วัตพล

ผู้เขียน : วัตพล

อัพเดท: 09 พ.ย. 2023 03.31 น. บทความนี้มีผู้ชม: 125 ครั้ง

ไบโพลาร์ โรคที่มีอาการแปรปรวนทางภาวะอารมณ์สองขั้ว มารู้จักและทำความเข้าใจว่า เกิดจากอะไร แนวทางการรักษา และดูแลตนเองทั้งผู้ป่วยและคนใกล้ชิด


ทำความเข้าใจไบโพลาร์ โรคของคนอารมณ์สองขั้ว

โรคไบโพลาร์

ในทางจิตวิทยา "อารมณ์" เป็นสถานะจิตที่เกิดขึ้นในบุคคลตามสภาวะที่ต่างกัน ซึ่งเกิดจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น สถานการณ์ที่เกิดขึ้น ความคิด ความรู้สึก พฤติกรรมต่าง ๆ รวมไปถึงการทำงานที่ผิดปกติของสารสื่อประสาท พันธุกรรม

 โดยอารมณ์สามารถเป็นตัวชี้วัดหรือตัวแสดงของสภาวะจิตใจและสภาพอารมณ์ของบุคคลนั้น ๆ ว่ามีอารมณ์ที่ไม่สมดุล แปรปรวนไปมา อาจมีผลกระทบต่อการทำงานของร่างกายและการปรับตัวในชีวิตประจำวันของบุคคลนั้น ๆ ดังนั้นการเข้าใจและการจัดการกับอารมณ์เป็นสิ่งสำคัญในการดูแลสุขภาพจิต เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการใช้ชีวิตและเกิดโรคตามมาอย่าง “ไบโพลาร์” หรือในบางครั้งอาจสะกดว่า โรคไบโพล่า โรคไบโพล่าร์

โรคไบโพลาร์ เป็นสภาวะสุขภาพจิตที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสุดขั้วในอารมณ์ ความรู้สึก และพฤติกรรม ผู้ที่เป็นโรคนี้จะมีภาวะที่เปลี่ยนแปลงระหว่างอารมณ์สูงและอารมณ์ต่ำ ซึ่งเกิดจากการทำงานที่ผิดปกติของสารสื่อประสาทในสมอง

โรคไบโพลาร์เป็นภาวะที่มีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและความสัมพันธ์ของผู้ป่วย รวมถึงครอบครัว คนรักและเพื่อน ซึ่งอาจส่งผลให้ผู้ป่วยประสบกับความยากลำบากในการทำงาน การรักษาความสัมพันธ์ การเรียนการสอน และสถานการณ์ทางสังคมอื่น ๆ ซึ่งต้องใช้การพูดคุยปรึกษาจิตแพทย์เพื่อการดูแลและโรคไบโพล่าร์ที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ

ไบโพลาร์คืออะไร

ไบโพลาร์ (Biopolar) คือโรคที่มีอาการแปรปรวนทางภาวะอารมณ์สองขั้ว โดยผู้ป่วยประสบกับการเปลี่ยนแปลงอารมณ์อย่างรวดเร็วและรุนแรง ระหว่างสองขั้วของระบบอารมณ์ ซึ่งเป็นขั้วบวกหรือภาวะอารมณ์คลุ้มคลั่ง (manic) และขั้วลบหรือภาวะอารมณ์ซึมเศร้า (depressive) โดยเรียกว่าภาวะอารมณ์แบบไบโพลาร์ (bipolar disorder) หรืออีกชื่อหนึ่งโรคไบโพลาร์ (bipolar disorder) 

ในภาวะขั้วบวก (manic episode) ผู้ป่วยไบโพลาร์ จะมีอารมณ์เศร้าหรือตื่นเต้น พร้อมกับมีการตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา ร่าเริง และกระตือรือร้น พูดมากขึ้นอย่างมากเกินกว่าปกติ รู้สึกขี้เหงาหรือเครียดและหมกมุ่นในงานต่าง ๆ รวมถึงมีความเชื่อมั่นในตัวเองสูงเกินไป ในขณะที่ในภาวะขั้วลบ (depressive episode) ผู้ป่วยจะมีอารมณ์เศร้าหรือซึมเศร้าอย่างรุนแรง รู้สึกหมดแรง หมดหวัง ไม่อยากทำอะไร ไม่สนใจเรื่องราวรอบตัว รู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่า และอาจมีความคิดที่เกี่ยวข้องกับการฆ่าตัวตาย โดยส่วนใหญ่แล้วโรคนี้เริ่มเกิดในวัยรุ่นหรือวัยหนุ่มสาว แต่สามารถเริ่มเกิดได้ในทุกช่วงอายุ

สาเหตุที่ทำให้เกิดไบโพลาร์

สาเหตุที่ทำให้เกิดไบโพลาร์มีหลายปัจจัยด้วยกัน ซึ่งมีการพิจารณาว่าโรคนี้เกิดจากปัจจัยหลายอย่างที่มีผลต่อความเสี่ยงของการเป็นโรค สามารถอธิบายได้ดังนี้

อย่างไรก็ตาม การเป็นโรคไบโพลาร์ไม่ได้มีสาเหตุเดียว แต่อาจเป็นผลมาจากผสมผสานของปัจจัยต่างๆ ที่มีผลต่อความเสี่ยงในการเป็นโรค ซึ่งการตรวจวินิจฉัยและเข้ารับการรักษาไบโพล่าควรทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในด้านจิตเวชศาสตร์หรือที่รู้จักกันดีในนามจิตแพทย์

สัญญาณโรคไบโพลาร์

การหมั่นสังเกตตนเองเป็นเรื่องที่ดีและควรทำอยู่เสมอ หากรู้สึกว่าตนเองเริ่มมีอาการเบื้องต้นเหล่านี้อาจจะเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าคุณมีโอกาสเป็นไบโพลาร์

อาการโรคไบโพลาร์

อาการไบโพลาร์

อาการของโรคไบโพลาร์สามารถแบ่งออกเป็นสองประเภทหลักได้คือ อาการของภาวะอารมณ์คลุ้มคลั่ง (manic episode) และอาการของภาวะอารมณ์ซึมเศร้า (depressive episode)
 

  1. ภาวะอารมณ์คลุ้มคลั่ง (Manic Episode) ภาวะอารมณ์คลุ้มคลั่ง ในโรคไบโพล่าร์ประเภท I จะแสดงออกเป็นอาการของความตื่นเต้นที่เกินความปกติหรืออารมณ์ดีอย่างสุดเหวี่ยงเกินไป ผู้ป่วยอาจมีอารมณ์ที่สนุกสนานมากกว่าปกติ รู้สึกมีพลังงานมากขึ้นจนเกินความจำเป็น มีความรู้สึกว่าตนเองต้องการจะพูดคุย ไม่หยุดพูด และพูดเร็วตลอดเวลา มีความอยากที่จะทำสิ่งต่าง ๆ คิดทำการใหญ่ พลิกโฉมตัวเอง ด้านการใช้เงินก็ฟุ่มเฟือยเกินเหตุ ใช้เงินที่ไม่รอบคอบ กล้าตัดสินใจมั่นใจในตัวเองคิดว่าตนเองเป็นผู้มีอิทธิพลอยู่เหนือกว่าคนอื่นจนเป็นมีนิสัยที่ก้าวร้าวรุนแรงขึ้น

     
  2. ภาวะอารมณ์ซึมเศร้า (Depressive Episode) ภาวะอารมณ์ซึมเศร้าในโรคไบโพลาร์ประเภท Il และโรคไบโพลาร์ประเภท II จะแสดงออกเป็นอาการของความเศร้า ความซึมเศร้า และความอ่อนแอ หมดหวังในชีวิต อารมณ์ผู้ป่วยอาจมีการหมดความสนใจในกิจกรรมที่ตนเองเคยชอบ เคยทำอยู่เป็นประจำ รู้สึกหงุดหงิดง่ายพร้อมทั้งวิตกกังวลไปด้วย รู้สึกเหนื่อยและขาดพลัง การนอนหลับที่ไม่เพียงพอ ไม่อยากรับประทานอาหารหรือเพียงพอไม่ได้ ความคิดที่มืดมน ไปจนถึงความต้องการที่จะตายหรือมีความคิดเกี่ยวกับการฆ่าตัวตาย

อาการเหล่านี้อาจเป็นรอบ ๆ กินระยะเวลานานตั้งสัปดาห์จนถึงเป็นเดือน ๆ คือจะมีอาการภาวะอารมณ์คลุ้มคลั่งและภาวะอารมณ์ซึมเศร้าสลับกัน หรืออาจเป็นแบบภาวะอารมณ์เดียว ๆ กันเอง ขึ้นอยู่กับประเภทของโรคไบโพลาร์และความรุนแรงของอาการที่แต่ละบุคคลประสบ

วิธีการรักษาไบโพลาร์

วิธีรักษาไบโพล่า ทางการแพทย์มักเป็นไปในทางร่วมกันของทีมทางการแพทย์ที่ประกอบด้วยจิตแพทย์และนักจิตวิทยา เพื่อประเมิน วินิจฉัย และบำบัดอาการผู้ป่วยร่วมกัน โดยการที่มีนักจิตวิทยาร่วมรักษาด้วยจะสามารถช่วยให้ผู้ป่วยได้เรียนรู้ทักษะในการจัดการอารมณ์และปัญหาที่เกี่ยวข้อง ซึ่งอาจรวมถึงการใช้เทคนิคการควบคุมอารมณ์ พูดคุยทำความเข้าใจและมีการแนะนำทางออกในการแก้ไขปัญหาของผู้ป่วย

ทางด้านจิตแพทย์จะให้คำแนะนำแนวทางการรักษาที่เหมาะสมกับผู้ป่วย รวมไปถึงการรักษาด้วยการกินยาร่วมด้วย เพื่อควบคุมฮอร์โมนและช่วยการทำงานของสารสื่อประสาทให้ทำงานเป็นปกติ ยารักษาโรคไบโพล่า จะเป็น ยากลุ่มลิเทียม (Lithium) ซึ่งการรับยาแต่ละครั้งต้องอยู่ภายใต้การกำกับของจิตแพทย์

วิธีดูแลตนเองสำหรับผู้ป่วยไบโพลาร์

การดูแลตนเองเมื่อเป็นผู้ป่วยไบโพลาร์

การดูแลตนเองสำหรับผู้ป่วยไบโพลาร์นั้นสำคัญมาก เนื่องจากการดูแลตนเองที่ดีจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอาการซึมเศร้าร่วมด้วยและเพื่อให้การตนเองกลับมาหายดี มีสภาวะทางอารมณ์ที่เป็นปกติ และสุขภาพจิตแข็งแรง ดังนั้นนี่คือบางขั้นตอนที่คุณสามารถทำเพื่อดูแลตนเอง

อย่าลืมว่าการดูแลตนเองสำหรับผู้ป่วยไบโพลาร์เป็นเรื่องที่แตกต่างไปในแต่ละบุคคล หากคุณพบว่าคุณมีอาการที่รุนแรงหรือไม่สามารถจัดการได้ด้วยตนเอง ควรปรึกษาจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาเพื่อรับการช่วยเหลือเพิ่มเติม

วิธีการดูแลคนใกล้ชิดที่เป็นไบโพลาร์

การดูแลคนใกล้ชิดที่เป็นไบโพลาร์เป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากไบโพลาร์เป็นภาวะทางจิตที่มีความซับซ้อนและอาจมีผลกระทบให้คนที่เป็นใกล้ชิดรู้สึกท้อแท้ได้ เพราะต้องหาแนวทางรับมือ ช่วยเหลือผู้ป่วยอยู่เสมอ โดยแนวทางในการดูแลคนใกล้ชิดที่เป็นไบโพลาร์มีดังนี้

สรุปเนื้อหาเกี่ยวกับไบโพลาร์

ณ ปัจจุบันไบโพลาร์พบได้มากในกลุ่มช่วงอายุ 15-19 ปี และอายุ 20-24 ปี จะเห็นได้ว่าส่วนใหญ่จะเป็นวัยเรียน และช่วงเริ่มเข้าวัยทำงาน ในบางรายอาจรักษาไบโพล่าหายแล้ว แต่บางรายสามารถกลับมาเป็นได้อีก หรือบางรายเป็นไบโพล่ากินยาตลอดชีวิตก็เป็นไปได้เช่นกัน ด้วยหลายสาเหตุที่อาจไม่เหมือนกันในแต่ละคน เช่น สาเหตุจากความเครียด จากความผิดปกติของสารสื่อประสาท
 

อย่างไรก็ตามไบโพลาร์สามารถเป็นได้ทุกวัย ทั้งผู้ใหญ่และเด็ก เนื่องจากอาการที่เรียกว่าภาวะอารมณ์สองขั้ว คือ ภาวะอารมณ์คลุ้มคลั่ง (manic) และภาวะอารมณ์ซึมเศร้า (depressive) เกิดขึ้นได้ หากเราไม่คอยดูแล ใส่ใจอารมณ์ของตนเองอาจจทำให้มีโอกาสเป็นไบโพลาร์ได้ เพราะฉะนั้นหมั่นดูแลและสังเกตตนเองอยู่เสมอเมื่อช่วงไหนที่มีปัญหาต่าง ๆ หรือสถานการณ์ที่จะส่งผลต่อความรู้สึกของเรา



 

การดูแลผู้ป่วยไบโพลาร์สำหรับตนเองและคนใกล้ชิดเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากผู้ป่วยอาจมีความเสี่ยงที่จะมีปัญหาในการใช้ชีวิตประจำวัน นอกจากการปรึกษาจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยา เรายังสามารถดูแลตนเองโดยการรักษาสุขภาพร่างกายและจิตใจ และช่วยเหลือผู้ป่วยให้มีสุขภาพจิตใจที่แข็งแรงขึ้นและกลับมาเป็นปกติได้ อย่างไรก็ตาม ควรจัดหาข้อมูลและแหล่งความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับไบโพลาร์


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที