Supachai

ผู้เขียน : Supachai

อัพเดท: 25 ก.ค. 2023 09.58 น. บทความนี้มีผู้ชม: 372 ครั้ง

ท้องนอกมดลูก เป็นภาวะที่เกิดขึ้นเมื่อท้องของหญิงตั้งครรภ์ไม่อยู่ภายในมดลูก ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ในช่วงต้น หรือกลางภาคต้นของการตั้งครรภ์ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่พบได้บ่อยในปัจจุบัน ซึ่งอาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น สาเหตุทางสิ่งแวดล้อม พันธุกรรม และสุขภาพของแม่


ท้องนอกมดลูก: สาเหตุ อาการ และวิธีการรักษา

ท้องนอกมดลูก เป็นภาวะที่ไข่ได้รับการผสมกับสเปิร์มแล้วกลายเป็นตัวอ่อนฝังตัวอยู่บริเวณอื่นที่ไม่ใช่ผนังมดลูก ซึ่งเป็นภาวะที่พบได้บ่อยในผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ โดยอาการที่พบบ่อยคือ ปวดท้องเหมือนมีเลือดออก และอาจเกิดอาการเลือดออกเมื่อมีชิ้นเนื้อหลุด ทำให้เกิดภาวะเสียชีวิตได้ถ้าไม่ได้รับการรักษาทันที

ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเป็นท้องนอกมดลูก คือผู้ที่มีประวัติการติดเชื้อหรืออาการอักเสบของท่อน้ำดี มีประวัติการผ่าตัดที่ท้องล่าง มีประวัติการใช้เครื่องหมายคุมกำเนิดที่ติดตัวไว้ในร่างกาย หรือมีประวัติการเจ็บปวดท้องล่างหรือมีอาการเลือดออกจากช่องคลอด

การวินิจฉัยท้องนอกมดลูกจะใช้วิธีการตรวจด้วยเครื่องอัลตราซาวด์ โดยจะต้องเจาะเข้าไปในช่องท้องเพื่อดูสภาพของท่อนำไข่ และต้องรักษาโดยการผ่าตัดเพื่อเอาตัวอ่อนออกมาและช่วยบำบัดให้หายขาดอาการ

ท้องนอกมดลูก: ความหมายและประเภท

ความหมาย

ท้องนอกมดลูก หมายถึง ภาวะที่ไข่ที่ได้รับการผสมกับเซลสเปอร์มแล้ว แต่ไม่ได้อัพเดทต่อไปยังมดลูก แต่อยู่ในท่อนำไข่ หรือตำแหน่งอื่นที่ไม่ใช่ในมดลูก ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ทุกเพศทุกวัย แต่มักพบได้บ่อยที่ผู้หญิงที่มีอายุระหว่าง 35-44 ปี

ประเภท

มีหลายประเภทของท้องนอกมดลูก ซึ่งแต่ละประเภทจะมีอาการและวิธีการรักษาที่แตกต่างกันไป ดังนี้

ประเภท ความเป็นมา ลักษณะอาการ การรักษา
ท้องนอกมดลูกในท่อนำไข่ ไข่ผสมติดอยู่ในท่อนำไข่ ปวดท้องข้างเดียวหรือทั้งสองข้าง มีเลือดออกจากช่องคลอด ต้องผ่าตัดเอาท่อนำไข่ออก
ท้องนอกมดลูกในรังไข่ ไข่ผสมติดอยู่ในรังไข่ ปวดท้องข้างเดียวหรือทั้งสองข้าง มีเลือดออกจากช่องคลอด ต้องผ่าตัดเอารังไข่ออก
ท้องนอกมดลูกในช่องท้อง ไข่ผสมติดอยู่ในช่องท้อง ปวดท้อง มีเลือดออกจากช่องคลอด ต้องผ่าตัดเอาไข่ออก
ท้องนอกมดลูกในท่อไต ไข่ผสมติดอยู่ในท่อไต ปวดท้อง มีเลือดออกจากช่องคลอด ต้องผ่าตัดเอาไข่ออก

ท้องนอกมดลูกเป็นภาวะที่ต้องรักษาด่วน เนื่องจากอาจเป็นอันตรายต่อชีวิต ดังนั้น หากมีอาการเหล่านี้ควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการรักษาทันที

สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง

สาเหตุ

ท้องนอกมดลูกเกิดจากการตั้งครรภ์ที่ไม่ถูกต้อง โดยที่ไข่อั่งเปาอยู่นอกโพรงมดลูก ซึ่งสาเหตุของการท้องนอกมดลูกสามารถเกิดได้หลายปัจจัย เช่น

ปัจจัยเสี่ยง

มีบางกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงต่อการท้องนอกมดลูกมากกว่าคนอื่น เช่น

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่นๆ เช่น อายุที่มากขึ้น การสูบบุหรี่ และการดื่มแอลกอฮอล์ที่มีผลต่อการท้องนอกมดลูกด้วย

อาการและการวินิจฉัย

อาการ

ท้องนอกมดลูกเป็นภาวะที่เกิดขึ้นเมื่อไข่ปลายปีกมดลูกไปติดตั้งตัวอยู่นอกโพรงมดลูก ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นที่ท่อนำไข่ แต่อาจเกิดได้ที่บริเวณอื่น ๆ ในร่างกาย เช่น ในท่อไตหรือในไต ทำให้เกิดอาการปวดท้อง ปวดเมื่อยส่วนล่าง หรือปวดบริเวณหลัง อาจมีอาการปวดเหมือนอาการเมื่อยล้า และอาจมีอาการเลือดออกอย่างมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับปริมาณเลือดที่ไหลออกมา และจะมีอาการเลือดออกต่อเนื่องหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการติดตั้งไข่นอกมดลูก

การวินิจฉัย

การวินิจฉัยท้องนอกมดลูกจะใช้หลายวิธี โดยเริ่มต้นจากการตรวจสอบประวัติการตั้งครรภ์ และการตรวจสอบอาการของผู้ป่วย หากมีความเสี่ยงที่จะเป็นท้องนอกมดลูก แพทย์จะใช้วิธีการตรวจเพิ่มเติม เช่น การตรวจคลื่นเสียงความถี่สูง (ultrasound) หรือการตรวจหาฮอร์โมนชนิดต่าง ๆ เพื่อช่วยในการวินิจฉัย และตรวจสอบความเสี่ยงของการเกิดภาวะแทรกซ้อน อย่างเช่น การตรวจค่าเอสไอ (ESR) หรือการตรวจเลือด เพื่อตรวจสอบว่ามีการเกิดการติดเชื้อหรือไม่ และการตรวจค่าฮีโมโกลบิน (Hemoglobin) เพื่อตรวจสอบปริมาณเลือดที่สูญเสีย ซึ่งจะช่วยในการวินิจฉัยและตรวจสอบความเสี่ยงของการเกิดภาวะเลือดออกมากขึ้น โดยการวินิจฉัยที่ถูกต้องและรวดเร็วจะช่วยให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาได้อย่างถูกต้องและทันเวลา

การรักษาและการป้องกัน

การรักษา

การรักษาท้องนอกมดลูกจะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการและสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยทั่วไปแล้ว การรักษาท้องนอกมดลูกจะเป็นการผ่าตัดเพื่อเอาไข่ที่อยู่นอกมดลูกออก แต่หากอาการไม่รุนแรงและไข่ยังไม่ได้เจริญเติบโตมากนัก แพทย์อาจจะให้ยาฉุกเฉินเพื่อช่วยลดอาการปวดและช่วยให้ไข่ลดลงไปในท่อนำไข่เองได้

หลังจากผ่าตัดเสร็จสิ้น ผู้ป่วยจะต้องพักฟื้นร่างกายให้เพียงพอ และติดตามการเจริญเติบโตของไข่ต่อไป โดยแพทย์จะต้องตรวจสอบเป็นประจำเพื่อตรวจสอบว่าไข่ที่เหลืออยู่ในมดลูกเจริญเติบโตได้อย่างปกติหรือไม่

การป้องกัน

การป้องกันท้องนอกมดลูกไม่สามารถทำได้เต็มที่ แต่สามารถลดความเสี่ยงได้ โดยเฉพาะในผู้ที่มีประวัติการเจ็บป่วยเกี่ยวกับระบบรื้อฟื้น หรือผู้ที่เคยทำการผ่าตัดบริเวณช่องท้องมาก่อน

การป้องกันท้องนอกมดลูกสามารถทำได้โดยการรักษาโรคต่าง ๆ ที่อาจเป็นสาเหตุของท้องนอกมดลูก เช่น การรักษาการติดเชื้อช่องปากมดลูก การป้องกันการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ และการป้องกันการตั้งครรภ์ในช่วงที่เป็นโรคทางสื้นเสียง

นอกจากนี้ หากมีความเสี่ยงสูงในการท้องนอกมดลูก เช่น ผู้ที่เคยทำการผ่าตัดบริเวณช่องท้องมาก่อน หรือผู้ที่มีประวัติการเจ็บป่วยเกี่ยวกับระบบรื้อฟื้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเ

ผลกระทบทางสุขภาพและจิตใจ

การท้องนอกมดลูกเป็นภาวะที่สามารถก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพและจิตใจได้หลากหลายรูปแบบ โดยทั่วไปแล้วผู้ที่เจ็บป่วยจากท้องนอกมดลูกจะมีอาการปวดท้องและมีเลือดออกทางช่องคลอด ซึ่งอาจทำให้เกิดความเจ็บปวดและเหนื่อยล้าได้ นอกจากนี้ยังมีผลกระทบทางจิตใจที่เกิดขึ้นเนื่องจากภาวะท้องนอกมดลูกด้วย

ผู้ที่เจ็บป่วยจากท้องนอกมดลูกอาจมีความกังวลและเครียดเนื่องจากภาวะที่เกิดขึ้น ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะซึมเศร้าและวิตกกังวลได้ นอกจากนี้ยังมีผู้ที่เจ็บป่วยจากท้องนอกมดลูกที่มีอาการปวดเข่าและปวดไหล่เนื่องจากการทำศัลยกรรมเพื่อกำจัดเนื้อเยื่อที่เกี่ยวข้องกับท้องนอกมดลูก ซึ่งอาจทำให้เกิดการเคลื่อนไหวและการทำงานของข้อต่อลำตัวได้ลดลง

นอกจากนี้ยังมีผลกระทบทางสุขภาพที่เกิดขึ้นเนื่องจากการทำศัลยกรรมเพื่อกำจัดเนื้อเยื่อที่เกี่ยวข้องกับท้องนอกมดลูก ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะติดเชื้อและอาการบวมเนื่องจากการเจ็บปวดที่เกิดขึ้นในบริเวณที่ผ่าตัด ดังนั้นผู้ที่เจ็บป่วยจากท้องนอกมดลูกควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาและคำปรึกษาเพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพและจิตใจให้มากที่สุด

สรุป

ท้องนอกมดลูกเป็นภาวะที่ถุงตัวอ่อนฝังตัวอยู่บริเวณอื่นที่ไม่ใช่โพรงมดลูก ทำให้ตัวอ่อนไม่สามารถเจริญเติบโตต่อไปเป็นทารกได้ และอาจเกิดอันตรายถึงชีวิตได้ อาการที่พบบ่อย ๆ ได้แก่ อาการปวดท้องน้อยเฉียบพลัน หากเลือดออกในท้องปริมาณมากก็อาจทำให้มีอาการเป็นฉี่หนู และอาจจะเกิดการชนิดเนื้อเยื่อหรือเส้นเลือดภายในท้องได้

สาเหตุของการท้องนอกมดลูกมักเกิดจากความผิดปกติของท่อนำไข่ ทำให้ถุงตัวอ่อนฝังตัวอยู่ที่ท่อนำไข่ได้ แต่อาจเกิดขึ้นได้ที่บริเวณอื่น ๆ เช่น ในไต่หวันมักพบว่าคนที่สูงอายุมากกว่า 35 ปี มีโอกาสท้องนอกมดลูกสูงขึ้น หรือเมื่อมีการตั้งครรภ์แล้วมีประวัติเคยทำน้อยสุดหนึ่งครั้ง

การวินิจฉัยท้องนอกมดลูกสามารถทำได้โดยการตรวจเลือด หรือการตรวจด้วยเครื่องเอกซเรย์ และการตรวจด้วยเครื่องเอกซเรย์ชนิดอื่น ๆ อาจจะต้องใช้การตรวจด้วยเครื่องเอกซเรย์ชนิดอื่น ๆ เพิ่มเติม

การรักษาท้องนอกมดลูกจะขึ้นอยู่กับสถานะของผู้ป่วย ในกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการรุนแรง จะต้องทำการผ่าตัดเพื่อนำถุงตัวอ่อนออก แต่ในกรณีที่ผู้ป่วยอาการไม่รุนแรง อาจจะให้ยาซึ่งจะช่วยให้ถุงตัวอ่อนหดลงและถูกขับออกมาเองได้ หากต้องการทำครรภ์ต่อไป ผู้ป่วยจะต้องรอจนถึงเมื่อร่างกายกลับเข้าสภาพปกติ และต้องมีการติดตามอย่างใกล้ช

ที่มา : https://mombieclub.com/articles/ectopic-pregnancy-causes-symptoms-and-treatment


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที