เครื่องดนตรีแต่ละประเภทไม่ว่าจะเป็นดนตรีไทย หรือดนตรีสากลจะต้องมีกลองเป็นองค์ประกอบสำคัญในการควบคุมจังหวะไม่ว่าจังหวะช้าหรือเร็ว และสิ่งที่ต้องใช้คู่กันจะขาดไม่ได้เลยก็จะต้องมีไม้กลอง ซึ่งนักดนตรีหลายคนให้ความสำคัญกับการเลือกซื้อไม้กลอง ที่เป็นของตนเองโดยเฉพาะ ต้องถือได้อย่างถนัด ไม่ว่าจะเป็นไม้กลองยี่ห้อไหนดี ทำจากวัสดุอะไร และขนาดเท่าไหร่ เพื่อให้สามารถรังสรรค์เสียงเพลงออกมาให้ได้ดั่งใจมากที่สุด
ไม้กลอง เป็นอุปกรณ์เครื่องดนตรีประเภทหนึ่ง ที่มีลักษณะเป็นด้ามยาว และไม้กลองก็มีขนาดที่แตกต่างกันและวัสดุที่ใช้ในการทำก็มีหลากหลายเพื่อเป็นทางเลือกในการนำไปใช้ให้ได้เสียงที่ต้องการ จึงควรเลือกซื้อไม้กลองให้ตรงกับลักษณะการใช้งาน ตามลักษณะของดนตรี เช่น ดนตรีร๊อก แจ๊ซ โซล และอีกหลายแนวที่ต้องใช้โทนเสียงหนักเบาต่างกัน หรือเลือกซื้อไม้กลอง ขนาดต่าง ๆ ให้เข้ากันได้ดีกับกลองแต่ละประเภท
ด้วยประเภทของดนตรีมีหลายแนว เครื่องดนตรีจึงมีหลากหลายประเภท ซึ่งก็รวมไปถึงไม้กลองด้วยเช่นกัน โดยก่อนที่จะเลือกซื้อไม้กลองจะต้องดูเป็นก่อนว่าไม้กลอง ขนาดต่าง ๆ ดูกันอย่างไร เหมาะจะนำไปใช้งานแบบใด โดยสัญลักษณ์ที่จะบอกขนาดและน้ำหนักของไม้จะมีตัวเลขและพยัญชนะภาษาอังกฤษเช่น ไม้กลอง 5A กับ 7A หรือ 2S เป็นต้น ซึ่งจะมีข้อแนะนำดังนี้
1. สำหรับตัวเลข จะบอกถึงเส้นรอบวง ที่จะระบุบนไม้กลองมีเพียง 3 ขนาดเท่านั้น ก็คือ 2 ขนาดใหญ่ 5 ขนาดกลาง 7 ขนาดเล็ก
2. สำหรับพยัญชนะภาษาอังกฤษ จะบอกถึงน้ำหนักของไม้กลอง โดยจะมีการแจ้งเป็น 3 ขนาดเช่นกัน ซึ่งการนำไปใช้งานก็แตกต่างกันดังนี้
ผลงานเพลงจะออกมาตรงตามคอนเซ็ปต์ได้ ไม่ใช่เพียงนักดนตรีเท่านั้นที่จะทำผลงานให้ออกมาดีได้เท่านั้น แต่ก็ต้องมีอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่มีคุณสมบัติเหมาะสำหรับนำมาใช้ โดยเฉพาะการเลือกซื้อไม้กลองซึ่งมีความสำคัญในการสร้างจังหวะให้กับวงดนตรี
วัสดุที่ใช้ทำไม้กลองมีผลต่อต่อโทนเสียง หากต้องการให้มีโทนเสียงนุ่ม ๆ ก็มักจะใช้ไม้เมเปิ้ล แต่ถ้าต้องการให้เสียงพุ่งมีพลังมักจะเลือกใช้ไม้โอ๊ค นอกจากเสียงที่ได้ตรงตามความต้องการแล้ว ยังได้ไม้กลองที่มีความแข็งแรง แต่ยืดหยุ่น
การเลือกขนาดและน้ำหนักของไม้กลอง จะต้องเลือกให้เหมาะกับแนวดนตรีที่ต้องการจะเล่น โดยเช็คขนาดรอบไม้กลองตามที่แนะนําเพื่อจะได้จับได้ถนัดมือและน้ำหนักสำหรับโทนเสียงแน่น ๆ มีพลังก็ควรเลือกไม้ที่มีน้ำหนักมาก แต่หากเป็นโทนเสียงสบาย ๆ ก็เลือกไม้กลอง 5A 2A หรือ 7A จะเป็นขนาดเล็กสุด
สำหรับหัวไม้กลองมีหลายแบบ ซึ่งก็เป็นหัวไม้และมีการออกแบบหลายลักษณะ ให้นำไปใช้งานได้อย่างเหมาะสมกับแนวเพลง โดยลักษณะของหัวไม้กลองใหญ่ก็จะยิ่งทำให้เสียงทุ้มหนา หากเป็นหัวไม้ขนาดเล็กจะทำให้มีเสียงที่คมชัดมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีหัวไนลอนจะทำให้เสียงก้องใส
การเลือกใช้ไม้กลองสำหรับเพลงแต่ละแนว หรือใช้กับกลองประเภทใดก็ตาม การถือจะต้องถนัดมือโดยมีความยาวของไม้กลองแต่ละแบบทั้งหัวไม้และหัวไนลอน ซึ่งเช็คได้ตั้งแต่หัวไม้ไปจนถึงด้ามจับ หากมีความยาวมากอาจจะแข็งแรงน้อยแต่ดีดกลับได้ดี ในขณะที่สั้นลงจะมีแรงเหวี่ยงและแข็งแรงมากกว่า
การเลือกซื้อไม้กลอง เพื่อให้ได้ไม้กลองดี ๆ และมีมาตรฐานแนะนำว่าควรเลือกซื้อไม้กลองยี่ห้อที่มีชื่อเสียงทางด้านการผลิตและได้รับความนิยม เช่น ไม้กลอง yamaha ไม้กลอง vic firth ไม้กลอง butcher ไม้กลอง promark ไม้กลอง tama หรือยังมียี่ห้ออื่นอีกซึ่งมีการแนะนำเพิ่มเติมในร้านจำหน่ายเครื่องดนตรี
การเลือกซื้อไม้กลองเพื่อนำไปใช้ในวงดนตรี ไม่ว่าจะเป็นการเลือกไม้กลองแบบใดและซื้อที่ไหนก็ตามสำหรับไม้กลองยี่ห้อหรือแบรนด์ดังมักจะมีราคาเริ่มที่หลัก 90 - 2,600 บาทโดยรวมในแต่ละยี่ห้อ ก็จะมีคุณสมบัติการนำไปใช้งานที่ต่างกัน สามารถเลือกซื้อไม้กลองได้ครบทุกแนวเพลง ทั้งขนาด น้ำหนัก วัสดุที่ใช้ในการผลิต ขนาดของหัวไม้ ซึ่งราคาก็เหมาะสมทั้งมือใหม่ และนักดนตรีอาชีพ
สำหรับการเลือกซื้อ จะมีตัวหนังสือระบุไว้ที่ไม้กลองทั้งสองข้าง
ใช้วิธีการนำไม้กลองไปหมุนบนพื้นเรียบ เป็นการทดสอบว่าไม้งอ หรือโค้งไหม
ไม้กลองเป็นเครื่องดนตรีประเภทหนึ่งที่จะต้องซื้อเป็นคู่ และต้องรู้จักคุณสมบัติการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นวัสดุที่ใช้ หัวไม้ลักษณะอย่างไรในการสร้างเสียงสูงต่ำ ทุ้มหรือหนักแน่นได้ ทั้งความสั้นหรือยาวของไม้ที่เป็นเทคนิคของนักดนตรี ที่สามารถเลือกซื้อได้ที่ร้านขายไม้กลองที่มีราคาจับต้องได้ สามารถซื้อเก็บสะสมไว้ใช้งานได้หลายชิ้น และเพื่อใช้ให้เหมาะกับงานเพลงแต่ละแนว
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที