วัตพล

ผู้เขียน : วัตพล

อัพเดท: 18 พ.ค. 2024 11.06 น. บทความนี้มีผู้ชม: 3013 ครั้ง

ความงาม


กำจัดไขมันด้วยความเย็นที่ลงลึกถึงชั้นผิวด้วยเทคโนโลยี Coolsculpting

สลายไขมันด้วยความเย็น

ปัญหาเรื่องรูปร่างเป็นปัญหาที่คนส่วนใหญ่กังวลใจ โดยเฉพาะคนที่อายุมากขึ้น เพราะระบบเผาผลาญไม่ดีเท่ากับคนที่อายุน้อยๆ การทำ Coolsculptingเป็นการสลายไขมันด้วยความเย็นโดยใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า coolsculpting เป็นการกำจัดไขมันที่สะสมอยู่ให้สลายไปตามธรรมชาติ ทำให้รูปร่างดูผอม สัดส่วนกระชับขึ้น coolsculpting เหมาะกับคนที่มีไขมันส่วนเกินต่างๆ เช่น หน้าท้อง สะโพก แขน ขา เป็นต้น เครื่องสลายไขมันเป็นตัวช่วยลดไขมันแบบถาวรให้ผลลัพธ์เทียบเท่าการผ่าตัดไขมันแต่การทำ coolsculpting ไม่มีรอยแผล ไม่เจ็บตัว


Coolsculpting คืออะไร ใช้เทคโนโลยีอะไรในการทำ?

Coolsculpting คือ การสลายไขมันส่วนเกินด้วยความเย็นด้วยเครื่อง coolsculpting เป็นการกำจัดไขมัน โดยใช้เทคนิคการฟรีซเซลล์ไขมันเพราะเซลล์ไขมันจะไวต่ออุณหภูมิมากกว่าเซลล์อื่นๆ ในร่างกาย ทำให้แข็งตัวและแยกชั้นได้ง่าย การทำ coolsculpting จะไม่มีแผลและไม่ต้องพักฟื้น หลังจากการทำ coolsculpting สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติถือว่าเป็นนวัตกรรมลดไขมันแบบใหม่ที่ให้ความแตกต่างจากวิธีแบบเดิมๆ โดยการทำ coolsculpting ไม่เจ็บตัวเพราะใช้ความเย็นที่ระดับจุดเยือกแข็งมายิงเพื่อกำจัดไขมัน และสลายไขมันออกด้วยวิธีธรรมชาติ


Coolsculpting เหมาะกับใคร?

coolsculpting คือ

การมีรูปร่างที่ดูดีอยู่เสมอบางครั้งก็เป็นเรื่องที่ยาก เพราะหากไม่ใช่คนที่ออกกำลังกายเป็นประจำ ขาดวินัยในการกินก็ทำให้เกิดไขมันสะสมตามร่างกาย เมื่อเกิดปัญหาเหล่านี้การกำจัดไขมันก็จำเป็นต้องเพิ่งตัวช่วย อย่างการทำ coolsculpting เพราะเป็นการใช้เทคนิคสลายไขมันด้วยความเย็นที่เห็นผลลัพธ์ได้ภายใน 3 เดือน โดยที่ไม่ต้องเจ็บตัว ไม่ต้องพักฟื้น ไม่มีรอยแผลกวนใจ เพราะใช้เวลาเพียงไม่นานก็สามารถทำให้ไขมันบริเวณนั้นลดลงไปได้อย่างง่ายดาย แล้วใครบ้างที่ควรทำ coolsculpting 

  1. คนที่เหมาะกับการทำ coolsculpting คือคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำแต่ไม่สามารถกำจัดไขมันส่วนเกินในบริเวณต่างๆ ได้หมด คนที่ไม่พึงพอใจกับสัดส่วนหรือไขมันยังไม่ลดลงตามที่ต้องการ
  2. คุณแม่หลังคลอดสามารถใช้วิธีสลายไขมันด้วยความเย็น เพื่อกำจัดไขมันที่สะสมบริเวณหน้าท้อง และจุดอื่นๆ หลังจากการตั้งครรภ์ หรือสามารถลดไขมันกระชับผิว เพราะขณะที่ตั้งท้องน้ำหนักคุณแม่จะขึ้นมาหลายกิโล จะมีการสะสมไขมันตามจุดต่างๆของร่างกายทำให้ลดได้ยาก การใช้เครื่องสลายไขมัน ก็เป็นอีกทางเลือกที่ช่วยให้คุณแม่กลับมาหุ่นเฟิร์มได้อีกครั้ง
  3. การทำ coolsculpting เหมาะสำหรับคนที่ต้องการลดไขมันส่วนเกินเฉพาะจุดที่ต้องการ อาจจะเป็นจุดที่ไม่สามารถกำจัดได้ง่าย เช่น การทำ coolsculpting ต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง เป็นต้น
  4. การทำ coolsculpting สำหรับคนที่ต้องการปรับเปลี่ยนรูปร่างให้สวยเพียว กระชับโดยไม่อยากเจ็บตัวเพราะการสลายไขมันด้วยความเย็นนั้นไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผลหลังการทำ
  5. การทำ coolsculpting ด้วยเครื่องสลายไขมันสำหรับคนที่ไม่มีเวลาหรือไม่ต้องการพักฟื้นหลังจากทำ เพราะหลังจากที่ทำเสร็จแล้ว สามารถกลับบ้านและใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
  6. สลายไขมันด้วยความเย็นด้วย coolsculpting สำหรับคนที่ต้องการกำจัดและสลายไขมันแบบถาวรและได้ผลลัพธ์ระยะยาว 

Coolsculpting มีข้อดี และข้อจำกัดอะไรบ้างที่ควรรู้

หากว่าคุณคือคนที่ต้องการกำจัดไขมันด้วยวิธี coolsculpting ควรจะต้องศึกษาวิธีการทำ ผลลัพธ์ ความเสี่ยงในการทำ และประโยชน์ ข้อดีข้อเสียหลังจากการทำให้ละเอียดก่อนการตัดสินใจ เพราะบางครั้งการทำ coolsculpting อาจจะไม่เหมาะกับบางคนและส่งผลข้างเคียงที่อันตราย โดยข้อดีและข้อเสียสำหรับการสลายไขมันด้วยความเย็นนั้นจะมีอะไรบ้างมาดูกันเลย 

ข้อดีของการสลายไขมันด้วยการทำ coolsculpting 

  1. เป็นการกำจัดไขส่วนเกินที่ได้ผลลัพธ์ถาวร และหลังจากการทำ coolsculpting สามารถดูแลตัวเอง ออกกำลังกาย ลดการทานแป้ง น้ำตาล ของทอดของมัน ก็สามารถลดความเสี่ยงที่จะทำให้น้ำหนักตัวเพิ่ม สัดส่วนขยาย และกลับมามีไขมันสะสมในจุดต่างๆ
  2. สลายไขมันด้วยความเย็นเป็นวิธีการกำจัดไขมันที่มีความปลอดภัยสูง การทำ coolsculpting ไม่เกิดผลข้างเคียง ไม่ทำร้ายเซลล์ในร่างกายและเนื้อเยื่อในบริเวณอื่นๆ 
  3. การกำจัดไขมันตัวร้ายด้วยวิธี coolsculpting จะไม่ทำให้เกิดไม่เกิดพังผืดที่บริเวณใต้ผิวหนัง 
  4. การใช้เครื่องสลายไขมัน เป็นการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยที่ไม่ต้องทายาชา หรือฉีดยาชาก่อนทำ
  5. การสลายไขมันด้วย coolsculpting ไม่มีการผ่าตัดหรือเปิดแผล ทำให้ไม่จำเป็นต้องพักฟื้น หลังจากการสลายไขมันด้วยความเย็นคนไข้สามารถกลับบ้าน และทำกิจกรรมต่างๆได้ตามปกติ
  6. เนื่องจากการทำ coolsculpting ไม่มีการผ่าตัดใดๆ ทำให้ไม่มีรอยแผลเป็นให้กวนใจ

ข้อจำกัดสำหรับการทำ coolsculpting เพื่อลดไขมันส่วนเกินที่ไม่เหมาะกับคนที่มีโรคประจำตัวบางประเภท และคนที่มีอาการเสี่ยงดังนี้ต่อไป

  1. การทำ coolsculpting ไม่เหมาะกับคนที่เป็นโรคแพ้ความเย็น เช่น ลมพิษจากความเย็น โรคกลัวความเย็นควรหลีกเลี่ยงการสลายไขมันด้วยความเย็นและหาวิธีกำจัดไขมันด้วยวิธีอื่น
  2. กลุ่มคนที่เป็นโรคเลือดแข็งตัวผิดปกติควรหลีกเลี่ยงการทำ coolsculpting เพราะมีโอกาสเสี่ยงที่จะทำให้เซลล์เม็ดเลือดแดงแข็งตัวและเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ตามมา
  3. สลายไขมันด้วยความเย็นไม่เหมาะกับคุณแม่ตั้งครรภ์ และคุณแม่ที่ให้นมลูกโดยสามารถทำ coolsculpting ได้หลังจากการหยุดให้นมบุตรแล้วเท่านั้น
  4. หลีกเลี่ยงการทำ coolsculpting ในช่วงที่เป็นประจำเดือนเพราะจะทำให้หลอดเลือดแข็งตัว ประจำเดือนหยุดไหลหรือมาแบบกระปริกระปรอย 
  5. คนที่มีประวัติการผ่าตัดไม่เกิน 6 เดือน ไม่ควรทำ coolsculpting 
  6. คนที่เป็นไส้เลื่อนไม่ควรใช้วิธีสลายไขมันด้วยความเย็น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาวิธีกำจัดไขมันด้วยวิธีอื่น
  7. คนที่เพิ่งผ่าตัดในบริเวณที่ต้องการทำ coolsculpting ควรงดและรอให้แผลหายดีก่อนอย่างน้อย 6 เดือนขึ้นไป
  8. สำหรับคนที่มีอุปกรณ์ต่างๆ ในร่างกาย เช่น เครื่องกระตุ้นหัวใจ ควรแจ้งแพทย์ให้ทราบก่อนทำการสลายไขมันด้วยความเย็น

Coolsculpting นิยมทำจุดไหนของร่างกาย

การกำจัดไขมันด้วยเครื่องสลายไขมัน หรือที่เรียกว่าการทำ coolsculpting สามารถทำได้ทุกส่วนในร่างกายที่มีไขมันสะสมอยู่ โดยสามารถเลือกตำแหน่งที่ต้องการสลายไขมันด้วยความเย็นได้ตามที่ต้องการ ส่วนใหญ่การสลายไขมันด้วยความเย็นมักจะต้องการลดไขมันในจุดบริเวณร่างกาย เช่น ส่วนของใบหน้า เหนียง ใต้คาง ข้างหน้าอกหรือข้างนม โดยหน้าอกผู้ชายก็สามารถทำได้ ใต้ท้องแขน หรือสามารถทำ coolsculpting ต้นแขน แขนนอก หน้าท้องบนหรือล่าง ไขมันส่วนเกินพุงที่บริเวณหน้าท้อง ด้านข้างเอว หน้าท้องล่าง ต้นขาทั้งด้านในและด้านนอก จุดที่มีไขมันใต้ก้น (Banana roll) หรือไขมันบริเวณเหนือหัวเข่าขึ้นมาเล็กน้อย บริเวณปีกด้านหลัง (Fat Bra) เป็นต้น 


ทำ Coolsculpting แล้วไม่ได้ผลเกิดจากอะไร?

การทำ coolsculpting ไม่ได้ผลนั้นมี 2 เหตุผล คือ

  1. การทำ coolsculpting ไม่เหมาะกับคนที่มีไขมันที่เยอะ เพราะจะทำให้ผลลัพธ์ไม่เปลี่ยนแปลงตามที่คาดหวังหรือไขมันที่สะสมไม่ได้ลดลงไปเท่าที่ควร โดยแพทย์จะประเมินก่อนว่าวิธี coolsculpting เหมาะกับคนไข้หรือไม่
  2. ใช้เครื่องสลายไขมันของปลอม เป็นของลอกเลียนแบบหรืออุปกรณ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน เพราะไม่ทำให้สัดส่วนลดกระชับแล้ว ยังเสี่ยงต่อการทำร้ายผิวเช่น ผิวไหม้ ไขมันลดลงไม่เท่ากัน 

Coolsculpting ทำที่ไหนดี มีวิธีเลือกคลินิกอย่างไร?

coolsculpting รีวิว

การเลือกคลินิกในการทำ coolsculpting ควรเลือกอย่างไร? วันนี้จะมาบอกวิธีการเลือกคลินิกในการสลายไขมันด้วยความเย็นให้ปลอดภัย มีความน่าเชื่อถือ มีอะไรบ้างมาดูกันเลย

  1. ควรศึกษาหาข้อมูลของคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือและได้รับมาตรฐาน โดยจะต้องดูว่าคลินิกนั้นมีใบรับรองที่ถูกต้องตามกฎหมาย สะอาด ปลอดภัย มีพื้นที่กว้างสบาย ใช้อุปกรณ์เครื่องมือในการทำ coolsculpting ที่เป็นของแท้
  2. มีแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเป็นคนดูแลการทำ coolsculpting ด้วยตัวเองทุกขั้นตอน 
  3. หารีวิวการทำ coolsculpting จากคนที่เคยใช้บริการ จากเพจหรือแหล่งข่าวที่สามารถเชื่อถือได้
  4. ศึกษาข้อมูลราคาจากหลายๆคลินิกเพื่อเปรียบเทียบ หากถูกเกินไปอาจจะเสี่ยงที่จะเป็นของปลอมหรือใช้อุปกรณ์เลียนแบบที่ไม่ได้มาตรฐานได้

Coolsculpting มีผลข้างเคียงหรือไม่? 

หลังจากการสลายไขมันด้วย coolsculpting มักจะมีอาการต่างๆ ในช่วงแรกที่พบได้บ่อย ดังนี้


สรุปนวัตกรรม Coolsculpting 

การทำ coolsculpting เป็นการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยทางการแพทย์ในการสลายไขมันตามจุดบริเวณที่ไม่ต้องการให้ออกไป การทำ coolsculpting เหมาะกับคนที่อยากกำจัดไขมันส่วนเกินที่ต้องการเห็นผลลัพธ์ไวและถาวร เป็นวิธีการสลายไขมันด้วยความเย็น โดยเป็นการแช่แข็งเซลล์ไขมันในบริเวณใต้ผิวหนังให้สลายโดยวิธีธรรมชาติ ไม่ต้องเจ็บตัว ไม่มีแผลผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ 


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที