ชนิตพล

ผู้เขียน : ชนิตพล

อัพเดท: 18 ม.ค. 2014 06.10 น. บทความนี้มีผู้ชม: 987972 ครั้ง

"ประสบการณ์ยิ่งมากยิ่งมีคุณค่าควรรู้และยิ่งมีค่ามากที่สุดเมื่อถูกถ่ายทอดออกมาจากใจ"


วันที่ 27 การบริหารงานแบบปล่อยวาง (2)

ตอนที่ 101

วันที่ 27

การบริหารงานแบบปล่อยวาง (2)

 

คุณยงยุทธ์ :  คุณสมชาย….เรามาสรุป การบริหารแบบปล่อยวาง ในส่วนองค์การของเราเพื่อใช้กำหนดเป็นแนวนโยบายของระบบการทำงานในแผนกลยุทธ์และใน human resource planning

คุณสมชาย :  ครับ !...ในแผน…human resource planning…..ผมคิดไว้บางส่วนแล้ว ส่วนในแผนงานหลักขององค์การ…..เรามาช่วยกันสรุปพร้อมๆกันกับ….คุณวุฒิชัยและคุณสุชาติ…ครับ!  

คุณสุชาติ :  ก่อนอื่น…ผมขอความกระจ่างของคำว่า.. “ ปล่อยวาง”.. และการบริหารแบบ Emptiness Management ครับ ! เพื่อให้กระชับและตรงประเด็นที่สุด

คุณวุฒิชัย : การปล่อยวางไม่ใช่การวางเฉยหรือการไม่รู้ร้อนรู้หนาว…และก็ต้องอยู่บนฐานของ ไตรลักษณ์….คือ อนิจจัง …ทุกขัง …อนัตตา….ทุกสิ่งเป็นธรรมชาติ เป็นสิ่งไม่เที่ยง…เป็นทุกข์และไม่มีตัวตนตราบกระทั่งตายสังขารดับสูญ…จนสุดที่ จิต สิ้นสุดที่นิพพาน…นิพพานัง สุญญัง

คุณสมชาย : ตามความหมายของ..การปล่อยวาง..แปลว่า…การปล่อยโดยไม่ยึดมั่นถือมั่นในสิ่งทั้งปวง  เป็นสิ่งสำคัญของการตัดสาเหตุของ…ทุกข์ทั้งมวล…ซึ่งเกิดจากการยึดมั่นถือมั่น…ยิ่งมีมากก็ยิ่งทุกข์มาก…เมื่อปล่อยวางได้ก็เบาสบายจนเกิดความสุขตามสภาพการปล่อยวาง…ถ้าพิจารณาโดยลึกคือ…ธรรมชั้นสูงในขั้นวิปัสสนา…..ส่วน Emptiness Management มุ่งเน้นที่การฝึกฝนตนเองให้ชำนาญ…ทำงานด้วยสติและปัญญาไร้ความเครียด… กับทั้งสร้างความสามัคคีในหมู่คณะผู้ร่วมงาน เป็นการสร้างบรรยากาศที่ดีและเป็นมิตร…ในที่ทำงาน….ความว่างเปล่าหมายถึงสมองที่ว่างเปล่าพร้อมในการทำงาน…ภายใต้การมีสติและเกิดสมาธิในงานที่ทำ

คุณยงยุทธ์ :  การบริหารโดยการวางเฉยหรือ..Management by Exception..เป็นการปล่อยให้การบริหารเป็นไปตามสภาพการทำงาน…ผู้บริหารไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวเว้นแต่…จะเกิดความผิดพลาดใดๆขึ้นมา…..แต่การบริหารแบบปล่อยวาง น่าจะเป็น.. Management by Equanimity..ครับ !......ในมิติของ….รูป….ใช้กำหนดในการเลือกบุคลากร เข้าทำงานในหน้าที่…ที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายหรือ…สังขาร…ซึ่งเป็นรูปลักษณ์ภายนอก….ส่วนสมองกับจิตนั้น…ต้องพิจารณาเป็นกรณีไป….เพราะอย่างไรก็ตามการรับรู้และฐานความคิดย่อมแตกต่างกันอยู่แล้ว…..จากที่เราสรุปว่า…. “รูปไม่ใช่สิ่งว่างเปล่า”…เบื้องต้นเราพิจารณาบุคคล จาก…บุคลิกภาพและท่าทาง สีหน้า อาการ และการแสดงออก…..ไม่ว่าจะใช้เป็นหลักในการพิจารณาบุคลากรเข้าทำงานใหม่…หรือการมอบหมายหน้าที่การงานให้ทำ…รวมถึงการพิจารณาความอดทนกับสภาพของงานที่ทำได้เพียงใด…..“ คุณสมชาย” มีกำหนดอยู่บ้างแล้วใน…human resource planning…..โดยเฉพาะในกระบวนการ…recruitment and selection…... “ คุณสมชาย ช่วยดำเนินการต่อในมิติอื่นๆ...ที่เหลืออยู่ด้วยครับ!.......ในเรื่องของ...รูป เวทนา  สัญญา สังขาร วิญญาณ สาเหตุของทุกข์ และไตรลักษณ์ ”……ซึ่งน่าจะได้ข้อสรุปหลักของหลักบริหารแบบว่างเปล่า…ได้ดียิ่งขึ้นครับ….!

คุณสมชาย :  ครับ!  สรุป..หลักของการบริหารแบบปล่อยวาง….ต้องเป็นทางของการลดทุกข์ในการทำงาน….และไม่เกิดความเครียดขณะปฏิบัติงาน…ปฏิบัติด้วยหลัก 4 ข้อดังนี้

1.  จากมิติของ..รูป..สังขารเป็นตัวกำหนดงานที่ทำ….สมองกับจิตกำหนดให้ปรับใจให้ตอบรับงานที่ได้รับมอบหมายส่งผลให้เกิด……ความเหมาะสม ความพอดีกับงานไม่หนักกายและหนักใจ….เกิดความกดดันตามระเบียบและตามเป้าหมายขององค์การ….ข้อนี้ผู้บังคับบัญชาต้องคอยสอดส่องไม่ให้ผู้ใต้บังคับบัญชาแบกรับงานเกินกำลัง….จนเครียดและล้า….ในขณะที่ต้องจัดให้มีงานเสริมทำยามงานเบาบางลง

2.  ใช้หลักธรรมะ…กับการบริหารแบบปล่อยวาง…. สัพเพ ธัมมา นาลัง อภินิเวสายา…"สิ่งทั้งหลายทั้งปวงไม่ควรไปยึดมั่นถือมั่น" …..ธรรมชาติสร้างสิ่งทั้งหลายให้เกิดขึ้นและเสื่อมสลายไปตามธรรมชาติ….เมื่อปล่อยวางก็เกิดความสงบและเป็นสุข……..ทำงานมีความมานะพยายามและอดทนเพื่อความสำเร็จ  มีความพอดีในสิ่งที่ได้รับกระทั่งทำความดีมิหวังลาภหวังยศ และที่สำคัญอย่าทำงานหนักเกินตัว เกินเวลาของตนเองที่ต้องมีให้กับครอบครัว….สระเวลาเพื่อส่วนรวมบ้าง….สุดท้ายแล้วเราต้องปล่อยวางทุกสิ่งทุกอย่างกระทั้งอินทรีย์สังขาร

3.   ยึดถือไตรลักษณ์เป็นที่ตั้ง…..อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา …ทุกสิ่งเป็นธรรมชาติ เป็นสิ่งที่ไม่เที่ยง…เป็นทุกข์และไม่มีตัวตนตราบกระทั่งสังขารดับสูญ…สิ้นสุดที่ จิต…จบลงที่นิพพาน…นิพพานัง สุญญัง

4.  ฝึกสมาธิเบื้องต้นแบบ….อานาปานสติ…กำหนดรู้ลมหายใจ เข้าออก….ภาวนาว่า“ปล่อยวาง”…. คือ..หายใจเข้า…ปล่อยวาง…หายใจออก….ปล่อยวาง… ปล่อยวางในทุกสิ่งทั้งปวงไม่ยึดมั่นถือมั่น…ตัวตนคือ..รูป…สุดท้ายคือดับสูญ… อานะ / อปานะ…คือ ลมหายใจเข้า…ลมหายใจออก…เกิดจากธรรมชาติของชีวิต..กับการมีสติ สัมปชัญญะ….รู้สภาพธรรมขณะปัจจุบันว่าเรากำลังหายใจอยู่…ซึ่งเป็นนามรูป…ของมนุษย์…..ดับลมคือดับอินทรีย์ คือ…สิ้นลมหายใจ…. เราเจริญอานาปานสติภาวนา…ได้ด้วยความมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวด้วยความ….สมถะและวิปัสสนา….พิจารณาสภาพธรรมรู้ได้ถึงไตรลักษณ์….
อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

คุณวุฒิชัย :สมาธิเป็นความตั้งใจตั้งมั่นในอารมณ์หนึ่งๆที่มีจิตแน่วแน่ ในเรื่องที่กำลังเพ่งอยู่..บริกรรมอยู่อย่างจดจ่อไม่ฟุ้งซ่าน….หรือครับ!

คุณสมชาย :  ครับ! …..สมาธิ แบบนี้มุ่งที่ความสงบ…นำมาซึ่งสติและปัญญา…ไม่ได้เน้นถึงขั้น นิพพาน…ที่เป็นที่สิ้นสุดแห่งอาสวะ…..มุ่งเบื้องต้นเพียงทำให้จิตใจผ่องแผ้วทำงานได้ ด้วยความราบรื่นและสำเร็จสมความตั้งใจ

คุณยงยุทธ์ :  คุณสมชาย….จะมีแผนเบื้องต้นอย่างไร?....ครับ !

คุณสมชาย :  ผมขอเน้นที่สายผลิต A ก่อน…เพราะคุณสุชาติดูแลอยู่จะได้ให้เป็นกลุ่มนำร่อง และเริ่มทยอยมาอบรมครั้งแรกในอาทิตย์หน้าได้เลย !….คุณสุชาติช่วยจัดเวลาที่เหมาะสมให้ด้วยครับ….ผมคงต้องเริ่มเองก่อน….เริ่มจากพื้นฐานของหลักธรรมะง่ายๆที่เราได้สรุปมาเป็นลำดับ…ผมจะเตรียมเอกสารอบรมเบื้องต้นให้ทุกคนพิจารณาและปรับให้….เหมาะสม ภายในวันศุกร์นี้ครับ!....อย่างไรแล้วรบกวนทุกท่านช่วยเสนอแนะ และช่วยประสานพร้อมเข้าร่วมในการอบรมครั้งนี้ตามเวลาที่กำหนดด้วยครับ !.....วันและเวลาผมจะแจ้งให้ทราบภายในวันพรุ่งนี้ครับ!

คุณยงยุทธ์ :  คุณสมชาย…ทำหนังสือเวียนให้รับทราบและเชิญหัวหน้าสายอื่นๆที่เกี่ยวข้องโดยตรง…มาเข้าร่วมด้วยนะ!...เพื่อเป็นการรับรู้แผนดำเนินการไปพร้อมๆกันซึ่งอาจจะได้ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์อื่นๆอีก……คุณวุฒิชัย ช่วยประสานเรื่องนี้ด้วยครับ !

 

////////////////////////////////////////

28/4/2554


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที