ชนิตพล

ผู้เขียน : ชนิตพล

อัพเดท: 18 ม.ค. 2014 06.10 น. บทความนี้มีผู้ชม: 987897 ครั้ง

"ประสบการณ์ยิ่งมากยิ่งมีคุณค่าควรรู้และยิ่งมีค่ามากที่สุดเมื่อถูกถ่ายทอดออกมาจากใจ"


วันที่ 15 ศาสตร์ของการบริหารงาน (1)(Strategy Formulation)“ Strategic Management”

ตอนที่ 49

วันที่ 15

ศาสตร์ของการบริหารงาน (Science of Management) (1)

(Strategy Formulation) “ Strategic Management”    

 

มาถึง ของวันที่ 15……ซึ่งเป็นเวลาครบครึ่งเดือนพอดี……และเป็นวันที่ควรจะจบภาคทฤษฏีของการบริหารงานเชิงกลยุทธ์เบื้องต้นนี้….การทบทวนความรู้พื้นฐานของหลักการบริหารของ องค์การ / บริษัท….ที่ใช้กันทั่วไป…..ตลอดจนหลักการเอาชนะในการแข่งขันกัน….เชิงทำธุรกิจ ….หรือการให้บริการของหน่วยงานของภาครัฐ  รัฐวิสาหกิจ และองค์การภาคเอกชนต่างๆ…ด้วยหลักของการบริหารงานแบบเดิม / การบริหารเชิงกลยุทธ์นั้น…..ผู้บริหาร/ ผู้นำองค์การ / เจ้าของกิจการ….ต้องรู้เสมอว่า องค์การของท่านอยู่ในฐานะใด….มีการบริหารอย่างไร….การที่จะสรุปแผนการบริหารงานโดยใช้ ระบบการบริหาร / หลักบริหาร แบบดั่งเดิม…ร่วมกับการบริหารเชิงกลยุทธ์…..ต้องไม่สร้างความวิตกกังวนจนเกินไป….โดยเฉพาะองค์การที่มีผลประกอบการ / ผลงาน ดีเลิศอยู่แล้ว….เพียงแค่…ห้ามตกอยู่ในความประมาท และต้องหมั่นเสริมหลักการของ…การบริหารงานเชิงกลยุทธ์…บางข้อ / บางหลักการ…เข้าไปบ้าง….ก็จะทำให้ธุรกิจของเรา / องค์การของท่าน…ก้าวทัน / ล่วงรู้ความเคลื่อนไหวของตลาด….ได้ตลอดเวลา  และที่สำคัญการศึกษาจากประสบการณ์ ตัวอย่างในแง่มุมต่างๆ….ของการนำหลักการ / ทฤษฏีเหล่านี้ ไปใช้ก็จะช่วยให้เราเข้าใจในกลไกลของตลาด…ในยุคนี้ได้ดียิ่งขึ้นด้วย !                                                                                                            
การบริหารงานตามแผนกลยุทธ์……เมื่อเรากำหนดทิศทาง และ วิเคราะห์สภาพแวดทั้ง…ภายใน / ภายนอก ขององค์การ / บริษัท แล้ว…..ทำให้รู้ถึง…พันธกิจ  เป้าหมาย และวัตถุประสงค์…โดยนำผลจากการวิเคราะห์ในข้อที่ได้เปรียบมาใช้สร้างกลยุทธ์ในการแข่งขัน  ในขณะที่เรา สามารถ…แก้หรืออุดรอยรั่ว /         จุดบกพร่อง…ให้เหลือน้อยที่สุด / หมดไป…..ผู้บริหารจะต้อง แบ่งระดับของการจัดการ เพื่อให้เกิดความเหมาะสม  กับขนาด ลักษณะ และปัจจัยที่มีอยู่…ขององค์การ / บริษัท…โดยมีการกำหนดกลยุทธ์ไว้ดังนี้    

2.3 การกำหนดกลยุทธ์ (Strategy Formulation) : เพื่อให้เกิดการพัฒนาตรงตามพันธกิจได้รับผลตามวัตถุประสงค์…..มีการกำหนดได้ 3 ระดับ ดังนี้                                                                                            

1.กลยุทธ์ระดับองค์การ / บริษัท (corporate strategy) กำหนดโดยมาจากนโยบายหลักขององค์การ…ผู้บริหารระดับสูงมักจะเป็นผู้กำหนดมาจาก วิสัยทัศน์ และพันธกิจหลักขององค์การ โดยให้ผู้จัดการและหน่วยงานภายในทั้งหมดรับมาดำเนินงาน และวางแผนกลยุทธ์…แบบรวมยอดครบวงจรตามประเภทธุรกิจนั้นๆ ….มีการใช้ปัจจัยและทรัพยากรที่มีอยู่อย่างเต็มที่ / ครบทุกส่วน …..ซึ่งเมื่อองค์การเข้าสู่แผนกลยุทธ์แล้ว….อาจจะต้องมีการปรับเปลี่ยนสภาพการทำงานใหม่ทั้งหมดก็เป็นไปได้….บางส่วน / บางฝ่าย….ที่เป็นจุดด้อย / จุดอ่อน…อาจจะต้องถูกยุบ /  ยกเลิก…แต่ส่วนที่เป็นจุดเด่น / จุดแข็ง ขององค์การ จะต้อง…ถูกผลักดัน / พัฒนาอย่างเต็มที่….ในเวลาเดียวกันส่วนที่ยังดำเนินการโดยไม่มีผลกระทบใดๆ….ก็ต้องพัฒนาตามไปด้วย….มีการใช้แบบจำลองของMcKinsey 7 –S Model …เพื่อเป็นแนวทางในการกำหนดกลยุทธ์ขององค์การ…..โดยสร้างความสอดคล้องของตัวแปรทั้ง 7  เริ่มตั้งแต่การกำหนดกลยุทธ์…กำหนด เป้าหมาย….กำหนดวิธีการ /  ระบบการดำเนินงาน / ทักษะที่ใช้ในการทำงาน….รวมถึงบุคลากรและธรรมเนียมในการปฏิบัติ….ปัจจัย ทั้ง 7 ประกอบด้วย…1. กลยุทธ์ (Strategy)… 2. โครงสร้าง (Structure)… 3. ระบบ (System)… 4. รูปแบบ (Style)… 5. การจัดการบุคคลเพื่อทำงาน (Staff)… 6. ทักษะ (Skill)…และ 7. ค่านิยมร่วม ( Shared valueและบางองค์การ / บริษัท ก็ใช้ BCG Growth-Share Matrix…..ในการกำหนดกลยุทธ์ขององค์การโดยใช้…BCG Approach เพื่อเปรียบเทียบความสัมพันธ์ของอัตราการเจริญเติบโตของตลาด (Market growth rate) กับส่วนแบ่งของตลาดเปรียบเทียบ (Relative market share) …โดยเทียบกับคู่แข่งที่เป็นรายใหญ่…ทำเป็นตารางกลยุทธ์ทางการตลาด (CG Growth-Share Matrix)… เพื่อครอบครองส่วนแบ่งการตลาดให้มากที่สุด…..มีหลายองค์การ / บริษัท ใช้การวิเคราะห์ GE Business screen…ใช้หลักการวิจัยการตลาดที่กว้างครอบคลุม…มีความละเอียด และซับซ้อนลงลึกกว่าBCG Matrix…..โดยใช้ ขนาดมูลค่าของตลาด…มาหาส่วนแบ่งทางการตลาด…และสร้างอัตราการเจริญเติบโต….ภายใต้สภาพในการแข่งขัน พร้อมทั้งโอกาสที่เอื้อให้สามารถสร้างกำไร…..จากการมีเทคโนโลยีและศักยภาพในการ…ผลิตสินค้า / เพื่อให้มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับของ ลูกค้า / ผู้ใช้ …..เป็นเทคนิคที่เหมาะสมกับการผลิตสินค้าหลากหลายแบบ จำนวนมากๆ….ที่ต้องการเอาชนะคู่แข่งในการจัดจำหน่าย…!                                                                        

สรุป: การกำหนดกลยุทธ์ในระดับองค์กร (Corporate Strategy)  แบ่งได้เป็น 3 ประเภท คือ….1. กลยุทธ์การขยายตัว / การเติบโต (Directional Strategy) ในรูปแบบต่างๆ…. เช่น Alliance , Merger , Acquisition , Diversification และ Concentration …..2. กลยุทธ์การลงทุนในหลายธุรกิจ (Portfolio Strategy หรือ Multi-business) เป็นกลยุทธ์การลงทุน…เพื่อกระจายความเสี่ยง…โดยใช้วิธีการวิเคราะห์คือ… BCG Growth-Share Matrix , Mckinsey Matrix / GE Business screen     3.  กลยุทธ์การขยายกิจการแบบ บริษัทแม่-บริษัทลูก (Parenting Strategy) เป็นหลักการขยายกิจการและการทำงานแบบบริษัทในเครือ                                     

 2 .กลยุทธ์ระดับธุรกิจ (Business Strategy) มุ่งเน้นที่การแข่งขัน…โดยใช้กลยุทธ์การแข่งขัน (Competitive Strategy) มุ่งที่ผลกำไรจากผลิตภัณฑ์ ที่…มีคุณภาพ….แบบถูกใจลูกค้า / ผู้ใช้สินค้า / ผู้ใช้บริการ...มีความพอใจในการซื้อสินค้านี้ในราคายุติธรรม…ผู้บริหารต้องใช้กลยุทธ์…การผลิตที่ดี ผนวกกับการตลาดที่ชาญฉลาด…ก็จะได้ส่วนแบ่งของตลาดสูงตามมาด้วย ทำให้ได้ผลกำไรสูงที่สุด…และเพิ่มมากขึ้นด้วย….ในข้อนี้ใช้หลักของ…Five Competitive Force Model… หรือ…สภาวะการแข่งขัน5 ประการ… ของไมเคิล อี พอร์ตเตอร์ (Michael E.Poter ) ได้แก่ New Entrance ,  Buyers , Suppliers , Substitute และ Rival…ใช่ร่วมกับหลักกลยุทธ์ 3 ประการคือ….Differentiation , Focus Strategy และCost Leadership)…..                                        

สรุป:  การกำหนดกลยุทธ์ในระดับธุรกิจ (Business Strategy) แบ่งเป็น กลยุทธ์เพื่อการแข่งขัน (Competitive strategy) และ กลยุทธ์เพื่อความร่วมมือ (Co- operative strategy).....กลยุทธ์เพื่อการแข่งขัน (Competitive strategy) ก็คือ - Differentiation  , Lower cost / Cost leadership , Focus and Quick Response…..กลยุทธ์เพื่อความร่วมมือหรือการเป็นพันธมิตร (Co- operative strategy) มี 2 แบบคือ …การร่วมมือกัน,ฮั้วกัน (Collusion) …..การเป็นพันธมิตรทางการค้า (Alliances) …ในลักษณะ…Mutual service Consortia … Joint venture …. Licensing Arrangement ….Value Chain Partnership ระหว่าง Supplier , Manufacturer และDistributor เพื่อ Long term relationship                                                                                                          

3. กลยุทธ์ระดับหน้าที่ / ปฏิบัติการ (functional / Operational Strategy) กำหนดกลยุทธ์ในระดับลงลึกในหน่วยงานย่อยที่มีผลต่อสินค้าและงานบริการตามหน้าที่หลักของแต่ละส่วนของ…องค์การ / บริษัท…..และต้องอยู่ในข้อกำหนดพันธกิจ วัตถุประสงค์ และเป้าหมายหลัก ตามแผนกลยุทธ์ขององค์การด้วย…  มีการแบ่งหน้าที่ / กิจกรรม เป็นส่วนๆเพื่อใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ อย่างมีประสิทธิภาพ คุ้มค่ากับการลงทุน สอดคล้องกับกลยุทธ์ในระดับที่ 1 และ 2 ….แผนงานจะถูกจัดตามส่วนของการผลิต….โดยทั่วๆไปที่ใช้ก็คือ…แผนงานของฝ่ายบริหารโรงงาน….เพื่อควบคุมการ ผลิต / จัดเตรียม วัตถุดิบ….ฝ่ายจัดซื้อ / จัดหา … ฝ่ายควบคุมคุณภาพ…..ฝ่ายวางแผน / พัฒนา ….ฝ่ายบุคลากร / กำลังพล( ทรัพยากรมนุษย์ ตลอดจนฝ่ายบัญชี /  การเงิน …ฝ่ายขนส่ง…และที่สำคัญต้องมีฝ่ายการตลาดที่เป็นสื่อกลาง / ระบาย /ขายสินค้า...ให้ลูกค้า / ผู้ใช้สินค้า / ใช้บริการ …….                                                                                                                                

สรุป: การกำหนดกลยุทธ์ในระดับหน้าที่ (Function Strategy) แบ่งตามหน้าที่ของหน่วยงานในองค์การ / บริษัท….หลักๆ 7 หน่วยงานคือ…Strategy Management / Production / Operations  / Logistics…. Marketing…. Purchasing  / Supply Chain management…. Financial…. MIS (Information System strategy)… R&D … HRM                                                                                                                        

 

บทส่งท้ายตอนที่ 49:  ในการกำหนดแผนการบริหารงานเชิงกลยุทธ์ทั้ง 3 ข้อตามที่ได้กล่าวมานี้ ต้องอยู่บนพื้นฐานของ….ความเป็นจริงและความเป็นไปได้…ของข้อมูลทั้งหมด…..โดยเริ่มจาก…วิสัยทัศน์….พันธกิจ…เป้าหมาย…และหลักปฏิบัติ 3 ข้อคือ… 1.  แผนปฏิบัติการ…ต้องสอดคล้อง / เหมาะสม / พอดี กับ…สภาวะแวดล้อมทั้งภายใน / ภายนอก…กับปัจจัยหลักที่มีอยู่ขององค์การ / บริษัท …โอกาสที่เอื้ออำนวย / เปิดทางให้…คุ้มค่ากับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ / ต้องมีวิธีป้องกัน / แก้ไข…เตรียมไว้…2. ความสามารถหลัก ขององค์การ / บริษัท…ต้องสอดคล้องกับ ธรรมเนียม / ค่านิยม / ทัศนคติที่ดี…สามารถดึงจุดเด่นของปัจจัยที่มีอยู่ ออกมาได้…ทั้งจาก…บุคลากร / เทคนิค / วัตถุดิบ…. และ 3. การสร้างความเข้าใจให้กับทุกระดับสายงาน….ให้สามารถปฏิบัติได้ เพื่อความเหมาะสมกับ…ความสามารถหลัก / แต่ต้องสร้างแรงกระตุ้น / แรงจูงใจ / และมีรางวัลของผลงานตามสมควรไว้ด้วย…เพื่อให้ทุกส่วนขององค์การเดินไปตามแผนพร้อมๆกันได้ ….ก็ต้องมีการแบ่งระดับกลยุทธ์เพื่อเริ่มดำเนินงาน…..องค์การที่มีขนาดใหญ่…ที่มีความซับซ้อนของกระบวนการทำงานมากๆ….ก็ต้องใช้แผนกลยุทธ์ทั้ง 3  ระดับ โดยเริ่มจาก…ผู้บริหารระดับสูง / เป็นผู้กำหนดกลยุทธ์หลัก….ต้องควบคุม กลยุทธ์ระดับองค์การ / บริษัท……ผู้บริหารระดับกลาง / ผู้กำหนดกลยุทธ์ในส่วนฝ่ายปฏิบัติการ….ต้องควบคุม กลยุทธ์ระดับธุรกิจ ……ผู้บริหารระดับล่าง / ผู้กำหนดกลยุทธ์ภาคผู้ปฏิบัติงาน….….ต้องควบคุม กลยุทธ์ระดับหน้าที่ ปฏิบัติการ……อย่างไรก็ดีหัวใจของการแบ่งระดับกลยุทธ์อยู่ที่….การสร้างความเข้าใจ / การสื่อสารภายใน / ภายนอกองค์การ / หรือบริษัท……ด้วยความมุ่งมั่นและพัฒนาของผู้บริหารระดับสูง….ถึงแม่ท่านอาจจะไม่ได้ลงมือทำเอง….แต่ท่านจะเป็นแรงส่ง / แรงผลักดัน…ที่ดีเยี่ยมสำหรับ องค์การ / บริษัทของท่าน…..                                                                           

ประการสำคัญ ต้องใช้เทคนิคการวิเคราะห์ตำแหน่งการแข่งขันให้ถูกต้อง…ก็จะได้ข้อมูลที่แสดงสถานภาพของ องค์การ / บริษัท…โดยใช้…1.    BCG Matrix …2.    Mckinsey Matrix (GE Business screen)….3.    5 forces Model…rival intensity…barrier to entry…threats of substitution…bargaining power of buyers… bargaining power of suppliers…!

 

 /////////////////////////////////////////

13/11/2552


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที