องการยืด จากนั้นงอและเอียงศีรษะไปทางด้านนั้นให้เหยียดกล้ามเนื้อคอด้านนั้นจนรู้สึกตึง ตามองใต้รักแร้ ค้างไว้สัก 20-30 วินาที แล้วค่อย ๆ คืนสู่ท่าเริ่มต้น ทำซ้ำด้านอีกข้างเช่นกัน ทำซ้ำ 3-5 ครั้งทั้งสองข้าง

การทำมือไขว้สองข้างด้านหลัง : ยืดแขนไปด้านหน้าในท่านั่งหรือยืน จากนั้นคาดแขนสองข้างไปด้านหลังของศีรษะ รักษาระยะเวลาประมาณ 30 วินาที แล้วปล่อยออก ทำซ้ำ 3-5 ครั้ง

โดยอย่าลืมใช้ท่าลดแรงกล้ามเนื้อและค่อยๆ เพิ่มความหน่วงของกล้ามเนื้อ เพื่อป้องกันการบาดเจ็บในกรณีที่บริเวณนั้นเป็นเนื้อเยื่ออ่อน หากคุณมีอาการปวดรุนแรงหรือไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสมสำหรับสภาวะของคุณ

สรุป

อาการปวดคอ บ่า ไหล่ หรืออาการปวดหลัง อาการต่างๆที่เกิดจากการทำงาน ส่วนใหญ่จะเรียกรวมกันว่า office syndrome อาการที่เกิดจากการบริหารจัดการเวลาทำงานและการพักผ่อนของร่างกายที่ยังไม่เพียงพอ

นอกจากการจัดอริยาบทต่างๆขณะทำงานเพื่อป้องกันแล้ว วิธีการรักษาก็มีมากมายตามความพึงพอใจของเรา ไม่ว่าจะเป็นการนวด ฝังเข็มกระตุ้น การใส่ support หรือการกินยาแก้ปวด เหล่านี้ควรปรึกษารับคำแนะนำที่ถูกต้องต่อไป


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที